“นั่นน่าจะเป็นเพื่อนๆ ยัยหนูเดือนกับครูล่ะมั้งฉันว่า”
เหมือนดาวได้เห็นชุดนักเรียนของเพื่อนพี่ ก็ให้เสียใจ น้ำตาก็พาลจะไหลออกมาให้ได้ “แม่คะ หนูดาวขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” แล้วก็รีบลุกไปโดยไม่ทันได้ฟังว่าแม่จะอนุญาตหรือไม่ด้วยซ้ำ
ด้วยสะเทือนใจยิ่งกับแฝดพี่ที่ต้องจากไปโดยไม่ได้ล่ำลากันเลยแม้แต่คำเดียว เหมือนดาวรีบเปิดน้ำก๊อกล้างหน้าที่มีคราบน้ำตาไหลอาบสองแก้มตั้งแต่ตอนเดินออกจากศาลามาแล้ว ครั้นพอได้ยินเสียงกลุ่มคนเดินตรงมา เลยหนีเข้าไปในห้องส้วม เพื่อรอให้ทุกคนทำธุระเสร็จแล้วออกไปจนหมดถึงจะออกมา
“เอ้ย! คนหน้าตาหล่อๆ ตัวสูงๆ ใส่สูทเท่ห์ๆ นั่นหรือเปล่าวะอิง ที่แกบอกว่ายัยหนูเดือนแอบรักมานานแล้วน่ะ” หนึ่งในสามสาวน้อยในชุดนักเรียนมัธยมปลายกระซิบกระซาบถามอิงฟ้า ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกับคล้ายเดือนกว่าใครในห้องเรียน
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่น่าจะใช่พี่ตะวันของยัยหนูเดือนนั่นล่ะ เพราะเคยเอารูปให้ฉันดูบ่อยๆ ตัวจริงน่ะหล่อกว่าในรูปอีกนะ ถึงจะอายุเยอะกว่าพวกเราตั้งสิบกว่าปีก็เหอะ แต่ทั้งหล่อทั้งรวยเลยอะ มิน่าล่ะยัยหนูเดือนถึงได้เพ้อหาตลอดเลย”
อิงฟ้าตอบเพื่อนไป มือก็ถูกกันไปมาอยู่ใต้ก๊อกน้ำไปด้วย “แถมเจ้าชู้ด้วยนะพวกแก คุณตะวันคนนี้น่ะ เรียกว่ามีผู้หญิงไว้ทุกที่ก็ว่าได้เลยล่ะฉันได้ยินพี่ๆ ฉันเม้าส์ถึงตลอดเลยเวลาไปทำอะไรกินที่บ้านฉันน่ะ เรียกว่าพวกหล่อนไม่คุยเรื่องใครนอกจากเรื่องผู้ชาย”
มยุรินอีกหนึ่งสาวที่ไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำสักนิด แต่ตามเพื่อนมาเม้าส์มอยรีบสมทบทันที “จริงเหรอยัยจิ แล้วพี่กับเพื่อนพี่หล่อนรู้จักคุณตะวันด้วยเหรอ”
“อ้าว! ยัยมิ้ง! มาถามแบบนี้แปลว่าไม่รู้ซะแล้วว่าบ้านฉันน่ะรวย แล้วพี่ๆ ฉันน่ะก็ชอบขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจด้วย แถมครูสอนพวกหล่อนก็คือคุณตะวันนั่นล่ะ พอเรียนเสร็จก็พากันไปนั่งเพ้อถึงไม่หยุดสักที ต่างคนก็ต่างอยากเป็นแฟนคุณตะวันกันทั้งนั้นล่ะ ตอนแรกฉันก็หมั่นไส้แล้วก็คิดว่าพวกนางบ้านะ แต่พอมาเจอตัวจริงเข้า หือ!!! หล่อขั้นเทพเลยล่ะพวกแกว่ามั้ย” สาวน้อยจิรภาทำท่าทางเคลิ้มฝันอวดเพื่อนอย่างไม่อาย “จริงของแกว่ะจิ คนอะไรโคตรหล่อเลยอะ แถมรวยด้วย มีที่ดินตั้งหลายพันไร่นะ มิน่าล่ะยัยหนูเดือนถึงได้หลงรักหัวปักหัวปำขนาดนี้ เพราะมันอยู่ใกล้ๆ นี่เอง”
“ว่าแต่ยัยหนูเดือนเคยบอกแกป่าววะอิง ว่าได้...คุณตะวันหรือยัง”
มยุรินทำท่ากระซิบกระซาบถามอิงฟ้าด้วยความอยากรู้ “เอ้ย! ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ยัยหนูเดือนไม่เคยบอกอะไรลึกๆ ขนาดนี้หรอก” อิงฟ้าปฏิเสธเสียงแข็ง
“จริงเหรอแก อย่ามาปิดพวกฉันนะ แกสนิทกับยัยหนูเดือนจะตายไป มีอะไรก็ถึงกันหมด บอกมาดีๆ ว่ามันได้ฟันคุณตะวันซึ่งเป็นคนที่มันรักก่อนตายบ้างหรือเปล่า ไม่งั้นฉันคงเสียดายแทนมันแย่เลยล่ะแกเอ้ย!”
จิรภาเองก็อดอยากรู้ และทำท่าเสียดายแทนเพื่อนผู้จากไปไม่ได้ “บ้าจริงยัยจินี่ พอได้แล้วๆ เรารีบออกไปดีกว่า เดี๋ยวอาจารย์จะดุเอา หายมานานแล้ว”
“ไม่! จนกว่าแกจะบอกว่ายัยหนูเดือนกับคุณตะวันมีอะไรกันหรือเปล่าก่อน”
“บ๊า!!! ฉันไม่รู้หรอก ไปๆๆ รีบๆ เข้า” ว่าแล้วสามสาวก็วิ่งออกไปจากห้องน้ำโดยมีอิงฟ้าวิ่งนำไปก่อนใครเพื่อน เพราะไม่อยากตอบคำถามที่ตัวเองก็ไม่ได้ล่วงรู้ตื้นลึกหนาบางอะไรมากมายนัก
ส่วนอีกสาวที่เปิดประตูออกมาด้วยใบหน้าเศร้าหงอยแล้วมองตามหลังเพื่อนพี่ไปนั้นก็ให้สงสัยใคร่อยากรู้เรื่องราวของพี่ให้มากกว่านี้เหลือกำลัง และไม่อยากจะเดาเลยจริงๆ ว่าพี่สาวกับผู้ชายที่ตัวเองเพิ่งจะจดทะเบียนไปนั้นมีอะไรกันลึกซึ้งถึงขั้นไหน หรือไม่ ยังไง แต่ตัวเองก็ยังเด็กเกินกว่าจะอ้าปากถามใครให้ได้ความกระจ่างได้ จึงเพียงเก็บงำความสงสัยใคร่อยากรู้นี้เอาไว้คนเดียว และเฝ้าสังเกตดูแสงตะวัน ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเรื่องงานศพตั้งแต่งานวันแรกกระทั่งถึงวันเผาเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยได้ยินใครจะพูดเรื่องนี้ให้ได้ยินอีกเลย
เพื่อนๆ ของพี่และคณะครูที่มาร่วมไว้อาลัยอีกครั้งในวันเผาก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรอีกเลย เหมือนดาวจึงผิดหวังนิดๆ และรู้สึกเกลียด ‘นายแสงตะวัน ผลทับทอง’ ผู้มากด้วยเสน่ห์และมีสายตาของสาวที่มาร่วมงานหลายสิบคู่ต่างคอยจับจ้องไม่ว่างเว้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
แม้จะยังเด็ก แม้จะยังไม่ประสาในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่ก็ดูรู้ว่านายคนนี้ไม่ธรรมดา เจ้าชู้เข้าขั้นเลยก็ว่าได้ สายตาที่มองสาวคนนั้นคนนี้ขณะคุยด้วยก็ไม่อยู่นิ่ง จะมองไปคุยไปจ้องไปจนคู่สนทนาแทบจะละลายไปเลยทีเดียว
‘หรือพี่หนูเดือนจะท้องกับนายจริงๆ แต่นายไม่รับผิดชอบพี่หนูเดือนเลยฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดบันได หรือเป็นนายเองที่ทำให้พี่หนูเดือนต้องตาย’
นั่นคือข้อสงสัยใหม่ที่สิงสู่อยู่ในใจของสาวน้อยหน้าใสไร้เครื่องแต่งแต้ม แต่ก็ยังไม่ได้บอกใคร หรือหาโอกาสบอกไม่ได้ หรือไม่กล้ามากพอที่จะบอก ด้วยเพราะทั้งแม่ พ่อเลี้ยงและอาต่างยำเกรงแสงตะวันกับอาทิตย์ผู้พ่อของเขามากนั่นเอง
เจ้าของร่างสูงใหญ่ในชุดกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำกำลังยืนเอาไหล่พิงขอบหน้าต่างห้องนอนชั้นสี่ มองลงไปหาสองแม่ลูก กับอีกสองหนุ่มใหญ่เดินจากรีสอร์ตตรงมายังบ้านเขาด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายไม่น้อย
เหนื่อยทั้งจากงานอันหนักอึ้งของตัวเอง ไหนจะมีงานไร่กับรีสอร์ตของพ่อตาผู้จากไปแล้วอีก และไหนจะเหนื่อยกับเมียที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีให้ต้องดูแลอีก ยิ่งมองดูร่างเล็กๆ ผอมๆ กับผมสั้นเลยติ่งหูหน่อยเดียวที่กำลังเดินเคียงข้างแม่มาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยล่วงหน้ากับภาระที่ต้องรับผิดชอบอันใหญ่หลวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยซ้ำ