EP 39
1159 คำ
“คงจะไปนอนกกนอนกอดกันล่ะสิท่า แหวะ! กลางวันแสกๆ ช่างไม่อายฟ้าดินเอาซะเลย อีกไม่กี่ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว รอไม่ได้หรือไงกัน ทุเรศ!” แล้วก็อดเบะหน้าใส่รอบสองไม่ได้ เมื่อจินตนาการออกว่าทั้งสองจะพากันไปที่ไหน และจบลงด้วยวิธีใด
“แนทไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าป๋าจะหลงเชื่อคำของเด็กเพิ่งเรียนจบ จนต้องควักเงินเป็นร้อยเป็นพันล้านมาลงทุนขนาดนี้ ไม่กลัวเจ้งหรือไงคะตะวัน ทีแนทชวนเปิดร้านขายเสื้อผ้า เปิดร้านอาหาร ร้านขายเครื่องสำอางตั้งหลายครั้ง ไม่เห็นจะสนใจเลย เงินทุนก็ไม่กี่ล้านด้วย”
และเมื่อบทรักอันหวานหอมบนห้องประจำของสนันตนาจบสิ้นลงในเวลาบ่าย อารมณ์ขุ่นเคืองกลับเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาอย่างยากจะหลีกเลี่ยงได้ เมื่อแสงตะวันเล่าเรื่องโปรเจกต์สวนให้ฟัง
“ไม่มีใครรู้หรอกแนท แล้วผมก็ห้ามไม่ได้ด้วย ในเมื่อป๋าจะเอาเงินมาลงทุนเองทั้งหมด ถ้าผมไม่ยอมร่วมด้วย” เขาอธิบายไปด้วยแล้วก็ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าไปด้วย “แล้วตะวันว่าไงล่ะคะ จะลงด้วยหรือเปล่า หรือแค่ช่วยบริหารกับเป็นที่ปรึกษาให้เด็กนั่นเท่านั้น”
“ผมก็คงต้องลงด้วยสักครึ่งนั่นล่ะ เดี๋ยวป๋าจะหาว่างก”
“นั่นตะวันจะไปไหนคะ แนทเพิ่งมาถึงเองนะคะ” ร่างที่มีผ้าขนหนูผืนเดียวหุ้มไว้รีบตรงเข้าไปกอดเขาแล้วจูบอย่างรักใคร่ “ผมจะไปทำงาน หายออกมาแบบนี้คนจะว่าได้”
“ไม่เห็นต้องแคร์เลยนี่คะ แนทอยากอยู่ใกล้ๆ ตะวันค่ะ คิดถึงจะแย่ เราไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองเลยนะคะ ตั้งแต่ตะวันแต่งงานกับเด็กนั่นแล้ว เที่ยวก็ไม่ได้เที่ยวด้วยกัน”
“ผมมีงานนี่นา”
“แนทก็มีงานค่ะ และเป็นงานที่เลือกไม่ได้ด้วยว่าจะทำเมื่อไหร่หยุดเมื่อไหร่ ตะวันต้องหมุนตามแนทสิคะ พอเวลาแนทว่างตะวันก็ช่วยทำตัวให้ว่างหน่อยสิคะ เราไปหาที่สงบๆ อยู่ด้วยกันสองคนดีมั้ยคะ แนทเบื่อเมียเด็กของตะวันจะแย่แล้วค่ะ บอกตรงๆ เห็นแล้วแสลงใจ”
“แนทอยากไปไหนล่ะ” เพราะพักนี้แสงตะวันรู้ตัวดีว่าไม่มีเวลาให้แฟนสาวมากนัก ยิ่งต่อไปยิ่งจะไม่มีเวลาเลย เมื่อโปรเจกต์ของเมียฟันน้ำนมยังไม่หยุดเดินหน้าเต็มที่
“ทะเลดีหรือเปล่าคะ หรือไม่ก็นั่งเครื่องไปไหนสักที่ แนทไม่เกี่ยงหรอกค่ะ ขอให้มีตะวันก็เป็นพอ แนทว่างอาทิตย์หนึ่ง เราใช้เวลานี้อยู่ด้วยกันนะคะ”
“ก็ได้ งั้นระหว่างผมไปเคลียร์งาน แนทก็หาข้อมูลแล้วกันว่าเราจะไปไหน เย็นๆ ผมจะมารับ”
“ค่ะ รักคุณจัง”
แสงตะวันยิ้มให้แฟนสาว หลังถูกสองแขนเรียวโน้มต้นคอลงไปรับจูบแก้มสากหนึ่งฟอด ก่อนจะออกจากห้องไป ทิ้งให้คนต้นคิดรีบหาข้อมูลที่พักผ่อนทันที
มัลดีฟคือเป้าหมายของสนันตนา เลยรีบจัดการจองตั๋วเครื่องบินและห้องพักทุกอย่างด้วยบัตรเครดิตที่แสงตะวันเป็นคนรับผิดชอบการจ่ายโดยไม่เคยถามแม้แต่คำเดียวว่าแฟนสาวรูดซื้ออะไรบ้าง
อีกทั้งสนันตนาก็มีงานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำที่นั่น ร่วมกับเพื่อนนางแบบด้วยกันอีกสามคน จึงไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องการเดินทางบ่อยๆ แค่ปล่อยให้แฟนหนุ่มกลับก่อน หรือไม่ก็ใช้มารยาออดอ้อนให้เขาอยู่ต่อจนงานตัวเองเสร็จแล้วกลับพร้อมกัน จะได้เอามาเย้ยแม่เมียฟันน้ำนมของเขาให้หน้าหงายไปเลย
ตอนที่ 7
และเมียฟันน้ำนมที่สนันตนาค่อนขอดอยู่ในใจ ก็กำลังปั่นจักรยานคันเก่งกลับเข้าบ้านในเวลาใกล้ห้าโมงเย็น ซึ่งเร็วกว่าปกติ เพราะอยากจะอาบน้ำให้หายเหนื่อยแล้วเข้าไปสำรวจห้องทำงานที่คนเป็นเจ้าของจะไม่อยู่อีกหลายวัน จากการบอกเล่าให้รับรู้โดยอิสระ ขณะกำลังนัดหมายกันจะไปขอนแก่นกับสุรินทร์เมื่อตอนบ่าย ซึ่งนี่เป็นโอกาสทองที่หาได้ยากยิ่งแล้ว
“ฉันกับตะวันจะไปมัลดีฟสักอาทิตย์” เหมือนดาวทำท่าเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ขณะเดินเข้าบ้านมาพร้อมกระเป๋าสะพาย เพราะไม่เข้าใจว่าสาวไฮโซจะมาบอกทำไม “ฉันถามเหรอคะ” เลยตีรวนกลับไปด้วยใบหน้ากวนประสาท
“ปากเธอไม่ได้ถาม แต่ตาเธอที่มองสมหมายหิ้วกระเป๋ามาบอกว่าอยากรู้ ฉันเลยบอกให้จะได้ไม่ต้องเหนื่อยถาม” สนันตนาในชุดกางเกงขาสั้นลายดอกโบตั๋นสีฟ้ากับเสื้อเกาะอกสีขาวอวดน่องยาวเรียวราวนางพญา แล้วส่งยิ้มของคนมีชัยให้แม่เมียฟันน้ำตาได้เห็น
“ขอบคุณนะคะที่กรุณา”
เหมือนดาวกระชับสายกระเป๋าสะพายกับบ่าแล้วทำท่าจะเดินขึ้นบันไดไป “เธอไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีกรรมไปสักหน่อยเหรอ ที่แต่งงานมาหลายเดือนแล้วแต่ยังไม่เคยได้ไปฮันนีมูนกับสามีสักครั้ง”
แต่สนันตนาก็ไม่คิดจะปล่อยให้เดินหนีได้ เพราะอยากหาเรื่องอย่างยากจะห้ามใจได้ เมื่อคิดถึงเงินร้อยล้านที่อาทิตย์จะทุ่มกับโปรเจกต์ฟันน้ำนมที่มองยังไงก็เจ้งเห็นๆ
“ฉันถือว่าตัวเองเป็นคนมีบุญด้วยซ้ำค่ะ” เหมือนดาวหยุดแล้วหันมายิ้มให้อย่างคนมีชัยไม่แพ้กัน “บุญอะไรไม่ทราบ หรือบุญที่ได้นอนกอดทะเบียนสมรสแทนตัวผัวน่ะเหรอ” อีกคนก็ยิ้มไม่แพ้กัน
“มิได้ค่ะ! บุญที่ว่าของฉันก็คือ ได้แต่งงานกับทายาทเศรษฐีหมื่นล้าน โดยไม่ต้องเอาตัวเข้าแลกสักนิด แต่มีคนกรรมหนาคิดว่าตัวเองมีบุญมาทำหน้าที่แทนต่างหากล่ะคะ ไม่ถือว่าบุญแล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะคะ”
“งั้นเหรอ! บ้านฉันเรียกว่าบุญมีแต่กรรมบังมากกว่า”
“งั้นกรรมที่มาบังฉัน ก็คงจะเป็นคุณละมั้งคะ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ปกติคนทั่วไปจะถือว่าถ้าเราทำบุญทำทานให้มากๆ กรรมก็จะหมดไปเอง ตอนนี้ฉันเลยต้องทำบุญทำทานด้วยการยกสามีให้กรรมอย่างคุณไปนอนกกนอนกอดก่อนก็แล้วกันค่ะ สงสารเห็นว่าแก่จนเหนียงยานแล้ว เลยให้มีความสุขไปก่อน เพราะสาวๆ อย่างฉันจะเรียกสามีกลับคืนเมื่อไหร่ก็ย่อมทำได้”
- ผู้เขียน
