“ไอ้ชมพู!!!”
“ห๊ะ.....”
“เหม่ออะไร พวกฉันเรียกตั้งหลายรอบ” พศินถามเสียงดัง
“โทษที พยายามคิดถึงเรื่องเมื่อคืน แต่จำไม่ค่อยได้”
“เอาน่า ช่างมันเถอะ คิดซะว่ามันคือประสบการณ์ครั้งแรก” ปรางค์วลัยพูดปลอบใจ
“ฉันก็ไม่ได้คิดมากนะ เพียงแต่ฉันจำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง” ชมพูแพรบอกเพื่อนพลางขมวดคิ้วที่ตัวเองนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
“ไม่โดนหลอกไปขายก็ดีแค่ไหนแล้วแม่คุณ รอยดูดทั่วตัวขนาดนั้น” พศินมองแวบเดียวก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา เมื่อดูจากร่องรอยบนเนื้อตัวของชมพูแพร
“พอๆ แล้ววันนี้กลับคอนโดเลยไหม” ปรางค์วลัยปรามห้ามทัพ
“ยัง ว่าจะไปโรงพยาบาลก่อน ฉันมีอาการหายใจไม่ค่อยออกอีกแล้ว”
“โอเค งั้นก็เดินทางดีๆ กลับถึงบ้านแล้วบอกด้วย”
ชมพูแพรพยักหน้ารับ เมื่อปรางค์วลัยบอกกำชับเธอ ก่อนที่พวกเธอจะแยกย้ายกันหลังเวลาเลิกงาน
ชมพูแพรเดินทางมาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมาก เธอเป็นภูมิแพ้ เวลาที่หายใจเอาไอฝุ่นมากๆ ก็จะมีอาการหายใจติดขัดหรือ ไอจามอยู่หลายวัน หนักเข้าก็จะมีน้ำมูกและเสมหะ พอรู้ตัวว่าถ้าปล่อยเอาไว้นานเธอจะเป็นหนัก เมื่อมีอาการเธอก็จะรีบมาหาหมอก่อนทุกครั้ง
“สวัสดีค่ะ มีอาการยังไงมาคะ” เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์สอบถามอาการหญิงสาวเมื่อเธอเดินเข้าไปนั่ง
หลังจากที่หญิงสาวทำประวัติเสร็จแล้วก็ถูกส่งไปยังห้องตรวจ เธอนั่งรอเงียบๆ จนกระทั่งพยาบาลเรียกชื่อก็ลุกเดินตามเข้าไปในห้องตรวจอย่างคนเคยชินกับการมาหาหมอเป็นประจำ
“เป็นอะไรมาครับ…..” เสียงทุ้มพูดนุ่มนวลก่อนจะเงยหน้ามองคนไข้แล้วก็ชะงักไป
“หายใจติดขัดค่ะ” ชมพูแพรตอบอย่างไม่ได้คิดอะไร เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับคุณหมอหนุ่ม แล้วรอเขาสอบถามอาการหมดเช่นทุกครั้ง
“พอดีคุณหมอทั่วไปวันนี้ไม่เข้าหลายท่าน หมอปอดเลยลงมาอยู่เวรแทนค่ะ” พยาบาลสาวบอกชมพูแพรด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อ๋อ ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
ชยกรอ่านอาการของหญิงสาวแล้วก็เปิดแฟ้มประวัติของเธอดู เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะบอกให้พยาบาลช่วยปิดประตูห้องตรวจให้
“หมอขอฟังเสียงปอดหน่อยนะ” เขาบอกเธอหลังจากวางปากกา
“เอ่อ ค่ะ” ชมพูแพรมีอาการกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ซึ่งเขาก็พอเดาได้ว่าเพราะอะไร
ชยกรเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้ร่างเล็ก หยิบสเต็ทโตสโคปขึ้นมาวางแนบไปที่หน้าอกของหญิงสาว ก่อนที่พยาบาลจะเข้ามาช่วยจับเสื้อของเธอยกขึ้น แล้วเขาก็วางแนบไปยังจุดต่างๆ เพื่อฟังเสียงปอดของหญิงสาว ก่อนที่จะพยักหน้าแล้วพยาบาลก็ปิดเสื้อลง
“คุณเคยเทสไหม ว่าแพ้อะไรบ้าง”
“ยังค่ะ”
“หาเวลาเข้ามาเทสหน่อยนะ จากอาการเหมือนว่าจะไม่ได้แพ้แค่ฝุ่น วันนี้เดี๋ยวผมสั่งจ่ายยาแก้แพ้ให้ แล้วก็ยาละลายเสมหะ”
“ค่ะ”
“เรียบร้อยแล้วนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
หลังจากหญิงสาวลุกขึ้นก็หยิบกระเป๋าขึ้นสะพายข้าง แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป โดยไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่าคุณหมอหนุ่มที่เธอหันหลังให้มองตามเธอจนลับตา
“คุณหมอรู้จักคนไข้คนเมื่อสักครู่เหรอคะ”
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ”
“ก็ปกติคุณหมอไม่เคยแทนตัวกับคนไข้ว่าผมหรือคุณเลยนี่คะ”
“งั้นเหรอครับ วันนี้มีอะไรอีกไหมครับ”
“ไม่มีแล้วค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อน แล้วถ้ามีอะไรฉุกเฉินก็โทรไปได้เลยนะ”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตาคมมองไปเห็นอะไรบางอย่างหล่นอยู่ที่พื้นก็ก้มลงหยิบแล้วเดินออกจากห้องไป
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ชมพูแพรก็ตรงกลับที่พักเลย ตอนนี้เธอพักอยู่คอนโดคนเดียว เป็นคอนโดที่พ่อแม่ของเธอซื้อให้เพราะต้องการให้เธออยู่ใกล้ที่ทำงาน จะได้ไม่ต้องเดินทางไปกลับไกลๆ
เมื่อกลับมาถึงที่คอนโด หญิงสาวก็จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ก่อนที่จะออกมากดโทรศัพท์เพื่อสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันดัง แล้วนั่งดูซีรี่ส์รออยู่เงียบๆ จนกระทั่งอาหารมาถึง เธอจึงลงไปรับที่หน้าคอนโด แล้วกลับมายืนรอลิฟต์เพื่อจะกลับขึ้นมาชั้นบน เมื่อลิฟต์เปิดก็เดินเข้าไป โดยไม่รู้เลยว่าหลังจากที่ประตูลิฟต์ปิด ก็มีร่างสูงเดินเข้ามาหยุดยืนรอลิฟต์พอดี
หลายชั่วโมงผ่านไป หลังจากที่กินมื้อเย็นเสร็จ แล้วอาบน้ำอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวเข้านอน ชมพูแพรก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือ ตั้งใจจะเดินกลับเข้าห้องนอน ก็ต้องสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์ที่อยู่ในมือแผดเสียงดังลั่น
“ฮัลโหล” คิ้วเรียวสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเบอร์ที่โชว์เป็นเบอร์ที่เธอไม่รู้จัก
“ทำไมคุณไม่ติดต่อผมมา” เสียงนุ่มที่ติดจะกระชากเล็กน้อยเพราะความไม่พอใจ
“.....ใครคะ”
“ลืมผัวตัวเองเหรอ”
“.....เฮ้ย คุณเองเหรอ”
“อือ”
“เอาเบอร์ฉันมาจากไหน”
“ผมหามาได้ก็แล้วกัน แล้วทำไมไม่ติดต่อผมมา”
“ก็ยุ่งๆ แล้วก็คิดว่าไม่จำเป็นด้วยอะ” ชมพูแพรพูดเสียงอ่อย
“นี่คุณ ไม่คิดจะเสียดายครั้งแรกของตัวเองหน่อยเหรอ”
“ก็ไม่นะ”
“.....” ชยกรอึ้ง เขาถอนหายใจเสียงดังจนหญิงสาวได้ยิน
“ว่าแต่มีอะไรคะ”
“คุณทำอะไรหาย ไม่สังเกตเลยเหรอ”
“ก็ไม่มีนะ”
“.....บัตรประชาชนคุณอยู่ที่ผม”
“จะไปอยู่ที่คุณได้ยังไง เมื่อเย็นฉันยังใช้อยู่เลย.....อ๊ะ แป๊บนะ”
ชมพูแพรเถียงก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไปโรงพยาบาลมา และไม่แน่ใจว่าได้เก็บบัตรประชาชนลงในกระเป๋าหรือยัง หญิงสาวรีบเดินไปหยิบกระเป๋าเงินที่ยังไม่ได้เก็บเข้ากระเป๋าสะพายมาเปิดดู และก็จริงเหมือนที่เขาบอก มันไม่ได้อยู่ในกระเป๋าของเธอ
“เอ่อ อยู่ที่คุณจริงเหรอ อยู่ได้ยังไง”
“แล้ววันนี้คุณไปไหนมา”
“ไปโรงพยาบาล”
“อืม”
“.....”
“มาหาผมที่ผับ เข้าไปที่บาร์ บอกบาเทนเดอร์ว่ามาหาผม พวกเขาจะให้คนพาคุณขึ้นมาที่ห้องทำงานผม”
“เดี๋ยวสิคุณ ฉันไม่รู้ชื่อคุณนะ”
“.....ผมชื่อหนึ่ง แล้วเจอกัน คุณชมพูแพร”
หญิงสาวหันหน้าจอโทรศัพท์มาดูแล้วก็ทำหน้าตาเหลอหลา สรุปว่าเธอต้องไปใช่ไหม เท้าเล็กก้าวไปยืนหน้ากระจกบานใหญ่ที่หน้าตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ดวงตากลมโตมองสภาพของตัวเองที่พร้อมนอนก็ถอนหายใจ มองหากางเกงยีนขาสั้นสีขาวแล้วหยิบขึ้นมาสวม ก่อนจะมองไปที่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีดำที่เธอใส่กลับมาเมื่อเช้า ตอนนี้มันได้รับการซักตากไว้จนแห้ง เธอเพิ่งเก็บเข้ามาเมื่อตอนกลับมาถึงห้อง ใบหน้าหวานมองเงาสะท้อนในกระจก หยิบเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีดำขึ้นมาสวม ก่อนจะมัดผมขึ้นเป็นหางม้าแล้วเดินออกมาจากห้องนอน คว้ากระเป๋าสะพาย กระเป๋าเงิน และโทรศัพท์เดินออกจากห้องไป
“สวัสดีค่ะ มาหาคุณหนึ่งค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยเมื่อมาถึงที่หน้าบาร์
บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายเอาไว้อยู่แล้วพยักหน้ารับแล้ววอร์เรียกผู้จัดการให้มาทำหน้าที่พาหญิงสาวขึ้นไป
“รอสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มบอกเธอก่อนจะยิ้มให้ รอจนเมื่อผู้จัดการของผับเดินเข้ามา เขาถึงกลับไปทำหน้าที่ของเขาต่อ
“เดี๋ยวผมพาไปส่งครับ คุณหนึ่งบอกให้คุณขึ้นไปที่ชั้น 2 ใช่ไหมครับ”
“ค่ะ เขาบอกให้ขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ”
“ครับ งั้นตามผมมาเลยครับ”
ชมพูแพรเดินตามชายคนดังกล่าวที่เป็นผู้จัดการของผับไปเงียบๆ หญิงสาวกลายเป็นจุดสนใจของหลายคนเพราะเธอเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ซึ่งขาประจำจะรู้กันดีว่าเป็นชั้นของเจ้าของผับ มันมีทั้งห้องทำงานและห้องส่วนตัวอยู่บนชั้นนี้
ก๊อก ก๊อก
“เชิญ”
“พามาส่งแล้วครับ”
หลังจากประตูถูกเปิด ก็ปรากฏร่างเล็กที่เดินตามชายหนุ่มผู้จัดการผับเข้ามาด้านใน เขารายงานกับเจ้านายหนุ่ม ก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ ปล่อยให้ชมพูแพรอยู่กับชยกรตามลำพัง
“นั่งก่อนสิ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมาเอาบัตรประชาชนคืน”
“จะเอาคืนไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะคุณ ผมอุตส่าห์เก็บมาให้นะ”
“ว่าแต่คุณไปเจอได้ยังไง ฉันไม่ได้ไปไหนนอกจากโรงพยาบาลนะ”
“ก็ที่โรงพยาบาลนั่นแหละ คุณทำหล่นเอาไว้ในห้องตรวจ”
“ห้องตรวจ.....?” เสียงหวานใสทวนคำพูดเขาก่อนจะพยายามนึก
“อือ”
“.....คุณ.....หมอ เหรอ”
“อือ หัวไวดีนี่ ถึงจะเซ่อซ่าไปหน่อยก็เถอะ”
“จริงดิ”
“แล้วทำไมถึงคิดว่าไม่จริง”
“ก็ ฉันเจอคุณที่ผับ”
“แล้วหมอเที่ยวไม่ได้เหรอ”
“คุณมาเที่ยวเหรอ”
“เปล่า มาทำงาน ผมเป็นเจ้าของที่นี่”
“หา.....”
“เห้อ ไปเถอะ ลงไปหาอะไรดื่มกันหน่อย”
ร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกมาดึงให้หญิงสาวที่ยืนงงอยู่ให้เดินตามเขาออกจากห้องไป
“เอาเหมือนเดิม” เจ้าของเสียงนุ่มสั่งลูกน้องหลังจากนั่งลงที่เก้าอี้ตัวสูงหน้าเคาน์เตอร์
“ครับ แล้วคุณผู้หญิงรับอะไรดีครับ”
“ขอค็อกเทลเบาๆ ก็พอค่ะ”
“รับทราบครับ”
หญิงสาวนั่งมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆ บรรยากาศสนุกสนาน เสียงเพลงที่อยู่ในช่วงเวลาเพลงซึ้งเพื่อพักขาของเหล่านักเต้น ทำให้บรรยากาศดูไม่พลุกพล่าน
“ได้แล้วครับ แล้ววันนี้นายค้างคืนไหมครับ หรือกลับเลย”
“น่าจะกลับ พาเขาไปส่ง” ดวงตาคมมองไปที่ร่างเล็กเป็นเชิงบอก ก่อนที่เขาจะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ
“แล้วมีคนขึ้นไปเคลียร์บนห้องหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ แล้วชุดสีขาวให้ทำยังไงครับ”
“นี่ ชุดจะเอาไหม หรือจะให้ทิ้งไปเลย” ชยกรหันไปถามคนข้างๆ ที่นั่งมองนั่นมองนี่หลังจากลูกน้องถาม
“ชุดฉันเหรอ”
“ชุดสีขาวเมื่อวาน”
“อ๋อ ทิ้งไปก็ได้ มันไม่น่าจะซักออก”
“ตามนั้นแหละ”
เมื่อได้คำตอบจากหญิงสาว ชยกรก็พยักหน้ากับลูกน้อง เขานั่งคุยกับลูกน้องเบาๆ ปล่อยให้ชมพูแพรนั่งมองนั่นมองนี่พร้อมกับจิบเครื่องดื่มไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที หญิงสาวตัวเล็กข้างๆ ก็เมาจากการดื่มไปหลายแก้ว