ตอนที่ 6
กฤตดนัยขับของเขาตรงไปยังที่อยู่ที่ได้มา พอไปถึงก็เจอกับอพาร์ตเมนต์ที่มีห้องพักเล็กๆ เขาเดินตรงเข้าไปภายในไล่เลขที่ห้อง จนมาอยู่หน้าห้องของเธอ เขาเคาะประตูสามครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เขาลองเคาะประตูเสียงดังขึ้นกว่าเดิมหวังให้เธอได้ยิน จนมันดังขึ้นเรื่อย ๆ แล้วประตูก็เปิดออก ทําให้เขาค้างมือที่กําลังจะเคาะเรียกเธออีก
“ริสา ธะ..เธอ เป็นไรหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสภาพเธอที่เปิดประตูออกมาด้วย ใบหน้าแดงกลํ่า ดวงตาอิดโรยเหมือนคนไม่สบาย
“คะ..คุณมาได้ไง” มาริสาถามเขาด้วยเสียงแหบแห้ง
“ก็คุณไม่ไปทํางาน ผม เอ่อ..กลัวคุณเบี้ยว” กฤตดนัยไม่กล้าพูดว่าคิดถึงและเป็นห่วง เขาไม่รู้เป็นไรรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูกที่หายหญิงสาวหายหน้าหายตาไปดื้อ ๆ ใจจริงเขาอยากจะบอกว่าคิดถึงเหลือเกินที่เห็นเธอหายไป ใจมันเรียกร้องให้มาตามหาเธอนะสิ
“ฉันจะทําชดเชยเวลาให้ไม่ต้องห่วง ฉันรักษาคําพูด”
มาริสาหน้าตึงขึ้นมาเมื่อได้คําตอบของเขาแบบนั้น เธอจึงตอกกลับแล้วจะปิดประตู ไม่อยากพูดกับคนหน้าเลือดอย่างเขาอีก
“ดะ..เดี๋ยวสิ ขอผมเข้าไปหน่อย” กฤตดนัยเอามือดันประตูแล้วเดินเข้าห้องเธออย่างคนเสียมารยาทโดยที่เธอไม่ทันพูดอะไรเลย
“เฮ้ย! คุณ จะเข้ามาหันรีหันขวาง ออกไปเลยนะ” มาริสาร้องอย่างตกใจและดันตัวเขาให้ออกไป แต่เขาตัวใหญ่กว่ามาก ดันเท่าไรเขาก็ไม่ขยับ เธอไม่อยากให้ใครเข้าห้องเธอ มีคนเดียวที่เคยมาห้องเธอคือณิชา และก็มีเขานี่แหละที่ดันทุรังจะเข้ามาโดยเธอไม่อนุญาต
“ผมหิวนํ้า ขอกินนํ้า สักแก้วนะ”
กฤตดนัยเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าวเล็กๆ สําหรับสองที่นั่งข้างตู้เย็นอย่างถือวิสาสะแล้วใช้สายตาสํารวจตามห้องพักของเธอ
“นี่คุณ! อยากจะกินนํ้าก็ไปกินห้องคุณโน้นสิ แล้วก็ออกไปได้แล้ว ฉันจะพักผ่อน” มาริสาเอ่ยปากไล่เขาด้วยเสียงแหบแห้งเหมือนเดิม เธอตำหนิเขาในใจที่เห็นสายตาเขามองไปทั่วห้องของเธอ
“เธอนี่ใจดําจริง ๆ เลยนะ ขอนํ้ากินสักแก้วก็ไม่ได้”
“อ่ะ! ดื่มเสร็จก็กลับไปได้แล้ว” มาริสายื่นแก้วนํ้าเปล่ามาวางตรงหน้าเขา พร้อมเอ่ยปากไล่ เธอรู้สึกเวียนหัวมากๆ อยากให้เขารีบกลับไปซะที เธออยากทิ้งตัวนอนจะแย่แล้ว
“นี่เธอไล่ฉันเหรอ?” กฤตดนัยถามคนที่ไล่เขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง ยัยตัวแสบไม่มีมารยาทเอาซะเลย ทําเหมือนเขาเป็นตัวน่ารังเกียจอย่างนั้น
“ใช่”
“รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” กฤตดนัยสวนตอบเธอทันทีด้วยอารมณ์โกรธ ที่เธอกล้าพูดยอมรับว่าไล่เขา เขาไม่เคยโดนหญิงสาวคนไหนพูดแบบนี้กับเขามาก่อน ไหน ๆ คืนนั้นเธอก็หักหน้าเขาไปครั้งหนึ่งแล้ว
“เอ่อ..มะ..ไม่ใช่แบบนั้น..ฉันแค่อยากพักผ่อน” มาริสาเห็นหน้าเขาดุขึ้นพูดเสียงดังก็เริ่มกลัวขึ้นมา เขายิ่งบ้าๆ อยู่ กฤตดนัยลุกขึ้นยื่นหน้าไปจ้องมองดวงตาเธอ ที่เริ่มสั่นไหวด้วยความกลัวขึ้นมา
“นี่! ยื่นหน้ามาทําไม ถ้าไม่กินนํ้าก็กลับไปได้แล้ว” มาริสาดันใบหน้าเขาออกที่เข้ามาใกล้เธอเกินไป พร้อมเอ่ยปากไล่เขาอีก รอบ
“ไล่จริง ไล่จัง ฉันมันน่ารังเกียจมากหรือไง”
“เอ๊ะ! คุณนี่เป็นผู้ชายประเภทไหนกัน ทําไมพูดไม่รู้เรื่อง..หึ” มาริสาตะวาดใส่เขาที่เข้าใจอะไรยากเย็นขนาดนี้ กําลังจะบ่นต่ออีก แต่ก็โดนคนตัวโตจูบปิดปากอย่างรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว
กฤตดนัยเห็นปากที่กําลังจะด่าเขา เขาอดที่จูบสั่งสอนที่เธอกล้ามาไล่เขาถึงสองครั้งสองครา และก็ยังมาด่าเขาแบบนี้อีก จากจูบที่ตั้งใจแค่แกล้งเฉย ๆ แต่เกิดติดใจความหอมหวานของริมฝีปากสาว เขาจึงไม่ถอนจูบเธอ ดันตัวเธอแล้วยํ้าจูบลงไปอย่างรุนแรงตามอารมณ์บุรุษเพศ
มาริสาเซถอยหลังไปโดนตู้เสื้อผ้าเมื่อเขาตะปบจูบมาอย่างรุนแรง เธอรู้สึกหูอื้อตาลายไปชั่วขณะ เพราะไม่เคยโดนใครจูบมาก่อน แล้วเขามีสิทธิ์อะไรมาจูบเธอ ระหว่างที่คิดตำหนิเขาในใจ จู่ ๆ เธอก็เริ่มหายใจไม่ออก เพราะร่างกายที่อ่อนแอด้วยพิษไข้ทําให้เธอหมดสติคอพับคออ่อนซบไหล่ลงไปที่ไหล่ของเขา
“เฮ้ย! เธอ! เธอ! ริสา!” เขาตกใจที่กําลังจูบดีๆ เธอก็คออ่อนซบไหล่เขา เขาเรียกเธอก็ไม่รู้สึกตัว จึงย่อตัวอุ้มเธอไปวางที่เตียงนอนที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
“ทําไงละทีนี้” กฤตดนัยหันรีหันขวางไม่รู้จะทําอย่างไรกับเธอดี เพราะเขาไม่เคยดูแลคนป่วยมาก่อน เอ่อ..ใช่สิเช็ดตัว แล้วชายหนุ่มก็นึกออกนึกถึงตอนตัวเองป่วย แม่ของเขาเคยดูแลโดยการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็ไปหาผ้าที่จะเอาเช็ดตัว
กฤตดนัยถือวิสาสะไปเปิดตู้เสื้อผ้าเธอ เขาเปิดประตูใหญ่ก่อนใช้ สายตากวาดตามไม้แขวนไม่เจอผ้าผืนเล็ก เขาไล่เปิดตามลิ้นชัก ชั้นที่อยู่ใกล้ๆ กัน ชั้นแรกเขาเปิดเจอชุดชั้นใน เขาตาลุกวาวอยู่พัก แล้วก็จับขึ้นมาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นก็ตามด้วยบราเซียร์สีขาวของเธอขึ้นมาดูอีกหนึ่งตัว
“ตัวเล็กขนาดนี้ ใส่คัปซีเลยเหรอ ไม่น่าเชื่อ..ถึงว่าคืนนั้นมันถึงได้ทะลักทะล้นออกมาซะขนาดนั้น” ผู้ชํานาญการวัดไซร์หน้าอกผู้หญิงเอ่ยขึ้นมาแล้วส่ายหน้าแบบไม่เชื่อเด็ดขาด แล้วเขาก็สะบัดหัวรีบเก็บบราเซียร์ของเธอไว้ตามเดิม ชายหนุ่มเลื่อนมาเปิดลินชักชั้นที่สองเจอกับผ้าขนหนูผืนเล็กผืนใหญ่พับเก็บอย่างเรียบร้อย
กฤตดนัยนำผ้าผืนเล็กที่ชุบน้ำแล้วเดินมานั่งที่เตียง ค่อยๆ เช็ดไปตามใบหน้าซีดของเธอ สายตาของเขามองไล่ตั้งแต่หน้าผาก เปลือกตา พวงแก้มที่เคยเปล่งปลั่งเวลาเธอทํางานให้เขา ชายหนุ่มมองไล่มองมาที่จมูกโด่งปลายจมูกรั้นขึ้นเล็กน้อย
“หึ!! เธอดื้อจนได้เรื่อง..ริสา” กฤตดนัยบ่นพึมพำขณะเช็ดตัวให้หญิงสาว เขาสังเกตจากการที่เธอไม่ค่อยยอมเขาเท่าไร และเขาก็มองมาที่ปากอิ่มที่ตอนนี้ซีดเซียว แต่ก็ยังน่าจุมพิตอยู่ดี
“เธอสวยมาก..ริสา” กฤตดนัยพึมพำ พลางนั่งมองริมฝีปากเธอที่น่าจูบนั้น เขาเอานิ้วชี้ไล่ไปที่ริมฝีปากทั้งด้านบนไล่วนมาที่ด้านล่างเป็นวงกลม
“ขอฉันจูบปากเธอหน่อยนะ” เขาพึมพำเหมือนคนละเมอ แล้วค่อยๆ ก้มหน้าลงไปกำลังจะจูบปากเธอ ปากหยักได้รูปกําลังสัมผัสปากเรียวเล็ก ดวงตาคู่สวยของคนหมดสติก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา