“คุณทำให้ลูกกลัวผม”
พลอยวารินทร์เม้มปาก เขาหาเรื่องเธอไม่เลิก “ถึงฉันไม่ขู่ไข่มุกไว้ก่อน ถึงยังไงแกก็กลัวคนแปลกหน้าแบบคุณอยู่แล้ว”
“เอพริล!” เขาเรียกเธอเสียวดุเป็นครั้งที่สอง
“เรียกชื่อเอพริลซ้ำ ๆ สองครั้งกลัวจำไม่ได้เหรอคะ”
“เปล่า” ครั้งนี้เฮย์เดนเริ่มรับมือได้ เขายิ้มเยือกเย็น “ผมไม่ได้กลัวว่าผมจะจำชื่อคุณไม่ได้ แต่กลัวว่าคุณต่างหากจะจำไม่ได้ว่ายังไงซะผมก็เป็นพ่อของลูกคุณ และเป็นสามีนัมเบอร์วันของคุณอีกด้วย”
“เฮย์เดน”
“ว่าไงครับกลัวจำชื่อสามีคนแรกไม่ได้เหรอ” คราวนี้เป็นพลอยวารินทร์ที่ต้องข่มกลั้นความโมโหจนลมเต็มท้อง เธอสูดลมหายใจเข้าลึก
“คุณไม่ใช่สามีของฉัน”
เฮย์เดนขมวดคิ้ว จะว่าไปเมื่อครู่เขาใช้คำว่าสามีก็คงไม่ถูกต้องนัก ในทางกฎหมายเขากับเธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน อีกอย่างเขาก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว เมื่อเห็นเฮย์เดนจมอยู่ในภวังค์ไม่ตอบ พลอยวารินทร์จึงพูดต่อเสียงจริงจัง
“ฉันคงให้คุณได้สถานะเดียวคือพ่อของไข่มุกเท่านั้น”
ริมฝีปากคมสันได้รูปของเฮย์เดนยกยิ้ม ถึงยังไงเขาก็ถือไพ่เหนือกว่าพลอยวารินทร์มาก “ก็ได้ ถ้าเช่นนั้นก็จำให้ขึ้นใจว่าผมเป็นพ่อของไข่มุก เพราะฉะนั้นอย่ามองผมเป็นคนแปลกหน้า ส่งไข่มุกมาให้ผมอุ้มหน่อย ผมคิดถึงลูก”
“คุณจะอุ้มจริงหรือคะ” พลอยวารินทร์ขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจว่าผู้ชายมาดนิ่งตรงหน้าที่ในสมองคงมีแต่คำว่ากำไรและกระดานหุ้นจะอุ้มเด็กเป็น
เฮย์เดนพยักหน้า “จริงสิ ผมเป็นพ่อ ผมมีสิทธิ์ที่จะดูแลไข่มุกเหมือนกัน ถ้าคุณบอกว่าไข่มุกกลัวผม ผมคงต้องมาที่นี่บ่อย ๆ แล้ว ไข่มุกจะได้ชิน” เขาพูดหน้าตาเฉย มีรอยยิ้มกดลึกที่มุมปากที่พลอยวารินทร์มองว่าแสนเจ้าเล่ห์
ฟากพลอยวารินทร์รู้สึกใจคอไม่ดีเลยที่เขาบอกจะมาบ่อย ๆ เพราะความสงบของเธอจะหมดไป เธอมองหน้าเขาด้วยความวิตกกังวล เขาคิดอะไรที่จู่ ๆ ก็โผล่มา แล้วมาพูดทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อ เธอไม่อยากให้เขามา ถ้าไม่มาได้ก็จะดีมาก เธอกับลูกจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขอย่างเช่นที่ผ่านมา เวลาหนึ่งปีผ่านไปเร็วจะตาย เธออยากใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด และเมื่อหมดเวลาของเธอ เธอจะลองอ้อนวอนขอร้องเขาให้เปลี่ยนใจยกลูกให้เธอ เพราะว่าลูกคงไม่ยอมแน่ถ้าไม่มีแม่ แล้วตอนนั้นต่อให้เขาหาพี่เลี้ยงหรือใครมาดูแลก็เชื่อว่าไข่มุกคงไม่ยอมเช่นกัน
“ความจริงคุณจะมาที่นี่เมื่อไรก็ได้ เพราะที่นี่เป็นของคุณอยู่แล้ว ฉันไม่มีสิทธิ์ห้าม... ตราบใดที่คุณยุ่งเกี่ยวกับลูกแต่ไม่พยายามมายุ่งกับฉัน” เธอว่า แล้วส่งไข่มุกให้เขาไปอุ้ม
พลอยวารินทร์มองเขาอย่างเจ้าเล่ห์ เธอจะยอมตามน้ำไปก่อน เพราะตามคำสั่งศาลแล้วไข่มุกเป็นสิทธิ์ของเขาเนื่องจากฐานะทางการเงินของเขามั่นคง ส่วนหนี้สินของเธอที่ครอบครัวสร้างเอาไว้ให้จากการผ่อนบ้านราคาเกือบสามล้านมันทำให้ศาลเห็นสมควรให้เด็กอยู่กับบิดาที่ฐานะมั่นคง ถ้าเธอดึงดันใส่เขาก็มีแต่พัง สู้ยอมตามใจเขาไปก่อนแล้วค่อยหาวิธีขอลูกคืนในทีหลัง
เฮย์เดนหรี่ตามองผู้หญิงตรงหน้า ตั้งแต่แรกเจอเขาก็ประทับใจความสวยของเธอ จึงมีสัมพันธ์ด้วย แต่เมื่อรู้ความจริงว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบมีสัมพันธ์ชั่วคืนกลายเป็นเรื่องผิดที่ผิดทางและผิดพลาดเมื่อเขาเผลอจัดการฟาดเธอจนอิ่มท้องไปแล้วจึงรู้ตัวว่าเข้าใจผิด เขาจึงเริ่มวางแผนการให้อีวานจัดการพาผู้หญิงคนนั้นมาที่เท็กซัส แล้วต้องประหลาดใจมากเมื่อรู้ว่าตัวเองมีลูกติดท้องเธอไปด้วยและเธอก็เก็บไว้จนโตได้สี่ขวบ
“ไข่มุกนี่แด๊ดเองนะครับ ต่อไปแด๊ดจะมาหาไข่มุกทุกวัน” เฮย์เดนหันมาหยอกล้อกับลูก
“กลัว ไม่เอา กลัว” เสียงแหลมใสของไข่มุกพูดขึ้น พร้อมทั้งทำหน้าเบะมองไปทางผู้เป็นแม่
พลอยวารินทร์ได้โอกาสรีบตรงเข้าไปขอคืน “คุณเฮย์เดนคะลูกกลัวคุณแล้วค่ะ ส่งลูกมาให้ฉันเถอะ” ดวงตากลมโตที่มีแพขนตางอนยาวของพลอยวารินทร์มองเขาอย่างวิงวอน เฮย์เดนเห็นสีหน้าเป็นห่วงของคนตรงหน้าจึงส่งลูกสาวไปให้
“ก็ได้ ไข่มุกคงไม่คุ้นกับผมมากกว่า ไข่มุกไปหามามี้นะครับ”
แม่หนูน้อยรีบโผเข้าอกแม่ แล้วซบลงอย่างต้องการไออุ่น สายตาดุคมของเฮย์เดนเปลี่ยนเป็นงุนงงแกมผิดหวัง เขามีไข่มุกเป็นลูกคนแรกจึงยังไม่ค่อยเข้าใจเด็กมากนัก ทำไมเด็กต้องกลัวเขาในเมื่อนิตยสารชั้นนำของประเทศโหวตให้เขาเป็นผู้ชายที่มีบุคลิกดี มนุษย์สัมพันธ์เยี่ยมติดอันดับท็อปไฟว์
“ขอบคุณนะคะ ว่าแต่วันนี้คุณมาทำไม” พลอย
วารินทร์ได้ลูกมาอุ้มแล้วก็ถามในสิ่งที่อยากรู้
ตอนที่เฮย์เดนคุยกับพลอยวารินทร์นั้นเหล่าบอดี้การ์ดและพี่เลี้ยง แม่บ้าน ต่างหลบฉากไปแล้ว ทั้งสองคนจึงคุยกันได้อย่างไม่ต้องกลัวใครแอบฟัง เฮย์เดนเดินไปหาที่นั่งตรงโซฟารับแขกแล้วนั่งลงไขว่ห้างอย่างสบาย ๆ
“ผมอยากแวะมาดูลูกบ้าง แล้วก็อยากมาดูความเป็นอยู่ของคุณ คุณเป็นยังไงบ้างต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
“ฉันสบายดีค่ะ ไม่ต้องการอะไรอีก ก็อย่างที่คุณเห็น คุณมีทุกอย่างให้ฉัน แต่อย่างเดียวที่ฉันไม่ได้คือ...” พลอย
วารินทร์หยุดพูดเพราะรู้สึกปวดใจลึก ๆ จนไม่อยากเอ่ย
“ลูกใช่ไหม ผมบอกแล้วว่าผมก็ต้องการลูก แกต้องเป็น
แบรดฟอร์ด แกจะไปตกระกำลำบากที่ไหนไม่ได้ ตระกูลของผมไม่มีใครเคยทำงานเป็นลูกจ้าง เพราะฉะนั้นลูกของผมก็จะต้องรับช่วงธุรกิจต่อจากผม หวังว่าคุณจะใจกว้างพอนะเอพริล”
พลอยวารินทร์ฟังแล้วรู้สึกว่าเธอห่างไกลจากคำว่าจะดูแลลูกสาวให้เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ได้ เธอมีความสามารถเพียงที่จะมอบความรู้ให้ลูกสาว ฐานะทางบ้านของเธอพอกินพอใช้เท่านั้น แต่เธอก็เชื่อว่าลูกเธอไม่ต้องถูกเลี้ยงอย่างคนรวยก็เป็นคนดีได้ แต่นั่นแหละ เธอก็ไม่อยากตัดโอกาสดี ๆ ในหลายด้านของลูกจากการเป็นคนในตระกูลแบรดฟอร์ดเพราะนั่นเป็นสิทธิ์ของไข่มุกที่พึงได้ แต่ถ้าไม่มีลูกก็ไม่รู้ว่าชีวิตของเธอจะมีความหมายอะไร
“ถ้าอ้างถึงเงิน ฉันคงสู้คุณไม่ได้ ช่างเถอะค่ะ ฉันไม่อยากเถียงกับคุณเพราะถึงยังไงฉันก็แพ้คุณอยู่ดี” พลอย วารินทร์พูดเมิน ๆ หันมาเห็นว่าไข่มุกหายร้องไห้แล้วจึงมองหานีน่าให้มาอุ้มไปเล่น เธอจะเข้าครัวทำอาหาร