“โอ๊ยยย!!!! จะจอดทำไม่บอกกันก่อนเนี่ย”
เขาเบรกรถกะทันหันจนทำให้ศีรษะฉันกระแทกเข้าที่หน้ารถ ฉันต้องตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้ความเจ็บปวดทุเลาลง ยกมือขึ้นไปกุมที่กลางหน้าผากด้วยกลัวว่ามันจะแตกจนเป็นแผล แต่ยังโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก จากนั้นจึงคลำหาแว่นตาที่หล่นลงไปวางแอ้งแม้งบริเวณเท้า เมื่อเห็นแล้วจึงหยิบมันขึ้นมาใส่อีกครั้ง
“ก็เธอบอกอยากจะลงไม่ใช่เหรอ...ลงไปสิ” เขาทำหน้ากวนยักคิ้วให้ฉันราวกับเป็นผู้ชนะในเกมส์นี้ รอยยิ้มหล่อทำให้ความโกรธของฉันหายเป็นปลิดทิ้ง มีโอกาสขนาดนี้แล้วจะไม่ปล่อยให้มันสูญเปล่าแน่ ร้อยทั้งร้อยถ้าหากผู้ชายโดนผู้หญิงจูบจะต้องรู้สึกดีบ้างล่ะน่า
“แต่ตอนนี้หนูไม่อยากลงแล้วค่ะบอส” ฉันทำเสียงยียวนกวนประสาทเขาคืนบ้าง
“เธอมันน่ารำคาญจริงๆ เฮ้อ...” เขาถอนหายใจเสียงดัง บ่งบอกว่ากำลังรำคาญฉันเต็มทน
“แล้วถ้าทำอย่างนี้จะรำคาญอยู่อีกไหมคะ” พูดจบฉันก็ตัดสินใจเลื้อยตัวเข้าไปนั่งบนตักเขาอย่างไม่ให้ตั้งตัว จากนั้นจึงยกมือขึ้นไปโอบรัดต้นคอไว้แน่น
“ธะ...เธอจะทำบ้าอะไร” ทำไมบอสที่น่าจะช่ำชองเรื่องอย่างว่ากลับมีท่าทีประหม่าอย่างนี้นะ หรือว่ามันเป็นแค่การแสดง...
“ก็หนูบอกแล้วไงคะว่าชอบบอส”
ใบหน้าเราทั้งสองอยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ที่เป่ารดใบหน้ากันและกัน บอสกลืนน้ำลายลงคอจนเกิดเสียง บ่งบอกว่าเขาเองก็หวั่นไหวไม่น้อย
“อืม...”
ในช่วงเวลานั้นฉันจึงโน้มใบหน้าเข้าไปประกบจูบริมฝีปากเขาอย่างดูดดื่ม ช่วงแรกอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดปากแต่ทว่าไม่นานก็ยอมให้ลิ้นของเราสัมผัสกัน เมื่อเครื่องเริ่มติดเขาก็เป็นฝ่ายรุกหนักขึ้น มือหนายกขึ้นมาบีบเคล้นเนินอกฉันแรงๆ ราวกับต้องการให้มันหลุดติดมือไป
“อื้อ...”
เขาส่งปลายลิ้นเข้ามาตวัดเลีย หยอกล้อกับลิ้นของฉันอย่างสนุกสนาน ทุกอย่างดูผ่อนคลายมากขึ้น มีเพียงเสียงลมหายใจของเราทั้งสองดังระงมในรถ
บอสเลื้อยมือเข้าไปใต้ร่มเสื้อเพื่อสัมผัสกับเนินเนื้อ ในช่วงเวลานั้นฉันดึงสติกลับมาได้เสียก่อน ว่าต้องการเพียงแค่จูบเท่านั้นไม่ได้หวังจะให้มาถึงขั้นนี้
“พะ...พอก่อนค่ะบอส” ฉันผละใบหน้าออกมาอย่างเสียดาย ปล่อยมือที่โอบรัดต้นคอเขาลงมา เพื่อดึงมือเขาออกจากใต้ร่มเสื้อ
“ทำไมล่ะ...ชอบแบบนี้ไม่ใช่หรือ ฉันกำลังตอบสนองเธออยู่นี่ไง” เขาแค่นยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“หนูอยากจูบบอสก็จริงแต่นี่บอสกลับล้วง...” ความกล้าของฉันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เมื่อได้รับสัมผัสนั้นจริงๆ กลับรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก ไม่เหมือนก่อนหน้าที่ใจกล้าหน้าด้านไปจูบเขาก่อน
“ถ้าฉันไม่ล้วงก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้วล่ะ เธอเป็นคนเริ่มมันก่อนเองนะช่วยไม่ได้” พูดจบเขาก็หันไปสนใจมองถนนตรงหน้า ออกรถไปด้วยความเร็ว แต่ทว่าจุดหมายปลายทางนั้นฉันกลับไม่รู้ว่ามันคือที่ไหนกันแน่
*-*-*-*-*-*-*
“นี่มัน...โรงแรมม่านรูดนี่คะบอส”
“ก็ใช่ไง”
“บอสพาหนูมาที่นี่ทำไม”
“อย่าแกล้งโง่ไปหน่อยเลยน่า ผู้หญิงอย่างเธอน่ะเหรอจะไม่รู้ว่าเขามาที่นี่กันเพื่อทำอะไร ลงรถ! แล้วเข้าไปในห้องเดี๋ยวนี้” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง หลังจากขับรถเข้ามาจอดในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง
“ไม่! พาหนูกลับบ้านเถอะนะ ถึงหนูจะชอบบอส อยากจูบบอสแต่หนูก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะคะ” พอเอาเข้าจริงๆ แล้วมันกลับน่ากลัวกว่าที่คิด ฉันไม่น่าไปยั่วเขาอย่างนี้เลย
“มันสายไปแล้วล่ะ ลงไปเดี๋ยวนี้!”
บอสเปิดประตูรถลงไปก่อน จากนั้นเดินอ้อมมาอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูรถ ลากตัวฉันเข้าไปในห้องจนสำเร็จ
ปัง!
“ฉันนึกว่าเธอจะแน่กว่านี้ซะอีก ความหน้าด้านไร้ยางอายพวกนั้นหายไปไหนหมด ทีอย่างนี้ทำมาเป็นเล่นตัว” เขาเดินตรงเข้ามาหาแล้วผลักตัวฉันให้นอนราบลงบนเตียง ตามขึ้นมาคร่อมตัวทับทาบ ตรึงแขนทั้งสองข้างไว้แน่นไม่ยอมให้ขัดขืนได้
“หนูแค่อยากให้บอสชอบ อยากเป็นแฟนกับบอสทำไมถึง ฮึก...”
“สภาพอย่างเธอใครจะไปชอบลง จืดชืดไม่มีรสชาติ ทางเดียวที่จะมัดใจฉันได้ก็คือเรื่องเซ็กซ์ ถ้าเธออยากให้ฉันสนใจจริงๆ เธอต้องยอมเป็นของฉัน นอนอ้าขาให้ฉันเอาทุกครั้งที่ต้องการเข้าใจไหม”
“ฮึก...ถ้าหนูยอมอย่างนั้นจริงๆ บอสจะยอมคบกับหนูอย่างเปิดเผยไหมล่ะคะ” ถ้ามันจะทำให้เขายอมรับในตัวฉันได้ฉันจะยอม เพราะรักเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกอย่างก็ทำเพื่อให้แม่มีความสุขด้วย
“ได้สิ! ฉันจะยอมคบกับเธอ” เขากระตุกยิ้มร้ายอย่างพอใจ
“ถ้าอย่างนั้นหนูจะยอมเป็นของบอส เป็นของบอสตลอดไปเลยค่ะ” ฉันเริ่มยิ้มออกเมื่อได้รับคำยืนยันจากปากบอส ในที่สุดก็มีวันนี้สักที วันที่ฉันจะได้มีแฟนทั้งหล่อและรวยสมใจอยาก ถ้าแม่รู้คงจะดีใจมาก
“ถ้างั้นก็นอนนิ่งๆ ห้ามขัดขืน”
บอสปลดกระดุมเสื้อฉันออกทีละเม็ด จนเผยให้เห็นบราสีชมพูพาสเทล เขามองมันด้วยสายตาหื่นกระหาย กลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ ค่อยๆ เอื้อมมือมาสัมผัสบีบเคล้นเบาๆ ไม่นานก็เลื้อยมือไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอ
“เธอนี่ก็ซ่อนรูปไม่เบาเลยนะ” เขาเอ่ยเสียงกระเส่าขณะดึงเสื้อ พร้อมกับบราสีชมพูพาสเทลออกไปให้พ้นทาง จนตอนนี้ท่อนบนไม่มีอาภรณ์ปกปิดเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
บอสปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองออกอย่างเร่งรีบ จนเผยให้เห็นเรือนกายกำยำ มัดกล้ามเนื้อแน่นดูแข็งแรง หน้าท้องมีซิกแพคเป็นลอนสวยงาม ทำให้ฉันแทบจะละลายลงเสียตรงนี้ ความเป็นชายของเขาโดดเด้งออกมา ฉันรู้สึกเสียววาบที่ส่วนล่างเมื่อเห็นความใหญ่โต จนอดคิดไม่ได้ว่าส่วนอ่อนไหวของฉันจะรองรับมันได้หรือเปล่า
บอสถอดกระโปรงสีดำฉันออกพร้อมกับแพนตี้ตัวจิ๋วลายลูกไม้ จากนั้นจับขาเรียวแยกออกจากกันก้มหน้าเข้าไปดอมดมสูดกลิ่นสาวที่บริสุทธิ์ราวกับคนโรคจิตก็ไม่ปาน
“บะ...บอสคะ อื้อ....”
ฉันนอนบิดตัวเร่าด้วยความกระสันเสียว เมื่อบอสแยกกลีบส้มโออวบอูมฉันออกจากกัน พรมจูบอย่างหื่นกระหาย ขบเม้มติ่งเสียวราวกับต้องการแกล้งให้ฉันขาดใจตายเสียตรงนี้
“อ๊ะ...บอสขาหนูเสียว อื้อ...อ๊า!”
ฉันทนไม่ไหวจำต้องร้องครวญครางออกมา เมื่อเขาส่งปลายลิ้นออกมาลากเลียที่กลางร่องสวาท ตวัดมันเร็วๆ อย่างชำนิชำนาญ ความเสียวแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูเนื้อจนต้องกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น ร่อนสะโพกเบาๆ เพื่อตอบรับสัมผัสอันสุดสวาท
“แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ!”
เขาส่งนิ้วยาวเข้าไปในรูสวาทกระตุกแรงถี่ๆ ขณะริมฝีปากกำลังขบเม้มติ่งเสียวของฉัน
“บอสขาหนูไม่ไหวแล้ว อื้อ...แรงกว่านี้ได้ไหม อ๊า”
“เธอจะต้องจำบทรักครั้งนี้ไปตลอดชีวิตแน่นอนหึๆ”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นมานั่งข้างตัวฉัน ส่งมือข้างหนึ่งมาบีบเคล้นเนินอก ส่วนอีกข้างกำลังกระตุกร่องสวาทอย่างบ้าคลั่งราวกับต้องการให้ฉันถึงจุดหมายปลายทาง
“แค่นิ้วเธอยังเสียวขนาดนี้ ถ้าได้เจอน้องชายฉันรับรองว่าจะต้องถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดอย่างแน่นอน ชอบฉันมากใช่ไหมเดี๋ยวจัดหนักจัดเต็มให้” เขากัดฟันพูดราวกับหมั่นไส้ฉันซะเต็มประดา ออกแรงกระตุกให้เร็วและแรงขึ้นจนฉันเริ่มทนไม่ไหว...
“อ๊ะๆๆๆ บอสหนูไม่ไหวแล้ว อื้อ...ทำไมมันเสียวอย่างนี้ อ๊ะ...จะเสร็จแล้วค่ะ อ๊าสสสส”
รู้สึกเหมือนตัวเองเบาหวิวไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง น้ำรักไหลพุ่งออกมาจากรูสวาทเป็นสาย
ฉันนอนหายใจเหนื่อยหอบอย่างหมดแรง บอสมองมาที่ฉันอย่างพอใจ รอยยิ้มซาตานที่มุมปากราวกับมีเลศนัยอย่างบอกไม่ถูก
“นี่มันแค่น้ำจิ้ม คนอย่างเธอจ้องเจอหนักกว่านี้หลายเท่าตัว”
พูดจบบอสก็โน้มใบหน้าลงมาขบเม้มที่ยอดอกฉันแรงๆ ส่งปลายลิ้นเปียกลากเลียอย่างสนุกสนาน เขาเลื้อยตัวมาทับทาบร่างฉันไว้ แยกขาเรียวทั้งสองข้างออกจากกันด้วยท่อนขาแกร่ง ทำให้ท่อนเอ็นยาวใหญ่บดเบียดที่กลางร่องสร้างความเสียวสยิวให้ฉันอย่างที่สุด