บทที่2.การเจอกันครั้งแรก ของดอจิโน่และนับดาว
นับดาวเริ่มงานประจำที่ทำอย่างคุ้นเคย ปลายนิ้วเรียวขยับแจกไพ่ในมือให้ลูกค้าที่กำลังตั้งหน้าตั้งตารออย่างคล่องแคล่ว รอยยิ้มหวานๆ แต้มติดอยู่บนริมฝีปากตลอดเวลา เสียงทักทายเซ็งแซ่ดังขึ้นรอบๆ ตัว
“หนูดาววันนี้คุณโทมัสกับมาดามดาเรียจะมาตรวจงานด้วยล่ะ” ฉีเฟิ่นสาวจีนที่ทำงานร่วมกันกับนับดาวเดินเข้ามากระซิบบอก
“จริงเหรอทอมไม่เห็นจะบอกเลย” นับดาวแจกไพ่มือเป็นระวิงแต่ก็อดถามอย่างสงสัยไม่ได้
“บอกซิ แต่หนูดาวมาสายก็เลยไม่ได้รู้สิ่งที่ทอมกำชับไว้”
“อะไรเหรอ? ทอมห้ามอะไรอีกคราวนี้”
“ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะ แค่ให้เรามาตรงเวลา ที่สำคัญเลยนะคราวนี้คุณดอจิโน่ลูกชายของ มาดามจะมาด้วย ทอมบอกว่าเป็นช่วงปิดเทอมพอดี” ฉีเฟิ่นกระพริบตาวิบวับ เมื่อนึกถึงบุตรชายรูปงามของมาดามดาเรีย เขาที่เป็นที่กล่าวขวัญในหมู่พนักงานสาวๆ ของคาสิโน่ IDM
“แย่จัง!! หนูดาวรีบเสียด้วยวันนี้ อย่างนี้ก็แวบกลับบ้านก่อนเวลาไม่ได้ซิ”
“เห้อ...มีแต่คนตั้งตารอดูคุณดอจิโน่ มีหนูดาวคนเดียวนี่ล่ะมั้งที่ไม่อยากเจอเขา” สาวจีนบ่นเบาๆ เมื่อสาวๆ พนักงานคนอื่น ล้วนแล้วแต่อยากเจอดอจิโน่ แม้เพียงแวบเดียวก็ยังดี
“ก็ไม่รู้ว่าจะเจอไปทำไมนี่เสียเวลาเปล่า คนอย่างเขาคงไม่แม้แต่จะชายตาแลพนักงานกระจอกๆ อย่างเราหรอก มาดามดาเรียขึ้นชื่อว่าหวงลูกชายอย่างมาก ถ้าเกิดคุณดอจิโน่นึกติดใจพวกเราคนใดคนหนึ่งขึ้นมา มันไม่ใช่ความโชคดีนะ มันจะซวย พลอยตกงานไปด้วยสิ!!”
“มันก็ไม่แน่นะหนูดาว ถ้าคุณดอจิโน่สนใจฉันแล้วฉันจะแคร์มาดามดาเรียไปทำไมกันล่ะ” เสียงแหลมปรี้ดของครีร่าเอ่ยแทรกการสนทนา พร้อมกับเดินมาปรากฏตัวตรงหน้าทั้งสองสาวโดยไม่เกรงกลัว
“จ้ะแม่คนสวย เขาคงจะมองหล่อนอยู่หรอก แม่คุณเล่นเปิดมากว่าปิดแบบนี้หน่ะ” ฉีเฟิ่นกล่าวกระทบ ดวงตาตี่ๆ กราดมองรูปร่างของครีร่าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พลางส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“เธอว่าใครยัยฉี เธอไม่สวยอย่างฉันก็เลยอิจฉาล่ะซิ”
“ใช่...ฉันไม่ได้สวยเหมือนเธอ เลยไม่ค่อยเปลืองเนื้อเปลืองตัว” ฉีเฟิ่นยักไหล่ยียวน พลางลอยหน้าลอยตาตอบโดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้ฟัง
“ไปคุยกันที่อื่นไป ดูซิลูกค้าทำหน้าไม่พอใจแล้ว ถ้าเขาร้องเรียนทอมจะเดือดร้อนโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเปล่าๆ” นับดาวโบกมือไล่ให้สองสาวไปโต้เถียงกันที่อื่น ไกลๆ โต๊ะทำงานของเธอยิ่งดี
“เชอะ...” ครีร่าสะบัดหน้าแรงๆ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าหนีไป ปล่อยให้ฉีเฟิ่นยืนอยู่เพียงลำพังแบบไม่สบอารมณ์
“สวยตายล่ะ หย่อนไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว ไม่รู้ผู้ชายกระเดือกหล่อนลงกันได้ยังไง” ฉีเฟิ่นกระแนะกระแหนลับหลังสาวทรงโตที่เดินนวยนาดจากไปแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ไปทำงานได้แล้วฉี...ทอมยืนมองอยู่โน้น เดี๋ยวก็โดนเรียกไปเตือนหรอก ที่สำคัญโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเพราะคนอย่างครีร่าน่ะมันไม่คุ้ม” นับดาวก้มหน้าทำงานต่อ พลางเอ่ยเตือนเพื่อนสาวด้วยความหวังดี
“ฉันไปก่อนนะ เจอกันตอนพักเบรคล่ะ ฉันมีเรื่องจะเม้าท์ให้ฟังเป็นกระบุง” ฉีเฟิ่นเดินจากไปแบบคนอารมณ์ดี หลังจากสลัดความไม่พอใจยัยครีร่าตัวแสบโยนทิ้งไป
นับดาวส่ายหน้า มองตามร่างค่อนข้างเล็กของสาวเอเซียแบบฉีเฟิ่นไปด้วยความอ่อนใจ ฉีเฟิ่นกับ ครีร่าต้องมีเรื่องให้ปะทะคารมกันอยู่ทุกวัน เพราะฉีเฟิ่นแอบรักโทนี่มาเนินนาน แต่โดนครีร่ามาฉกเอาโทนี่ไป หล่อนจึงแค้นเคืองครีร่าต้องคอยมาแดกดันทุกครั้งที่มีโอกาส
กลุ่มคนหลายบุคคลที่เดินกันเข้ามาเป็นขบวน ที่โดดเด่นจนสะดุดตาก็มาดามดาเรียกับคุณโทมัส ติดตามด้วยบอดี้กร์าดมาดเข้มในชุดดำอีกจำนวนมากที่เดินโอบล้อมคอยป้องกันบุคคลสำคัญของ นับดาวชะงักมือที่กำลังจัดไพ่ลงสำรับ เหลือบมองด้วยความสนใจ เพราะคนกลุ่มนั้นเดินตรงมายังทิศทางที่นับดาวทำงานอยู่พอดี คุณโทมัสหยุดยืนอยู่เยื้องๆ กับโต๊ะที่นับดาวทำงาน พลางเอ่ยซักถามทอมอย่างเป็นกันเอง ทอมผู้จัดการอธิบายอย่างแข็งขันจนมาดามดาเรียพยักหน้าอย่างพอใจ
ชายหนุ่มผิวขาว ร่างกายสูงโปร่งหน้าตาดีภายใต้เสื้อผ้ามอซออย่างวัยรุ่นทั่วไป ยืนอยู่ใกล้ๆ โต๊ะแจกไพ่ของนับดาว ปลายนิ้วเรียวยาวหยิบชิปบนโต๊ะขึ้นมองดูอย่างสนใจ โดยไม่สนใจฟังสิ่งที่ทอมรายงาน ดวงตาคมสีฟ้าใสเป็นประกายอย่างซุกซน เมื่อเอ่ยขอชิปจากคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ เขาวางมันลงบนโต๊ะที่นับดาวเริ่มแจกไพ่ ตอนที่เริ่มตาใหม่พอดี หมวกใบโตถูกทอดออกวางลงใกล้ๆ นับดาวจึงมองเห็นหน้าตาของชายผู้นั้น คิ้วเข้มๆ พาดอยู่เหนือดวงตาคมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะพอดี ทำให้โครงหน้าโดดเด่นสะดุดตา ริมฝีปากบางเฉียบสีแดงสด กับจมูกโด่งๆ รับกันพอดีกับปลายคางแหลมๆ จนชายหนุ่มนั้นน่าจะเป็นนายแบบหรือดาราได้อย่างสบายๆ รอยยิ้มหวานหยดถูกส่งมาให้นับดาวจนมือของนับดาวสั่นไปเพราะความอายเหมือนกัน ทั้งที่นับดาวมีภูมิต้านทานคนหน้าตาดีพอสมควร หญิงสาวไม่เคยหวั่นไหวไปกับคนแปลกหน้าที่จัดอยู่ในประเภทหน้าตาดีมีเสน่ห์
ไพ่ในสำรับถูกแจกจ่ายจนครบทุกคน นับดาวจึงหยุดรอคำเรียกร้องของลูกค้าที่กำลังลุ้นไพ่ในมือตัวเอง ชายแปลกหน้าพยักหน้าเรียกชายชุดดำที่ยืนใกล้ๆ ให้เข้ามาหา ก่อนจะยื่นกระเป๋าสตางค์ พลางให้ชี้มือไปทางจุดที่แลกชิปเมื่อยกไพ่ในมือขึ้นดู ดวงตาสีฟ้าใสเป็นประกายจนนับดาวเผลอมองอย่างลืมตัว ชายชุดดำกลับมาทันเวลาที่ลูกค้ากำลังเกชิปของตัวเองลงบนโต๊ะ เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ ชายหนุ่มปรับสีหน้าเป็นนิ่งสงบจนนับดาวแปลกใจ ปลายนิ้วเรียวยาวเขี่ยชิปที่ชายชุดดำนำมากองไว้ให้ลงบนโต๊ะลงไปทั้งหมด จนลูกค้าที่ร่วมโต๊ะพากันมองอย่างสนใจ หลายคนทยอยหมอบหลบ และคิดว่าไพ่ในมือของชายหนุ่มคงดีจึงทุ่มสุดตัว
มีอีกหลายคนที่ยอมเกตาม และกำลังลุ้นอย่างรอคอย ชายหนุ่มแปลกหน้าหงายไพ่ในมือ เมื่อทุกคนรอบวงวางเดิมพันตามจนครบ เสียงฮือฮาอื้ออึงดังขึ้น จนมาดามดาเรียหันกลับมามองอย่างสนใจ ร่างอวบท้วมของมาดามเดินกลับมาหยุดยืนใกล้ๆ ชายหนุ่มแปลกหน้าสองแขนเจ้าเนื้อยกขึ้นเท้าเอวอย่างเอือมระอา
“แดร็ก…มัมอยากให้เราศึกษางาน ไม่ใช่มานั่งเล่นเกมแบบนี้ ลูกทำให้มัมเริ่มเครียดรู้ตัวหรือเปล่า ปีนี้จบแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมยังไม่อยากเรียนรู้งานของครอบครัวเสียที”
นับดาวอ้าปากค้างตกตะลึงตัวแข็งทื่อ ชายแปลกหน้าหน้าตาดีเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของมาดามดาเรีย แถมเขาก็รูปงามสมคำร่ำลือ ท่าทีสบายๆ ผิดกลับข่าวลือที่หลุดกระจายมาก่อนหน้านั้น ดอจิโน่ เป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญที่สาวๆ ทั่วไปต่างขนานนามยกให้สี่หนุ่มที่มาจากพื้นฐานครอบครัวต่างกัน ‘สี่หนุ่มเจ้าสำราญ’ เป็นที่กล่าวขวัญบนหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์อยู่เป็นประจำ
“คร๊าฟ!” ดอจิโน่หยัดกายลุกขึ้นยืน สองมือเรียวกวาดกองชิปที่อยู่กลางโต๊ะเข้าหาตัวเอง เพราะเดิมพันครั้งนี้เขาเป็นผู้ชนะ รอยยิ้มหวานอารมณ์ดีถูกแจกจ่ายไปรอบๆ วง
“นาย...เอาชิปนี่ไปแลกให้หน่อย เสร็จแล้วหยอดกล่องบริจาคหน้าโต๊ะเลยนะ ไม่ต้องเอากลับมาคืนฉัน” เสียงทุ้มๆเ สั่งการ ปลายนิ้วเรียวคีบชิบสีฟ้าขึ้นมาสองอันและโยนให้กับนับดาว
“ผมให้ คุณแจกไพ่ทำให้ผมชนะ...นี่เป็นรางวัล” เขาคว้าหมวกที่วางไว้ขึ้นมาสวม หมุนกายเดินตามมาดามดาเรียที่เดินจากไปด้วยท่าทางเอื่อยๆ
นับดาวมองตามคนหน้าตาดีไปอย่างงงงัน ชิปทั้งหมดถูกชายชุดดำกวาดไปจนหมด พวกเขาเดินตามหลังเจ้านายไปห่างๆ หญิงสาวหยิบชิปขึ้นมามองและยิ้ม สีฟ้าเป็นชิปที่ค่อนข้างราคาสูง แต่ชายหนุ่มผู้นั้นกลับยกให้เธออย่างไม่เสียดาย