ตอนที่ 1/1 โลกใบเล็กสลาย 1
ตอนที่ 1โลกใบเล็กสลาย 1
ชีวิตสวยหรูของมีมี่พังลงภายในสามเดือนกับข่าวร้ายที่ได้รับรู้ก่อนมารดาจะจากไป
‘มี่แม่เป็นหนี้เสี่ยอินทัชสิบล้าน’
นั่นคือสิ่งที่แม่ของเธอบอกเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนจะหมดลมหายใจและจากเธอไป
“แล้วแกจะทำยังไง” มีนมีนาคือเพื่อนรักของเธอแม้ทั้งคู่จะอายุห่างกันสองปีแต่ด้วยความสนิทกันมากเลยกลายมาเป็นเพื่อนรักกัน
และในยามนี้คนที่อยู่เคียงข้างคุณแม่ลูกหนึ่งก็คือมีนมีนาหลังจากได้รับรู้ข่าวก็หอบเงินก้อนโตมาหาเพื่อนแต่กลับได้รับรู้ข่าวร้าย
“ฉันลาออกจากวงการมาได้สามปีมีเงินเก็บอยู่ส่วนหนึ่งฉันจะนำมันไปจ่ายก่อน แกอย่าเอาเงินของแก่มาใช้หนี้ผีพนันของแม่ฉันเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก” มีนมีนาอยากจะช่วยเพื่อนเธอ
“ไม่ใช่แค่หนี้สิบล้าน บ้านก็เอาไปเข้าธนาคารส่วนตึกคูหาที่ฉันซื้อไว้ในเมืองก็เอาไปขายให้นายทุนหน้าเลือด สุสานกำไรก็หายแถมเงินเอาไว้จ่ายค่าแรงก็เหมือนกัน” ชีวิตเธอพลิกผันภายในสามเดือนเพียงเพราะคำว่า ‘แม่ฉันเป็นคนดี’
โลกทั้งใบของมีมี่พังลงในชั่วพริบตาหลังจากที่แม่ไปยืมเงินพวกปล่อยเงินเก็บดอกหลังจากนั้นแม่ก็โดนซ้อมมาตลอดเพราะไม่มีเงินจ่ายจนเข้าตาจนแล้วมาขโมยโฉนดที่ดินทั้งบ้าน ที่ดินสุสานของบรรพบุรุษ แล้วก็ตึกเช่าที่เธอทุ่มเงินจากการทำงานในวงการมาหลายปีเพื่อซื้อไว้ปล่อยเช่าเก็บเงิน ทุกอย่างที่เธอสร้างไว้หายไปในพริบตาเดียว
“แกไม่เอาร้อยล้านอย่างน้อยก็เอาไปลงทุนสักยี่สิบล้าน...” ในเมื่ออีกคนยังส่ายหน้ามีนมีนาเลยถอนหายใจแล้วก้มไปหยิบเงินก้อนออกมาจากกระเป๋าสิบล้าน “อย่างน้อยก็ไปเอาบ้านคืนเธอกับลูกจะอยู่ยังไง”
มีมี่น้ำตาไหลพรากจากคนที่ร่ำรวยกลายเป็นหนี้เกือบร้อยล้านได้ยังไงกัน สิบล้านจากเสี่ยอินทัชเธอคงต้องขอผ่อนจ่ายเป็นงวดไป ส่วนสุสานที่ทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษเธอก็ต้องไปเอาคืนมาแน่ นี่ยังไม่รวมเจ้านี้รายย่อยที่มาทวงเงินเธอไม่เว้นวันอีก
“ไหนจะค่าเทอมลูกอีก”
เธอเครียดจะบ้าตายแล้วจริงๆ อีกอย่างก็ไม่อยากรบกวนเพื่อนด้วยสถานการณ์ครอบครัวคนรวยก็ไม่ได้ดีไปสักเท่าไหร่มีแต่การชิงดีชิงเด่น เธอเบื่อสังคมผู้ดีจอมปลอมเลยแขวนส้นสูงมาอยู่ที่บ้านนอกคอกนาแล้วชีวิตที่เลือกก็ยังไม่มีความสุขอีกเหมือนเดิม
“สิบล้านนี้ฉันจะหามาคืนให้เร็วที่สุดก็แล้วกันหรือแกจะเก็บดอกก็ได้” อย่างน้อยก็ต้องมีที่ซุกหัวนอนเธอไม่เป็นไรแต่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนี่สิ
“อย่าคิดเรื่องนั้นเลย ฉันต้องบินไปดูงานที่กวางโจวมะรืนนี้วันนี้อาจต้องกลับ” มีนมีนาดึงมือเพื่อนมากุมไว้แน่นถ้าเธอไม่บังเอิญรู้เรื่องเข้ามีมี่ไม่มีทางบอกเธอเรื่องแม่เสียแล้วเป็นแน่ ไหนจะเรื่องติดหนี้ก้อนโต “ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้เลยแต่แกเป็นผู้หญิงอยู่กับลูกแค่สองคนแกควรหาใครสักคนมาดูแลได้แล้ว”
“อือ ขอบคุณนะมีน”
“รถมาถึงแล้ว ฉันต้องกลับแล้วนะมี่ แกต้องดูแลตัวเองให้ดีถ้าแกเป็นอะไรมาอีกคนลูกจะอยู่ยังไง”
“ขอบคุณที่มาอยู่ด้วยตั้งสามวันนะ ถ้าไม่มีแกฉันคงเป๋ไปเลย” เพราะทุกอย่างมันฉุกละหุกชีวิตจากที่อยู่จุดสูงสุดเรียกว่าอิ่มตัวต้องดำดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว “เดินทางปลอดภัยนะ ถึงแล้วส่งข้อความมาด้วย”
มีมี่เดินออกมาส่งเพื่อนที่หน้าบ้านตัวเองยกมือโบกขึ้นลาคนที่รีบมาหาเวลาที่เธอเจอเรื่องลำบาก
“อือ ดูแลตัวเองดีๆ นะมี่มีเรื่องอะไรโทรหาฉันได้ตลอด”
มีมี่เดินเข้าไปสวมกอดลาเพื่อนยืนส่งอยู่หน้าบ้านจนรถยนต์คันหรูวิ่งออกไปตามถนนลาดยาว ข้างทางมีแต่แปลงหญ้าของเจ้าของฟาร์มที่อยู่ตรงข้ามกัน มีเสาร์ไฟสีนวลส้มส่องแสงสว่างตลอดทางยาวทำให้บ้านเธอที่ตั้งอยู่ติดถนนไม่น่ากลัวแม้ละแวกนี้บ้านคนไม่เยอะส่วนมากจะเป็นฟาร์มโคนมเสียส่วนใหญ่ ทั้งตรงข้ามบ้านด้านข้างซ้ายขวาล้วนเป็นฟาร์มของตระกูลมีชื่อเสียงระดับอำเภออาจถึงระดับจังหวัดเลย ก็จะมีบ้านคนงานของฟาร์มนี่แหละพอให้เห็นได้อุ่นใจบ้าง
หันหลังเดินเข้าบ้านแต่ก็ต้องหยุดขาตัวเองไว้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าในยามค่ำคืนยังเห็นหมู่ดาวส่องสว่าง
“มีมี่”
เจ้าของชื่อก้มหน้ามองลูกชายในตอนนี้ส่วนสูงถึงระดับสะโพกของเธอแล้ว
“สะดุ้งตื่นเหรอคะ?” มีมี่ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกันกับลูกชายดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้ก่อนจะแนบตัวอุ่นๆ ของลูกชายเข้าหาอ้อมกอดตัวเอง “ไปนอนกันเถอะ”
“มีมี่จะนอนกับมีโอใช่ไหมครับ” เด็กน้อยยกมือสองข้างขึ้นโอบแผ่นหลังคนเป็นแม่อย่างที่ชอบทำ เขาเป็นเด็กผู้ชายที่ชอบการกอดมากโดยเฉพาะกอดคนเป็นแม่
“ใช่ครับ ป่ะไปนอนกันพรุ่งนี้ลูกเปิดเทอมแล้วนี่น่า” ไม่รู้ว่าปิดเทอมของลูกสนุกหรือเปล่า ระหว่างที่ลูกอยู่กับคนเป็นยายไม่รู้ว่าแกเจออะไรมาบ้าง “มีโอมีความสุขไหมลูก?”
“ครับ ขอแค่มีแม่” เด็กน้อยเม้มริมฝีปากก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก
“แม่ขอโทษที่ไม่ค่อยได้ดูแลหนูนะ ต่อไปนี้แม่จะดูแลลูกเอง” เธอเอาแต่ออกไปทำงานทิ้งลูกให้อยู่กับแม่มันเจ็บใจตรงที่มารู้ว่าแม่ติดการพนันแล้วช่วงเวลานั้นลูกเธอจะได้เห็นได้รู้อะไรไปบ้าง