วันหนึ่งแทน ชายคนรู้ใจของจันทร์เจ้าเอยคิดอยากจะมาเซอร์ไพรส์เธอด้วยดอกไม้ช่อโตที่โรงเรียน เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ห้องเรียนที่เธอสอนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาดักกลางทางเดินเหมือนรู้ว่าเขาจะมาหาเธอ
"มาหาครูเจ้าเอยหรือคะ" เธอทักเขาก่อนที่เขาจะพูดอะไร แต่เธอก้มหน้าไม่ได้หันมามองเขาแบบเต็มตา
"ใช่ครับ อย่าเพิ่งไปเรียกเขานะครับผมมาเซอร์ไพรส์เขาน่ะครับ" เขาแปลกใจว่าทำไม่ถึงรู้ว่าเขาจะมาหาเธอแต่ก็บอกออกไปว่าอย่าเพิ่งให้จันทร์เจ้าเอยรู้ตัว
"ครูเจ้าเอยไม่อยู่หรอกค่ะ เหมือนว่าจะมีผู้ชายรับออกไปทานข้าวข้างนอกคงจะเป็นคนรักกัน"
"คนรักหรือครับ" ทั้งแปลกใจในภาษาที่ใช้และแปลกใจที่จันทร์เจ้าเอยมีคนรัก
"ใช่ค่ะมารับกันทุกวัน เลิกสอนก็กลับบ้านด้วยกัน แล้วคุณเป็นใครคะจะได้บอกเธอให้"
"ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเลยแล้วกัน" แทนโกรธจนมือไม้สั่นไปหมดเหมือนตัวเองถูกหลอกให้เชื่ออย่างสนิทใจไม่คิดว่าคนที่ดูจริงใจอย่างจันทร์เจ้าเอยจะหลอกคบซ้อนเขาได้
แทนเดินออกไปอย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์พลุกพล่าน และเมื่อกำลังจะเดินไปที่จอดรถก็มองเห็นจันทร์เจ้าเอยเดินจูงมือกับชายคนหนึ่งในฝั่งตรงกันข้ามกับเขา
"หลอกกันจริงๆด้วย" เขากัดฟันด้วยความโกรธและเดินไปขึ้นรถขับกลับออกไปอย่างหุนหันพลันแล่น
"หึๆๆๆๆ" หญิงคนที่มาดักเจอกับแทนก้มหน้าและหัวเราะออกมาเบาๆ ภาพของจันทร์เจ้าเอยและชายคนที่จูงมือกันจางหายไปกลางอากาศ กลับกลายเป็นหญิงชายชาวบ้านทั่วไปคู่หนึ่งที่เดินซื้อของกันอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อแทนที่
"ตึ๊ง"
"แทน เสาร์หน้าเราไปดูหนังกันนะ" ข้อความจากจันทร์เจ้าเอยส่งถึงเขา
"เชิญคุณไปดูกับคนรักของคุณเถอะ"
"คนรักอะไร นี่อำกันหรือ"
"คุณมีแฟนแล้วมาหลอกคบกับผมได้ยังไง นานแค่ไหนแล้วที่โกหกผม" เขาต่อว่าเธอทางข้อความ
"นี่มันอะไรกันเจ้าเอยไม่เห็นจะรู้เรื่อง"
"เชิญแสดงละครหลอกคนอื่นไปเถอะ สำหรับผม พอกันทีเราเลิกกัน!"
ตลอดชีวิตตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ช่วงวัยสาวของจันทร์เจ้าเอยเธอไม่เคยคบใครได้นานเลยทั้งที่เธอเองมีรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าสวยมากคนหนึ่ง มักจะมีเหตุที่ทำให้เธอและผู้ชายแต่ละคนมีเรื่องผิดใจกันและเลิกรากันไปเสมอ
ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกันแต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมแทนถึงคิดว่าเธอหลอกลวงหรือมีแฟนอยู่แล้วด้วย เขาไปเอามาจากไหนหรือเข้าใจผิดอะไรมา แต่ที่แน่ๆตอนนี้เขาเอาจริงกับการตัดสัมพันธ์กับเธอ
"โอ้ย!" จันทร์เจ้าเอยเดินอยู่บนทางเท้าแต่เหม่อลอยเดินไปตกร่องหลุมตื้นของฟุตบาทที่ชำรุดจนข้อเท้าซ้ายแพลงในระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน
"บ้าจริงเชียว ผู้ชายทิ้งแถมเจ็บตัวอีกต่างหาก เจ้าเอยหนอเจ้าเอย ขอข้ามไปอายุ 26 ปีเลยได้ไหม จะได้หมดอาถรรพ์เบญจเพสเสียที" เธอเริ่มรู้สึกเซ็งกับดวงชะตาของตัวเองเวลานี้
...........................
"เจ้าเอยลูก ทานอะไรมาหรือยัง หิวไหมลูก" จิตตราทักทายลูกสาวที่เดินหน้าเศร้าเข้าบ้านมา
"เป็นอะไรไปลูก หน้าหงอยมาเลย" เกรียงไกรสังเกตุสีหน้าของลูกสาวที่ดูซึมไป
"อ้าวแล้วนั่นเท้าเจ็บหรือไปโดนอะไรมา" จิตตราเห็นลูกสาวเดินขากระเพลก
"ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ เจ้าเอยแค่เหนื่อยค่ะ ซุ่มซ่ามไปหน่อยเลยข้อเท้าพลิก วันนี้เจ้าเอยขอตัวอาบน้ำนอนเลยนะคะไม่หิวเลยค่ะ"เธอตอบพ่อกับแม่ด้วยเสียงอ่อนล้าแล้วเดินขึ้นชั้นสองของตัวบ้านไป
"ปล่อยแกไปก่อนเถอะแม่ ลูกน่าจะเดินทางเหนื่อย" เกรียงไกรบอกภรรยาที่ทำท่าจะเดินเข้าไปหาลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
"เฮ้อ...สงสัยเธอคงต้องโสดไปจนตายแล้วล่ะเจ้าเอย" จันทร์เจ้าเอยพูดกับตัวเองหน้ากระจกห้องน้ำ เธอเสียใจมากแต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเหมือนมันจุกในอกหรือตกอยู่ข้างในอาจเป็นเพราะว่าเจอมานับครั้งไม่ถ้วนจนเริ่มพอทำใจให้ชินก็เป็นได้
เธอมานั่งลงบนเตียงนอนแล้วเอาหลอดยาแก้ปวดเหมื่อยฟกช้ำมาทาถูที่ข้อเท้าตนเอง
คืนนี้จันทร์เจ้าเอยเข้านอนแต่หัววัน เธอยังไม่ง่วงแต่ไม่มีใจจะทำอะไรจึงได้แต่พลิกตัวกลับไปกลับมาอยู่บนที่นอน สักพักสายลมเอื่อยพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอน จันทร์เจ้าเอยชอบเปิดหน้าต่างห้องนอนรับลมตามธรรมชาติให้เล็ดลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่ติดลูกกรงเหล็กดัดและมุ้งลวดพร้อมกับกลิ่นของดอกจันทร์กระพ้อที่โชยมาในเวลากลางคืน
ว่าจะไม่มีน้ำตาก็อดไม่ได้ที่จะมีหยดน้ำใสๆไหลลงหมอนแต่ไร้เสียงสะอื้น เพียงไม่กี่หยดเธอก็ผลอยหลับไป
"เจ็บหรือ" แว่วเสียงหนึ่งล่องลอยมาตามลม
"อือออ" เสียงเธอครางคล้ายรู้สึกมีใครมาสัมผัสโดนตัวเธอ
มือหนึ่งข้างที่ซีดเซียวเหมือนไก่ต้มแต่ไม่มีเนื้อหนังคล้ายกระดูกหรือซากศพมาลูบเบาๆไปมาบริเวณข้อเท้าเธอข้างที่เจ็บ
"เจ็บมากหรือ" เสียงเยือกเย็นนั้นพูดขึ้นมาอีกครั้ง
"อืออออ" เธอยังครางเหมือนละเมอ
"แค่นี้ยังเจ็บไม่ได้เสี้ยวที่กูเจ็บแม้แต่น้อย" เสียงนั้นกระซิบข้างหูเธอ ถึงเสียงนั้นจะแหบพร่าแต่ก็บ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสของเจ้าของเสียง
"แม่บุหลัน" เสียงใครคนหนึ่งเรียกขึ้น ทำให้มือซีดนั้นผละออกจากข้อเท้าของจันทร์เจ้าเอย
สายตาของเจ้าของเสียงแหบพร่าหันไปมองหาที่มาของเสียงเรียกชื่อแล้วก็ยอมล่าถอยสลายตนเองเป็นหมอกควันจางหายไป
........................