จันทร์เจ้าเอยไม่เคยเล่าเรื่องที่เจออุบัติเหตุให้กับพ่อและแม่ฟังเพราะกลัวว่าทั้งสองคนจะเป็นห่วงแต่เธอเล่าให้เพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกันฟังในวันที่ทั้งสามคนนัดเจอกันในวันหยุด
"เพิ่งผ่านวันเกิดมาแท้ๆทำไมเจอแต่เรื่องซวยนะ" จันทร์เจ้าเอยเล่าให้ปลาดาวและชมจันทร์สองเพื่อนสนิทฟัง
"หรือมันจะเป็นอาถรรพ์เบญจเพศ" ปลาดาวออกความเห็น
"จริง ส่วนใหญ่จะเจอเรื่องไม่ดีช่วงอายุ 25ปีเต็มเนี่ยแหล่ะแก" ชมจันทร์ส่งเสริมคำพูดเพื่อน
"แล้วทำไมแกสองคนไม่เห็นจะเป็นอะไร" จันทร์เจ้าเอยสงสัย
"ฉันอายุน้อยกว่าแกหนึ่งปีย่ะฉันสอบเทียบมา" ปลาดาวบอก
"ส่วนฉันผ่านมาแล้วเพราะฉันอายุมากกว่าแกหนึ่งปี แต่ตอนนั้นฉันไม่เจออะไรแรงๆนะ เหมือนว่าจะดีด้วยซ้ำ" ชมจันทร์เล่าเรื่องตัวเอง
"แปลว่ามีฉันคนเดียวที่ซวยหรือ" จันทร์เจ้าเอยหันไปมองหน้าเพื่อนสองคนแบบเซ็งๆ
"เออแล้วฉันฝันแปลกด้วยนะ ฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดโบราณฝันติดกันมาหลายคืนแล้ว" จันทร์เจ้าเอยเล่าให้เพื่อนฟังถึงเรื่องราวในความฝัน
"ว้าวสงสัยจะเป็นเนื้อคู่แกเมื่อชาติก่อน ไม่ก็แกกำลังจะเจอเนื้อคู่แน่ๆเลย" ปลาดาวแซวเพื่อนเป็นเรื่องขำขัน
"น่าอิจฉา ส่วนฉันสิความเป็นจริงไม่มี แม้แต่ฝันยังไม่ฝันเลย" ชมจันทร์สาวสายตาสั้นขยับแว่นตัวเอง
"มันก็แค่ความฝันแหล่ะแก แต่มันเหมือนจริงมาก เหมือนจนฉันยังไม่อยากตื่น"
"แล้วเขาที่ว่าหล่อมากไหม" ปลาดาวหน้าทะเล้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้
"ฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาเต็มๆเลยสักครั้ง เห็นแค่ผ่านๆ แต่ดูจากรูปร่างก็หล่ออยู่นะ ซิกแพคแน่น" จันทร์เจ้าเอยแกล้งพูดให้เพื่อนอิจฉา
"ถ้าเป็นฉันนะฉันจะกินยานอนหลับมันทุกคืนเลยจะได้นอนฝันยาวๆ ฮ่าๆๆๆๆ" สาวแว่นอย่างชมจันทร์หัวเราะร่วน
.....................
คืนนี้จันทร์เจ้าเอยไม่ได้ฝันถึงชายแปลกหน้าผู้นั้นเหมือนเช่นที่เคยมาแต่กลับฝันถึงเด็กผู้หญิงสองคนที่อยู่ในชุดไทยแบบโบราณ อีกคนหนึ่งนุ่งผ้าสวยงามดูมีฐานะส่วนอีกคนเนื้อตัวมอมแมมนุ่งห่มด้วยผ้าสีตุ่นมอซอ เหมือนเด็กทั้งคู่อยู่กันคนละชนชั้นวรรณะ
"ข้าให้เจ้า" เด็กผู้หญิงอายุราว 12 ปี ที่แต่งกายในชุดสะอาดตาดูมีฐานะยื่นสายสร้อยข้อเท้าที่ถักด้วยเชือกและมีกระพรวนเม็ดเล็กห้อยตุ้งติ้งให้กับเด็กหญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกันแต่แต่งตัวด้วยผ้าสีตุ่นมอมแมม
"จริงรึ บ่าวจะใส่มันไปตลอดชีวิต" เด็กผู้ที่อยู่ในชุดสีตุ่นตอบรับ
"ไปเราไปเล่นกันเถอะ ข้าจะเป็นเพื่อนกับเอ็งเอง" เด็กผู้มอบสายสร้อยข้อเท้าเชือกให้คว้าข้อมือของเด็กอีกคนให้เดินไปด้วยกันอย่างไม่รังเกียจ
"ตื่นเถิดแม่บุหลัน" เสียงทุ้มนุ่มลึกก้องกังวาลในโสตประสาทของจันทร์เจ้าเอย
"ติ๊ดดดดด" เสียงนาฬิกาปลุกบอกเวลาหกโมงเช้า
"นี่เราฝันอีกแล้วหรือเนี่ย" จันทร์เจ้าเอยสะดุ้งตื่นและเอื้อมมือหยิบนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงขึ้นมากดปิดเสียง
"คืนนี้ไม่ได้ฝันถึงเขาแฮะ?" เธอหมายถึงชายปริศนาที่ฝันถึงอยู่บ่อยๆ
" หายฝันถึงแล้วนี่ สงสัยจะเป็นแค่เรื่องเพ้อเจ้อของเราเองจริงๆนั่นแหล่ะ" เธอพูดคนเดียวก่อนลุกขึ้นจากที่นอน ไปเข้าห้องน้ำชำระร่างกายเตรียมออกไปทำงาน
............................
"คุณครูเท่ห์จังเลยครับ" เด็กชายเป็นเอกทักเมื่อผู้ปกครองกำลังเดินจูงมือมาส่งและเจอจันทร์เจ้าเอยเข้าพอดี
"สวัสดีจ้ารูปหล่อเท่ห์อะไรแต่เช้าลูก"จันทร์เจ้าเอยเอามือลูบหัวทักทายเด็กชายอย่างเอ็นดู
"คุณครูมีคนขี่ม้ามาส่งด้วย" เด็กชายพูดขึ้น
"ม้าที่ไหนลูกไม่มีค่ะ คุณครูมารถไฟฟ้าจ้า" เธอหันไปหัวเราะกับผู้ปกครอง
"สงสัยจะฟังนิทานก่อนนอนเยอะไปค่ะคุณครู" แม่ของเด็กชายเป็นเอกหัวเราะ
"แต่ผมเห็นจริงๆนะฮะ" เด็กน้อยยืนยัน
"เอาล่ะจ้ะ ที่โรงเรียนเราไม่อนุญาตให้ใครขี่ท้ามาโรงเรียนนะจ๊ะ เจ้าชายขี่ม้าในนิทานรอหนูอยู่ที่บ้านนะลูก" จันทร์เจ้าเอยตัดบทพร้อมพาเด็กชายเป็นเอกเข้าห้องเรียนไปด้วยเรียน
"อย่าถือสาแกเลยนะคะ" ผู้ปกครองของเด็กชายหันมาขอโทษหากว่าลูกชายเธอพูดอะไรไปตามประสาเด็ก
"ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เด็กๆมักจะมีจิตนาการเป็นเรื่องปกติค่ะ"
"มิน่าเขาชอบวาดรูปคนขี่ม้าแล้วเอามาให้แม่ดูเขาบอกว่าคนขี่ม้าเข้ามาในโรงเรียน" ผู้ปกครองหัวเราะกับจันทร์เจ้าเอยเล่าให้ฟังเรื่องของเด็กชายแล้วหัวเราะด้วยความขบขันที่ลูกของตนจินตนาการมาจากนิทาน
.........................