Chapter 1 เจ้าสาวของพ่อ

1305 คำ
Chapter 1 เจ้าสาวของพ่อ “Hope Bar Club VIP one night stand งั้นเหรอ” ปราบมองบัตรเชิญที่เพื่อนยื่นให้ด้วยความเบื่อหน่าย หลังจากอ่านมันจบเขาก็วางมันลงบนโต๊ะ เอนตัวลงพิงโซฟาพร้อมกับยกขาขึ้นพาดบนโต๊ะหน้าโซฟา  “แกจะมาทำหน้าเบื่อโลก เป็นลิงอมลูกท้ออยู่อย่างนี้ไม่ได้ตลอดนะเว้ย ฉันจัดงานนี้เพราะแกเลยนะ ไปหาความสุข จิบเหล้าเคล้านารี เหมือนที่เราทำกันเมื่อก่อนไง” ภูชิตตบบ่าเพื่อนบอกด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน คนพูดโยกศีรษะไปด้วยเพื่อให้คู่สนทนามีอารมณ์ร่วมมากที่สุด แต่กลับไม่เป็นผลสักนิด ปราบยังทำหน้าเบื่อโลกอยู่อย่างนั้น “เบื่อ” เขาทำหน้าเบื่ออย่างที่บอก “ไปเปิดหูเปิดตาหน่อย แค่พัทยาเอง”  “ไม่ไป” ชายหนุ่มบอกย้ำอีกครั้ง ปราบเหยียดตัวยาวบนโซฟาทอดสายตามองออกไปด้านนอก กระจกหน้าต่างบานใหญ่ถูกออกแบบให้เปิดกว้าง สำหรับมองทัศนียภาพด้านนอก 180 องศา เพนท์เฮ้าส์หรูหราชั้นบนสุดของโรงแรมกลายเป็นที่เก็บตัวเงียบของเขา หลังจากบิดาประกาศแต่งงานใหม่กับหญิงสาวรุ่นลูก “ถ้าขี้เกียจขับรถ เดี๋ยวฉันให้คนมารับ” ภูชิตเสนอ เผื่อเขาอยากดื่มและไม่อยากขับรถ “ขี้เกียจไป” ปราบตอบกลับทันทีโดยไม่เสียเวลาคิด เขาทอดสายตามองออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย แต่ภูชิตก็ไม่ละความพยายาม  ภูชิตทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พร้อมกับพยักพเยิดและส่งสายตามองไปที่กระดาษแผ่นเล็ก “แกดูวันที่ ในบัตรเชิญก่อนดิวะ” “ทำไม” น้ำเสียงของคนพูดยังคงเบื่อหน่อย แต่ก็ยอมเหลือบสายตาไปมองวันที่ในบัตรเชิญตามความต้องการของเพื่อน เมื่อเห็นวันเวลาในการ์ดเชิญ เขาก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเช่นเดิม  “ฉันไม่ศรัทธากับวันไหนทั้งนั้นแหละ” “ฉันไม่ได้หมายถึงวันวาเลนไทน์นะ แต่มันเป็นวันแต่งงานของสาวิตรีต่างหาก หรือแกอยากอยู่กรุงเทพฯ ร่วมฉลองวันแต่งงานอันชื่นมื่นของพ่อกับแฟนเก่าของนายล่ะ ลืมไปแล้วหรือไง” ‘จริงสิ ระยะหลังเขาโหมงานหนัก จนแทบลืมวันลืมคืน’ ปราบส่ายหน้า ทั้งที่แววตายังสะท้อนถึงความปวดร้าว แต่เขาก็ยังปากแข็งคงเส้นคงวา  “ผู้หญิงคนนั้นไม่มีผลกับความรู้สึกของฉันอีกต่อไปแล้ว” ภูชิตตบบ่าไหล่เพื่อนหนักๆ “เจ็บก็ยอมรับ อย่าเก็บมันไว้ แม้ว่านายจะปากแข็งบอกว่าไม่รู้สึกอะไร แต่นายจะทนอยู่บนนี้ ทั้งที่รู้ว่าอดีตแฟนเก่า แต่งงานกับพ่อของตัวเองอยู่ห้องจัดเลี้ยงข้างล่างโรงแรมงั้นเหรอ"   "อือ...คงงั้น" น้ำเสียงของคนพูด หลุดออกมาจากลำคอเพียงแผ่วเบา ภูชิตบีบบ่าเพื่อนรักคะยั้นคะยออีกรอบ "เออน่า ถึงนายจะพยายามปกปิดความรู้สึกของตัวเองแค่ไหน แต่นายก็ปิดฉันไม่ได้หรอก” ปราบนิ่งงัน นึกย้อนกลับไปถึงเดือนก่อน...บิดาของเขาเรียกทนายความประจำตระกูลมาพบ พร้อมกับเอกสารการโอนทรัพย์สิน จำได้ว่าวันนั้นเขาตกใจมาก หุ้นของโรงแรมและทรัพย์สินทุกอย่าง ถูกโอนให้เป็นชื่อของเขา เหลือไว้เพียงหุ้นในบริษัทเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ปราบไม่เข้าใจการจัดการแบบกะทันหันเร่งด่วนแบบนี้ของบิดา ที่จู่ๆ ทนายประจำตระกูลนำเอกสารมาให้เขาเซ็น  “หมายความว่ายังไงครับ” “ฉันจะแต่งงาน” วันนั้นบิดาของเขาบอกออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ แต่กลับทำให้ลูกชายเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง จะไม่ให้เขาแปลกใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อบิดาของเขาครองตัวเป็นโสดมาตลอด นับตั้งแต่มารดาของเขาเสียชีวิตลงเมื่อ 20 ปีก่อน ท่านไม่เคยคิดที่จะหาแม่เลี้ยงให้เขา แต่จู่ๆ กลับอยากจะลุกขึ้นมาแต่งงานในวัย 65 มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่สุดในชีวิต “ยอมเพื่อความสุขของฉันสักครั้งนะปราบ ฉันอยากมีคนดูแลตอนแก่” “ผมไม่เคยคิดจะห้ามคุณพ่ออยู่แล้วนะครับ แต่แค่แปลกใจว่าทำไมคุณพ่อต้องรีบโอนทรัพย์สินมาให้ผม” คนสูงวัยกว่ายื่นซองสีชมพูส่งให้ลูกชาย  “แลกกับความสุขของฉัน แลกกับเจ้าสาวที่ฉันกำลังจะแต่งงานด้วย นี่จะเป็นสิ่งยืนยันว่าฉันรักแกมากแค่ไหน” ประโยคนั้นยิ่งทำให้ปราบงงหนัก ทำไมจะต้องแลก ในเมื่อเจ้าสาวก็เป็นคนรักของท่าน ปราบจำต้องหยิบซองขึ้นมาเปิดอ่าน ในจังหวะที่เขากวาดสายตาไปเห็นชื่อและนามสกุลที่คุ้นเคย พร้อมกับประโยคที่หลุดออกมาจากปากบิดาในเวลาเดียวกัน  “ฉันจะแต่งงานกับสาวิตรี เธอจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เพราะต้องเตรียมงานแต่งงาน ฉันจะขอยืมคฤหาสน์หลังนี้เป็นเรือนหอก่อน แกคงไม่ขัดข้องอะไรนะ” ประโยคนั้นเหมือนหมัดน็อคเสยปลายคางของปราบอย่างจัง สิ่งที่ทำให้เขาช็อกคือ...เจ้าสาวของพ่อคือคนรักของเขา แต่สาวิตรีเป็นเลขาของท่าน ทั้งคู่ไม่มีทีท่าว่าจะรักกันมาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ปราบสบตาบิดานิ่งเป็นเชิงถามย้ำ ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากหนา ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันหนักอึ้งไปหมด “ฉันรู้ว่านายเสียใจ ทำเพื่อความสุขของฉันได้ไหมปราบ” “คนอื่นไม่มีแล้วเหรอครับ ทำไมจะต้องเป็นผู้หญิงคนนี้” เขาถามด้วยน้ำเสียงราวกับไฟสุมและพ่นออกมาจากใจ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกทุกร้อนกับปฏิกิริยาของลูกชาย “ความรักมันห้ามกันได้ด้วยเหรอ” เจ้าสัวกลั้วหัวเราะในลำคอตอบกลับ แม้ว่าเขากำลังจะแย่งคู่รักของลูกชายอยู่ก็ตาม  “ครับ” ปราบตอบรับเบาๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้  “ถ้าพ่อไม่มีธุระอื่นกับผมอีก ขอตัวนะครับ” พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที เขาไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งผู้หญิงคนเดียวกับพ่อ จำต้องเก็บความรู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ทนไว้ข้างใน ในวันเดียวกัน ปราบยัดเสื้อผ้าลงในกระเป๋าเป้ลวกๆ จากนั้นก็เหวี่ยงกระเป๋าขึ้นบ่า ก้าวขาออกจากคฤหาสน์ เป้าหมายของเขามีเพียงที่เดียวเท่านั้น แม้หัวใจจะปวดปร่า แต่เขาไม่สามารถอุทธรณ์ใดๆ ไม่แม้แต่จะอยากถามความจริงจากปากของแฟนสาว เขาจะยอมรับในสิ่งที่เธอเลือกและตัดสินใจ  สำหรับเขา...เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งให้หายไปเอง  ปราบวางกระเป๋าลงบนพื้น ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาเหยียดขายาว ทอดสายตามองโคมไฟระย้าที่อยู่บนเพดาน  เขาย้ายออกจากคฤหาสน์มาอยู่ที่เพนเฮาส์ในโรงแรม ถ้าสาวิตรีจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน เขาก็ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอกับความรักของคนทั้งคู่ ให้ตะขิดตะขวงใจกัน หลังจากวันนั้น...ปราบก็ไปปาร์ตี้หนักกว่าเดิม จากคนที่ปาร์ตี้หนักอยู่แล้ว แต่เขาเป็นคนรับผิดชอบสูง เมื่อก่อนไม่เคยผิดพลาดเรื่องงาน แต่ในระยะหลังเลขาของเขาแทบจะสิงตัวและลากกลับ เธอตามติดและประคับประคองเจ้านายให้ทำงานได้ พอนึกไปถึงความเหลวแหลกของตัวเองเมื่อเดือนก่อน เขาก็อดสงสารเลขาตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่มีเธอสักคน ทุกอย่างคงจะแย่กว่านี้ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม