“ปะ เปล่าครับคุณพ่อ” ปัทม์เป็นคนตอบ เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน ปลายตามองผิวแก้มสีระเรื่อของคนข้างด้วยสายตาอ่อนลง กันจิราแสร้งปัดฝุ่นผงที่ติดตามเสื้อผ้าแก้เก้อ เธอเงี่ยหูฟังคำตอบของคนข้างตัว “คุณสิตาเธอไม่ทันเห็นผมหน่ะครับ เลยชนกันล้ม” ปัทม์เฉลยความนัยเพื่อไม่ให้บิดาสงสัย ตรัยอมยิ้ม ท่านไม่ได้ท้วงออกมาสักคำ นอกจากยิ้มมุมปาก “ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แค่อุบัติเหตุ!” สิตาตัวปลอมเปรยลอยๆ เธอขยับเดินถอยหลังให้ห่างจากปัทม์แบบไม่ให้ทุกคนรู้ตัว “ไม่เจ็บก็ดีแล้วหล่ะหนู เดี๋ยวประถมมันจะมาว่าฉันได้ ที่ดูแลลูกสาวมันไม่ดี” ตรัยเปรยเสียงเรียบ “ขอตัวนะคะ” หญิงสาวรีบชิ่งหนี เธอกลัวว่าตนเองจะเผยพิรุธให้คนอื่นรู้ ตรัย ปัทม์ไม่ได้รั้งไว้ สองหนุ่มต่างวัยปล่อยให้สิตาเดินห่างไป ด้วยความรู้สึกต่างกัน ตรัยสะดุดใจนิดหน่อย เท่าที่รู้มา บุตรสาวของเพื่อนเป็นขาวีน หากไม่พอใจสิตาจะไม่เคยลงให้ แต่ที่เห็น...ไม่ได้เป็น