ยูถกาเดินอย่างระมัดระวัง ถึงแม้เม็ดขนุนจะยื่นมือมาช่วยพยุง ในบาง ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธ ยูถกาเองแอบโกรธตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่รู้ทำไม ถึงได้ยอมตามเม็ดขนุนมา กับแค่อีกคนบอกว่า ภายในตรอกซอกซอยแห่งนี้มีก๋วยเตี๋ยวรสเลิศน่าลิ้มลอง เม็ดขนุนยิ้มๆ กับสาวที่วันนี้แต่งตัวดูทะมัดทะแมง เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีเข้มและรองเท้าผ้าใบสีฟ้า ต่างกันกับเมื่อวันก่อนอย่างสิ้นเชิง อันที่จริงเมื่อวันก่อนสาวคนนี้ก็สวยงามตามแบบสาวที่ชอบแต่ง ตัวทั่วๆ ไป เพียงแต่ว่า สถานที่นั้นไม่เหมาะที่จะไปเดินเล่นเท่านั้นเอง
“ถามอะไรหน่อยสิ ชอบกิน ใช่ไหมเนี่ย” เม็ดขนุนเริ่มพูดแหย่ ยิ้มกว้างขึ้นทันที เมื่อสาวที่เดินตามมาชักสีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจนัก
“กลับ ยังทันนะ” ยูถกาทำท่าจะหันหลังกลับ
“จะถึงแล้ว เลี้ยวไปนิดเดียว ถ้าไม่อร่อย จะนอนให้เหยียบเลยนะเออ”
“จำคำพูดไว้ด้วยนะ อยากเหยียบคน” ยูถกาแอบยิ้ม แต่เมื่อเดินใกล้ร้านเข้าไป กลิ่นหอมของน้ำซุป ซึ่งโชยกลิ่นมาแต่ไกลนั้น กลับทำให้ลืมเรื่องที่ถูกกวนโมโหไปได้ชั่วขณะ
“ถึงแล้วววววว” เม็ดขนุนยิ้ม เมื่อหยุดยืนมองดูรถเข็นคันเก่า ซึ่งมีตู้เก่าๆ ขอบเป็นไม้ และมีกระจกติดคล้ายๆ กับตู้ร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ตามข้างทาง ซึ่งต่างกันที่โครงสร้างนั้นเป็นสแตนเลส คนขายเป็นคุณป้าซึ่งอายุอานามมากพอสมควร ยูถกาหันไปมองสบตากับเม็ดขนุนที่ยิ้มๆ พยักพเยิดให้เดินเข้าไปหาที่นั่ง จะว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวก็คงไม่ได้ เรียกได้ว่า เป็นการขายของหน้าบ้านน่าจะดีกว่า เพราะโต๊ะเก้าอี้ที่ให้ลูกค้านั่งนั้นเป็นโต๊ะไม้เก่าๆ ที่ตั้งอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน
“ท่าจะได้เหยียบคนนะ วันนี้” ยูถการำพึงออกมาเบาๆ ไม่รู้ตัวเลยว่า เม็ดขนุนแอบสังเกตอากัปกิริยาอยู่เกือบตลอดเวลา
“ลองก่อน อีกหน่อยติดใจ จนต้องดั้นด้นมาเอง เชื่อดิ” เม็ดขนุนบอก
“โม้ หรือเปล่า” ยูถกายิ้มทะเล้นให้ แล้วสองสาวก็หาที่นั่ง
“เล็กยำ แห้งหนึ่ง น้ำหนึ่งค่ะ ป้า” เม็ดขนุนสั่งเสียงดัง ยูถกาคิ้วย่นเมื่อได้ยิน ไม่รู้ทำไมถึงต้องตะโกนเสียลั่นร้านขนาดนั้น ทั้งๆ ที่บรรยากาศก็เงียบๆ ลมพัดเย็นสบาย อาจจะเพราะร้านอยู่ติดกับชายคลอง ถึงแม้จะไม่ได้สะอาดอะไรมากนัก หากแต่ว่า ถ้ามีน้ำมากกว่านี้ คลองแห่งนี้น่าจะดีกว่าเวลานี้ที่น้ำแห้งจนเห็นขี้โคลนดำปิ๊ดปี๋
“เบิ้ลสองเลย หรือ” ยูถกาถาม
“เดี๋ยวจะมีสามตามมา เอาเส้นอะไรดี” เม็ดขนุนถาม
“เหมือนกัน ก็ได้ ยังไงถ้าไม่อร่อย โดนตืบอยู่แล้ว” ยูถกาหัวเราะคิกคัก เม็ดขนุนแหกปากตะโกนสั่งก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง ยูถกานั่งอยู่
ใกล้ จึงตีเข้าที่แขนเสียงดังฉาดใหญ่
“เอ๊าเจ็บนะ วุ๊ย ตีทำไมเนี่ย” เม็ดขนุนพูดเสียงเข้ม แค่เพียงครู่เดียวก็ยิ้ม เอามือลูบไปที่แขน ซึ่งเพิ่งโดนฝ่ามือของยูถกาฟาดไปเมื่อสักครู่
“แหกปากตะโกนเสียงดังลั่นทำไมล่ะ เดี๋ยวชาวบ้านก็มาด่าให้หรอก ไม่มีมารยาท”
“ป้าเขาหูไม่ค่อยดี พูดเบาๆ ก็อดกินดิ ลองพูดธรรมดาดูสิ ว่าจะหันมาไหม”
“ป้าคะ ของหนูไม่ใส่ ผงชูรส นะคะ” คนขายยังคงลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวโดยไม่ได้หันมาสนใจยูถกาเลยแม้แต่น้อย
“ตะโกนดิ ลองดู” เม็ดขนุนพูดยิ้มๆ มองดูคนที่เอามือป้องปากทั้งสองข้าง
“ป้าคะ ของหนูไม่ใส่ ผงชูรส นะคะ” พูดจบยูถกาหอบเล็กน้อย เจ้า ของร้านหันมายิ้มๆ ให้แล้วพยักหน้าเป็นการแสดงออกว่า ได้ยินสิ่งที่บอกแล้ว
“ปกติ ป้าไม่ได้ใส่อยู่แล้วค่ะ ไม่มีประโยชน์อะไร เปลืองเปล่าๆ นะ” ป้าเจ้าของร้านบอกเสร็จ หันกลับไปปรุงน้ำซุปต้มยำ กลิ่นหอมของมะนาวซึ่งผสมลงในน้ำซุปหอมฉุย ยังถั่วป่นที่ท่าทางน่าจะป่นเอง ซึ่งส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ มา โดยเฉพาะกากหมูซึ่งถูกสาดลงในชาม ยูถกาตาลุกวาวเมื่อได้เห็น และแอบสูดกลิ่นหอมนั้นพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“ไงล่ะ นี่แค่กลิ่นเองนะ ยังอยากเหยียบอยู่หรือเปล่า” เม็ดขนุนถามพร้อมด้วยรอยยิ้มและทำหน้าเป็นใส่ยูถกา
“กลิ่น ไม่ได้บอกว่า จะอร่อยนี่” ยูถกาเถียง
“นึกชามที่สามไว้ได้เลยเหอะ ว่าอยากกินเส้นอะไร” เม็ดขนุนเบ้หน้า แต่หันไปแอบยิ้มๆ มองดูความน่ารักของคนที่จ้องมองป้าเจ้าของร้านเขม็ง แค่เพียงครู่เดียว กล้องตัวเล็กได้ถูกหยิบออกมาจากกระเป๋า ยูถกาเดินไปยืนหน้าร้าน ถ่ายรูปป้าขณะกำลังปรุงก๋วยเตี๋ยว ภาพของควันที่ลอยอยู่ พร้อมด้วยรอย ยิ้มอ่อนๆ ของคนสูงวัยทำให้ยูถกายิ้ม กับภาพที่ได้เห็นจากช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ของกล้องถ่ายรูปที่ถืออยู่ในมือ
“กระเป๋าโดเรม่อน หรือไง” เม็ดขนุนถาม มองดูกระเป๋าผ้าใบเขื่อง ซึ่งไม่ใหญ่และไม่เล็กนัก
“พร้อมหยิบของใช้ ไม่เสียอารมณ์” ยูถกาบอก หันไปถ่ายภาพริมคลอง โดยไม่สนใจเม็ดขนุนที่หันมองตามไปทางที่ยูถกาเดินออกไป
“เฮ๊ย เดี๋ยวดิ” เม็ดขนุนรีบคว้าตัวเอาไว้ โอบเอวยูถกา ซึ่งตอนนี้อยู่ในอ้อมกอด ขาข้างหนึ่งยกสูงขึ้น เพราะการเหนี่ยวรั้งของคนที่กำลังดึงเธอให้ออก มาจากบริเวณนั้น
“ปล่อย ทำบ้าอะไรเนี่ย ปล่อยนะ ไอ้เม็ดหนุน” ยูถกาออกแรงดิ้น หันมาทำหน้าดุใส่คนที่คลายอ้อมกอดออก และแอบหยิกแรงๆ ไปที่แขน ยูถกาไม่รู้ตัวเลยว่า ใบหน้าแดงขนาดไหน แต่รู้สึกว่าร้อนๆ คิดว่าด้วยความโมโหที่โดนเม็ดขนุนแกล้งเลยไม่ได้สนใจอะไร หากแต่สายตาของคนที่มองมานั้น ทำให้รู้สึกแปลกๆ จนไม่กล้าจะสบตาด้วย
“ดุเหลือเกิน กินอะไรเข้าไปบ้างเนี่ยวันๆ จ้องจะทำร้ายร่างกายตลอดเลย รู้งี้ไม่ช่วยก็ดีหรอก” เม็ดขนุนทำเป็นพูดบ่น แต่กลิ่นของน้ำหอมอ่อนๆ นั้น ทำให้เผลอยิ้มออกมา
“ช่วยบ้าอะไรล่ะ แกล้งกันชัดๆ ดีนะ กล้องไม่หลุดมือหล่นพื้น” ยูถกาพูดดุ แต่ยังไม่กล้าสบตากับเม็ดขนุน
“ก็ไม้มันผุ ตรงนั้นน่ะ เหยียบลงไปมีหวังได้ต้องหิ้วปีกไปโรงพยาบาล ดูสิ เหยียบลงไปล่ะก็” ยูถกามองตามสายตาของเม็ดขนุนที่มองไปยังแผ่นไม้กระดานปูพื้น ซึ่งผุกร่อนจริงอย่างที่เม็ดขนุนพูด ถ้าเหยียบลงไปมีหวัง ขาแข้งอาจจะหักเอาก็ได้
“อุ๊ย ขอโทษที” ยูถกายิ้มแหยๆ หัวเราะแหะๆ มองดูคนที่ยืนยิ้ม ไม่ได้เป็นรอยยิ้มทะเล้นเหมือนเคย เป็นรอยยิ้มน้อยๆ ซึ่งทำให้ใบหน้าคมเข้มของเม็ดขนุนดูสวยขึ้นมาก แต่ไอ้แววตาที่จ้องมองมานั่นสิ ทำให้ยูถกาเริ่มรู้สึกว่า กำลังหวั่นไหวไปกับดวงตาอันแสนอ่อนโยนที่ได้เห็น
“ไม่เป็นไร ดีกว่าเจ็บตัว ไปเถอะ กินก๋วยเตี๋ยวดีกว่า” เม็ดขนุนบอก
“ขอบใจนะ เจ็บหรือเปล่าที่หยิกไปเมื่อกี้น่ะ” ยูถกาถามเสียงอ่อยๆ
“ดูสิ มือไวเหลือเกินนะ เราน่ะ” เม็ดขนุนแสร้งทำเป็นพูดบ่น แต่แอบหันไปยิ้ม สบตาเข้ากับป้าเจ้าของร้านเข้าพอดี
“แฟน หรือ” ป้าพูดขึ้น ทำเอาทั้งสองสาวยิ้มอายๆ ทำหน้าไม่ถูก
“ผู้หญิงนะ ป้า” เม็ดขนุนลดเสียงเบาลง ไม่เหมือนตอนสั่งก๋วยเตี๋ยว เพราะตอนนี้ป้ามายืนอยู่ใกล้ๆ แล้ว
“ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย แม่หนู น่ารักจะตายไป ถ้าไม่ใช่ ก็จีบให้ใช่เสียสิ หนู” ป้ายิ้มๆ แล้วเดินกลับไป
“ป้า แกชอบพูดเล่น” เม็ดขนุนยิ้ม ก้มหน้าก้มตา และเริ่มรับประทานก๋วยเตี๋ยวทันที
“รู้แล้ว จะบ้าหรือไง ไม่ได้ชอบผู้หญิงสักหน่อย” ยูถการำพึงออกมา แต่เมื่อได้ลิ้มรสชาติน้ำซุป ซึ่งแทบจะไม่ต้องปรุงรสอะไรเพิ่มเลย เรื่องอื่นๆ จึงถูกลืมไปจากความนึกคิดของเธอชั่วขณะ หันมาสนใจก๋วยเตี๋ยวรสเลิศที่วางอยู่ตรงหน้านั้นเพียงอย่างเดียว เม็ดขนุนมองยิ้มๆ กับท่าทางเอร็ดอร่อยของยูถกา
“น้ำเปล่า หรือเก๊กฮวยดี” เม็ดขนุนถาม
“ตัวเอง กินน้ำอะไร” ยูถกาถาม เริ่มยิ้มให้เม็ดขนุน
“เก๊กฮวย เอาเหมือนกันนะ”
“อือ” เม็ดขนุนมองคนที่กำลังตักก๋วยเตี๋ยวใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ รสชาติเผ็ดบ้าง แต่ไม่มากนัก เหงื่อเม็ดเล็กๆ เริ่มผุดให้เห็นตามใบหน้าของยูถกา จึงหยิบกระดาษเช็ดหน้าจากกระเป๋าช่วยซับหน้าให้กับคนที่เบี่ยงตัวเล็กน้อย
“จะได้ไม่เสียเวลากินไง ขยับเข้ามา อย่าดื้อดิ มีอีกหลายทีเลยนะ ที่มีของอร่อยแบบนี้” เม็ดขนุนอมยิ้ม มองสบตากับคนที่จ้องเขม็งอยู่ ยูถกาขยับตัวและก้มหน้าเล็กน้อย ยอมให้เม็ดขนุนช่วยเช็ดเหงื่อแต่โดยดี
“ขอบใจนะ ไม่ได้เห็นแก่กินขนาดนั้น ไม่ต้องเอาของกินมาล่อหลอกหรอกน่า” ยูถกาอมยิ้ม รู้สึกอายกับคนที่เลิกคิ้วจ้องตาแป๋ว
“ไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ ตกลงว่าไง ชามที่สาม เอาไหม” เม็ดขนุนถาม
“บะหมี่ เนอะ” ยูถกาหัวเราะแหะ เม็ดขนุนหัวเราะเล็กๆ หันไปสั่งก๋วยเตี๋ยวเพิ่มอีกสองชาม