1.1
“อีอ่อน มึงมัวมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องไปเบิกฤกษ์เป็นสาวเต็มตัวแล้วนะ” เสียงแม่ของอ่อน ดังขึ้นจากทางข้างหลังเมื่อเดินตามหาลูกสาวไปทั่วหมู่บ้านแล้วมาเจอเธอนั่งคุดคู้คนเดียวอยู่ตรงริมธารด้วยท่าทีเศร้าสร้อย
“ก็หนูไม่อยากเข้าพิธีนี่...เราไม่เข้าพิธีไม่ได้เหรอจ๊ะ?”
อ่อนพูดเสียงเบา เธอเป็นเด็กสาวในเผ่ากามะที่มาตั้งถิ่นฐานเป็นหมู่บ้านกลางป่าเขาได้หลายสิบปีแล้ว แต่แม้ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนกฎของเผ่าที่มีมาอย่างช้านานก็ยังคงต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
นั่นก็คือการที่เด็กสาวที่เข้าสู่วัยสิบแปดปีทุกคนต้องผ่านการเข้าพิธีเบิกฤกษ์ เพื่อจะได้เป็นสาวเต็มตัวพร้อมจะมีสามีนั่นเอง
ซึ่งพิธีที่ว่าก็คือการที่เธอจะต้องเสียสาวให้กับหัวหน้าเผ่าคนปัจจุบันจนครบเจ็ดวัน ต้องอยู่ในกระท่อมที่ห่างออกไปจากตัวของหมู่บ้าน เรียนรู้วิธีร่วมรักและวิธีดูและเอาอกเอาใจสามีจากหัวหน้าเผ่าจนเสร็จเรียบร้อย จึงจะสามารถกลับมาที่หมู่บ้านและพร้อมสำหรับการแต่งงานกับชายหนุ่มที่ตนเองชอบพอได้
“ไม่ได้ มึงต้องเข้าพิธี อย่ามัวชักช้าอยู่เลย เดี๋ยวท่านหัวหน้าเผ่าจะรอนาน” แม่ของเธอดึงแขนเรียวบางขาวละเอียดให้ลุกขึ้น แต่เธอรั้งแขนเอาไว้
“แต่หนูยังไม่พร้อมนี่จ๊ะ...ขอเลื่อนไปอีกสองสามวันได้ไหม”
“อย่าให้กูต้องเสียหน้าสิอีอ่อน! กูเตรียมของทุกอย่างไว้หมดแล้ว รีบไปเร็วเข้าก่อนที่หัวหน้าเผ่าจะโมโห มึงคงไม่อยากใช้ชีวิตอีกเจ็ดวันที่เหลือแบบยากลำบากหรอกใช่ไหม?”
“แต่นี่มันก็ผ่านมาหลายสิบปีแล้วนะแม่ ทำไมเราต้องเข้าพิธีบ้าๆ นั่นด้วย”
“อีอ่อน! อย่าปากพล่อยให้มันมากนะมึง รีบตามกูมาเร็วเข้า!”
ว่าแล้วเธอก็ลากแขนลูกสาวให้เดินตามไปที่รถม้า แม้ว่าโลกภายนอกจะพัฒนาไปจนถึงการมีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต แต่คนในเผ่านี้ก็ยังคงใช้วิถีชีวิตแบบเดิมๆ เดินทางด้วยม้าหรือรถม้า นุ่งผ้าถุงและใช้ผ้าฝ้ายรัดอกเหมือนสมัยก่อนไม่มีผิด แต่ผู้คนในเผ่าก็ยังคงมีความสุขกันดีแม้จะต้องอาศัยอยู่แต่ในป่าเขาก็ตาม
บนรถม้า...
“อีอ่อน ขยับมาใกล้ๆ สิ ไปนั่งอะไรไกลขนาดนั้น” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์ของหัวหน้าเผ่าวัยสี่สิบสี่ปีเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มไปนั่งขดตัวอยู่ตรงมุมของรถม้า ไม่กล้าแม้กระทั่งจะสบตากับเขา
“เอ่อ หนูชอบอยู่ตรงนี้จ้ะท่านหัวหน้าเผ่า” เธออ้างเหตุผลไร้สาระตอบกลับไปเสียงแผ่ว หัวหน้าเผ่าเห็นแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกถูกใจที่เธอช่างดูดื้อรั้นต่างจากเด็กสิบแปดคนอื่นๆ ในเผ่าที่เขาเคยพาเข้าพิธีกรรม
เด็กสาวแบบนี้แหละถูกใจเขานัก!
“เรียกกูว่าลุงใหญ่ก็ได้ เรากำลังจะเข้าพิธีเบิกฤกษ์กันแล้ว เรียกท่านหัวหน้าเผ่าแบบนั้นมันดูห่างเหินเกินไป”
“แต่ว่า...” อ่อนหันกลับมามองเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ได้ยินมาว่าท่านหัวหน้าเผ่าไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อจริง ต้องให้เรียกว่าท่านหัวหน้าเผ่าตลอดเวลาเพราะว่าตั้งแต่เผ่ากามะของเราก่อตั้งมา ก็ไม่มีใครกล้าเรียกชื่อจริงของผู้นำเผ่าในช่วงเวลานั้นๆ เลย นอกจากจะเป็นครอบครัวเดียวกัน หรือว่าเป็นผัวเมียแบบถูกต้องตามขนบธรรมเนียม
“ไม่ต้องกลัว เรียกแค่ตอนที่เราอยู่ด้วยกันสองคน ไม่มีใครรู้เรื่องแล้วตำหนิมึงหรอก” เขาพูดเสียงอ่อนโยน ขยับเบาะเข้าไปนั่งใกล้เด็กสาวผิวขาวราวน้ำนม ก่อนจะยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักของเขาแล้วกอดเอาไว้
“อ๊ะ...ท่านหัวหน้าเผ่า”
“ลุงใหญ่....เรียกกูว่าลุงใหญ่” เขาเอ่ยย้ำเสียงเข้ม เธอจึงพยักหน้าแล้วเรียกว่าลุงใหญ่ตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย
“ละ ลุงใหญ่...ปล่อยหนูก่อนจ้ะ นั่งท่านี้มันไม่เหมาะสม” อ่อนพูดเสียงตะกุกตะกักอย่างเขินอาย เพราะว่าเธอสัมผัสได้ถึงลำเนื้อแข็งร้อนที่กำลังเบียดอยู่กับก้นนุ่มของตัวเอง
“ไม่เหมาะยังไง นั่งท่านี้ก็สบายดีออก” หัวหน้าเผ่าพูดเสียงแหบพร่า กอดร่างนุ่มนิ่มไว้แน่นพลางไซร้ซอกคอของเธอไปมาจนเธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“ก็ท่านี้...มะ มันน่าอายนี่จ๊ะ” เธอตอบกลับไปเสียงเบาหวิว ใบหน้าหวานเห่อแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ แม้ใจจะรู้สึกอายแต่ก็ไม่กล้าผลักไสท่านหัวหน้าเผ่าออก เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นการเสียมารยาท
หัวหน้าเผ่าวัยกลัดมันเห็นหน้าแดงลามไปถึงใบหูก็ยกยิ้มอย่างพอใจ ทั้งไซร้ทั้งลูบคลำขาอ่อนของเด็กสาวผ่านผ้าถุงไม่หยุด
“ไม่น่าอายหรอก อ่าส์...มึงนี่ช่างถูกใจกูจริงๆ”
________________________________________________
ไรต์เปิดให้อ่านฟรี จากนั้นจะตามมาติดเหรียญทีหลังนะคะ
รีบๆ เข้ามาอ่านกันน้าาาา