สัญญารักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 8
-สามชั่วโมงต่อมา-
“ข้ากลับก่อนนะ ไว้ว่างนัดเจอกันใหม่ จะเกี่ยวดองกันแล้ว คงได้เจอกันบ่อยขึ้น” วิรุธพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกอดคอเพื่อนรักเดินออกมาถึงประตูบานใหญ่
“บ้านนี้ก็เหมือนบ้านเอ็งแล้วไอ้รุธ อีกหน่อยสะใภ้บ้านนี้ก็คือหนูไอรีน”
ไอรีนมองภาพของเพื่อนรักคุยกันอย่างมีความสุข แม้แต่แม่ของเธอก็ยิ้มและหัวเราะตาม สำหรับเธอดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของคนที่เธอรัก เรื่องราววันนี้มันรู้สึกจุกจนน้ำตาตกใน แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งคู่ทำให้เธอไม่กล้าที่จะพูดความจริงออกไป ทั้งที่ทุกอย่างมันคือเรื่องโกหก
หลังจากที่โนอาร์พูดแบบนั้นออกไป ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมีแต่เสียงพูดคุยเรื่องแต่งงานต่างๆนาๆ มีแต่เธอและคนต้นเรื่องที่เอาแต่นั่งเงียบพยักหน้าตอบบ้างตามมารยาท
“กลับก่อนนะคะคุณอา” ไอรีนยกมือไหว้ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ่งเพิ่มความเอ็นดูให้กับณรงค์ไม่น้อย
“รอบหน้าเจอกันต้องเรียกพ่อได้แล้วนะ”
คำพูดของณรงค์ทำให้ไอรีนรู้สึกกระอักกระอ่วน ดวงตากลมโตเผลอไปสบตากับชายหนุ่มที่มองมาที่เธอด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม
“ค่ะ” เธอตอบเพียงสั้นๆ และเดินไปที่รถของเธอทันที
“แกคิดจะทำอะไร” ณรงค์พูดขึ้นหลังจากมองรถของไอรีนเคลื่อนออกไปจนสุดลูกหูลูกตาแล้ว
“เรื่องของผมพ่อไม่ควรก้าวก่าย”
“ถ้าแกคิดจะทำอะไรพิเรนทร์ ให้ไปหาผู้หญิงคนอื่น ฉันสงสารหนูไอรีน”
“พ่อเองหรือเปล่าที่ลากผู้หญิงคนนั้นเข้ามา” สายตาคมกริบจ้องไปที่หน้าของชายสูงวัยอย่างไม่ลดละ
“ฉันเตือนแกแล้วนะโนอาร์” ณรงค์พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง
“เตือนตัวเองก่อน!” โนอาร์ตอบกลับทันที ก่อนจะเดินไปขึ้นรถตัวเองที่มีลูกน้องคอยสแตนบายอยู่ก่อนแล้ว
ณรงค์มองตามหลังลูกชายของเขาด้วยสายตาเรียบเฉย เขาพอรู้ถึงการแสดงออกของทั้งคู่ที่ไม่เหมือนคู่รักกันสักนิด แต่การที่โนอาร์กล้าประกาศเรื่องแต่งงานต่อหน้าทุกคนเขาก็ไม่คิดจะขัด เพราะเขารู้ว่าลูกชายสุดรั้นของเขามักทำตามที่พูดแน่ไม่ใช่คนพูดพล่อยๆ "จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ถ้าวันไหนหนูไอรีนมาขอความช่วยเหลือจากฉัน ฉันจะเป็นคนช่วยลูกสะใภ้ของฉันเอง และมาดูกันอำนาจที่แกมีกับอำนาจของฉันใครจะแน่กว่ากัน"
ภายในรถยนต์คันหรูตกอยู่ในความเงียบหลังจากที่ขับเคลื่อนออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ โนอาร์เผยใบหน้าเรียบเฉยไม่มีความรู้สึกใดๆออกมา
"คืนงานให้ไอรีน" น้ำเสียงเรียบนิ่งพูดบอกลูกน้องคนสนิทที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้า
"อาจจะได้ไม่หมดทุกงานเพราะบางงานก็หาคนแทนไปแล้วครับ"
"อืม" มีเพียงเสียงตอบรับในลำคอเบาๆ ก่อนที่สายตาคมกริบจะหลับลงอย่างช้าๆ แค่อยากจะพักสายตาเท่านั้น
ตกเย็นวันเดียวกัน
หญิงสาวตัวเล็กกำลังง่วนอยู่กับจัดอาหารฝีมือแม่ที่เอามาจากที่บ้านใส่ตู้เย็น ใบหน้าหวานเรียบเฉยแต่ในหัวของเธอยังคิดแต่เรื่องเมื่อเช้านี้
"เฮ้อ....นายคิดจะทำอะไรกันแน่"
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์แผดเสียงดังลั่นจนคนที่คิดอะไรเพลินๆสะดุ้งเฮือก ตั้งแต่ที่เธอโดนยกเลิกงานเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าก็มีแต่เบอร์พ่อกับแม่เท่านั้น ดวงตากลมโตมองเบอร์บนหน้าจอพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
"สวัสดีค่ะ ไอรีนค่ะ"
(น้องไอรีน...พี่เอ๋ จากบริษัท XXX เองนะคะ พี่อยากให้เรามาเป็นเอ็มซีในงานของบริษัทเหมือนเดิมจะได้ไหมคะ พี่ต้องขอโทษด้วยที่ต้องแคลเซิลงานเราไปก่อนหน้านี้ มันเป็นคำสั่งจากเบื้องบน พี่ก็ออกปากอะไรไม่ได้ แต่อยู่ดีๆคำสั่งก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม อยากได้น้องไอรีนเหมือนเดิม จะสะดวกไหมคะ"
"คะ? ให้ไอร์ไปทำงานเหมือนเดิมใช่ไหมคะ" ไอรีนถามกลับด้วยน้ำเสียงดีใจจนควบคุมไม่อยู่
(ใช่ค่ะ ถ้าน้องไอรีนโอเค สัญญาของเรายังเหมือนเดิมค่ะ แล้วทางบริษัทก็เพิ่มค่าตัวให้น้องไอรีนอีกเท่าหนึ่งเป็นการขอโทษ)
"ค่ะ ค่ะ ไอร์ว่างค่ะ รับค่ะ งั้นตารางคิวทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิมเลยนะคะ"
(ใช่ค่ะ ส่วนบรีฟงานทุกอย่างพี่ส่งให้ในเมลเราตามเดิมนะ ขอบคุณนะคะที่ให้โอกาสบริษัทพี่อีกครั้ง)
"ขอบคุณเช่นกันค่ะ" ไอรีนกดวางสายหลังจากที่พูดคุยกันจบ ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มออกมาบางๆ อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องดีสำหรับเธอ
ครืด ครืด… เป็นอีกครั้งที่เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้น
"สวัสดีค่ะ ไอรีนพูดสายค่ะ"
(สวัสดีค่ะพี่เป็นตัวแทนจากบริษัทXXXนะคะ พี่อยากได้เราเป็นพีเซ็นเตอร์ของทางบริษัทตามเดิม ก่อนหน้านี้ทางบริษัทต้องขอโทษด้วยนะคะ อาจเกิดจากความเข้าใจผิดเลยต้องแคลเซิลน้องไป)
"ได้ค่ะพี่ ไอร์ไม่ได้โกรธอะไร ไอร์พอเข้าใจ"
(งั้นสัญญาของเรายังคงตามเดิมนะคะ)
"โอเคค่ะ ส่วนรายละเอียดที่จะให้ไอร์ทำส่งมาในเมลไอร์ตามเดิมนะคะ"
ครืด ครื่ด....
"สวัสดีค่ะ ไอรีนค่ะ"
ครืด ครืด
"ฮัลโหลค่ะ ไอรีนพูดค่ะ"
ครืด ครืด...
"สวัสดีค่ะ........"
เป็นอีกหนึ่งวันที่ไอรีนรับสายเรียกเข้าไม่ได้หยุดหย่อน จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ตัวแทนบริษัทต่างๆมากมายโทรเข้ามาหาเธอไม่หยุด มีทั้งบริษัทเดิมที่จ้างงานเธอก่อนหน้านี้และบริษัทใหม่ที่แทรกเข้ามาวันที่เธอว่างได้อย่างเหมาะเจาะ
"ลงตารางคิวเสร็จสักที" มือบางวางปากกาลงหลังจากเขียนคิวตัวเองในสมุดจดรับงาน ก่อนจะบิดขี้เกียจด้วยความเมื่อยล้า ดวงตากลมโตเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว
"ฝีมือนายสินะ" ไอรีนพูดเบาๆ เพราะการที่เธอได้งานขนาดนี้คงไม่พ้นคนมีอำนาจอย่างเขา มันก็ไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือของเขาจริงๆ
"แต่ฉันคงไม่ต้องขอบคุณ" เธอมองหน้ากระดาษจดคิวงานที่แน่นเอี๊ยดที่เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้จนถึงสิ้นปี ก่อนจะไหวไหล่และลุกไปทำธุระส่วนตัว
เช้าวันใหม่...แสงสว่างจากด้านนอก รอดผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบกับใบหน้าเนียนใสที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียง
ติ่ด ติ๊ดดด ติ๊ด...
"อื้อ..." เสียงนาฬิกาปลุกแผดเสียงชวนให้คนที่หลับอยู่รู้สึกตัวตื่นอย่างงัวเงีย มือบางควานหาโทรศัพท์ทั้งที่ตาตั้งสองข้างยังคงปิดสนิท เปลือกตาที่หนักอึ้งหรี่ตามองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ที่บ่งบอกเวลาว่าตอนนี้หกโมงเช้าแล้ว
"อื้ออออ....." ไอรีนบิดตัวไปมาบนเตียงนอนเพื่อสลัดความงัวเงียออกจากตัวเอง และรีบลุกไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำทันที
"ถือว่าที่ผ่านมาลาพักร้อนละกัน" ร่างบางพูดกับตัวเองหน้ากระจกเงาก่อนจะล้างหน้าแปรงฟัน
@สนามแข่งรถ N' International Circuit
"บรื้น นนน..." เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตนับร้อยคันรวมตัวกันอยู่ในสนามแข่งระดับประเทศ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมที่นักแข่งทั่วโลกอยากจะมาทดสอบสมรรถภาพของรถตัวเองในสนามนี้สักครั้งในชีวิต เป็นสนามที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด การที่จะประคับประคองรถให้อยู่ในถนนจนถึงเส้นชัยเป็นเรื่องที่ยากสำหรับนักแข่งมือสมัครเล่น ทำให้สนามนี้คนที่กล้าลงแข่งต้องเก่งในระดับหนึ่งแล้ว สำหรับมือสมัครเล่นไม่มีใครกล้าเสี่ยงเพราะการที่รถออกนอกเลนท์มีสิทธิ์พังยับหรือไม่ก็ลงคูน้ำ
"ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม" ร่างสูงยืนดูผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามานับพันคนและรถสปอร์ตคันหรูหลายร้อยคันผ่านห้องกระจกในสนามแข่งที่ใช้เป็นเหมือนป้อมปราการสำหรับดูรถแข่งโดยเฉพาะ แต่สายตาคมกริบกลับจับจ้องไปทางผู้หญิงตัวเล็กที่คุ้นเคยกำลังกระหนุงกระหนิงกับพิธีกรชายอย่างออกนอกหน้า
"ครับ"
10.00 AM.
"สวัสดีค่ะผู้ชมทุกท่านและนักแข่งมืออาชีพทุกคน ในวันนี้ทางสนามแข่งรถ N' International Circuit ของเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้จัดงานแข่งรถที่มีนักแข่งระดับโลกหลายท่านเข้าร่วมงาน แถมยังรวมพริตตี้สาวสวยจากทั่วประเทศมาสร้างความเร้าใจให้กับงานวันนี้อีกด้วยค่ะ แต่แอบแว่วๆมาด้วยว่าเงินรางวัลวันนี้หลักล้าน" หญิงสาวร่างเล็กใบหน้าสวยกำลังพูดเจื้อยแจ้วอย่างคล่องแคล่ว วันนี้ไอรีนแต่งด้วยชุดเดรสเกาะอกสีแดงแรงฤทธิ์สั้นแค่คืบโชว์ขาขาวเนียนที่อยู่บนส้นสูงห้านิ้ว แถมเผยหน้าอกอันอวบอิ่มล้นทะลักจนกลายเป็นจุดสนใจของหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ทั่วทั้งงาน
"ใช่แล้วครับน้องไอร์ ทางผู้จัดงานมีมอบเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะในครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน หนึ่งล้านบาท เรียกได้ว่าตาลุกวาวกันเลยทีเดียว แม้แต่พิธีกรเองยังอยากลงแข่งเองเลยครับน้องไอร์"
"นั่นสิคะ ถ้ามีโอกาสก็อยากสัมผัสสักครั้งจริงไหมคะ"
"ใช่แล้ว แต่ขอผมไปฝึกบังคับรถก่อนนะครับ" เสียงของพิธีกรสาวสวยและหนุ่มหล่อสร้างความสนใจให้กับคนทั้งงานได้เป็นอย่างดี ราวกับซ้อมบทกันมาหลายวัน โดยเฉพาะไอรีนที่พึ่งได้รับรายละเอียดงานเมื่อคืนนี้เอง
"เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกับเจ้าของสนามนี้กันสักหน่อยจะดีกว่า ขอเชิญคุณโนอาร์ เจ้าของสนามแข่งรถแห่งนี้แถมยังพ่วงตำแหน่งประธานบริษัท เอ็นโอ กรุ๊ป อีกด้วย ขอเสียงปรบมือต้อนรับประธานหนุ่มสุดหล่อของเราหน่อยครับ"
ฮิ้ววว แปะ แปะ ~
เสียงปรบมือดังเกรียวกราวต้อนรับชายหนุ่มร่างสูง ใบหน้าคมคายสไตล์ยุโรป ที่อยู่ในชุดสูทสีดำสุดเนี๊ยบ
ไอรีนที่ได้ยินเสียงประกาศจากคนข้างๆถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ตอนที่บรีฟงานตามรายละเอียดไม่ได้แจ้งว่าใครคือเจ้าของงาน บอกแค่ว่าให้เธอขึ้นมาเป็นพิธีการร่วมกับพิธีกรชายอีกคน เนื้อหาคร่าวๆมีประมาณหนึ่ง ส่วนลูกเล่นอื่นๆคือความไหลลื่นในการพูดเชิญชวนให้คนสนใจ
"ไอร์ๆ ไอรีน" พิธีกรหนุ่มกระซิบให้หญิงสาวได้สติ เพราะเขาเรียกเธอหลายครั้งแต่เหมือนคนข้างๆไม่ได้ยิน
"คะ พี่ว่าไงนะคะ พอดีไอร์ไม่ได้ยิน" ไอรีนต้องรีบแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เพราะเธอมัวแต่มองชายหนุ่มร่างสูงที่เดินขึ้นเวที สายตาคมกริบปรายตามองหญิงสาวเพียงนิดและกลับไปสนใจผู้คนตรงหน้าแทน
"เดี๋ยวไอร์ถือพานที่ใส่กรรไกรนี้ไปส่งให้คุณโนอาร์ตัดริบบิ้นเปิดงานนะ"
"คนอื่นไม่ได้เหรอคะ"
"พี่ว่าไอร์เหมาะสุดแล้ว อีกอย่างหน้าที่นี้ก็มีแค่เราสองคน พี่เป็นผู้ชายคงไม่เหมาะมั้ง"
คำพูดของพิธีกรชายทำให้ไอรีนคิดตาม "งั้นก็ได้ค่ะ" ไอรีนมองพานที่ใส่กรรไกรและมองไปที่ชายหนุ่มอย่างช่างใจ ก่อนจะหยิบพานนั้นเดินเข้าไปยืนข้างหลังเขา เหมือนกับงานที่ผ่านมาที่เคยทำ
"แต่งตัวขนาดนี้ไม่แปะแต่หัวนมเดินมาเลยละ" โนอาร์หันมาหยิบกรรไกรจากเธอและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเบาๆแต่ทำให้คนตัวเล็กได้ยิน
"...." ไอรีนได้แต่ยืนนิ่งไม่อยากจะโต้ตอบ เธอแค่มาทำหน้าที่พิธีกรรับเงินค่าจ้างแล้วจบ หลีกเลี่ยงที่จะต่อล้อต่อเถียง
"ถึงเวลาอันเป็นสมควรแล้ว เชิญคุณโนอาร์และคณะกรรมการทุกท่านตัดริบบิ้นเผื่อเปิดงานวันนี้ครับ"
วี๊ด วิ่วว ปัง ปัง (เสียงพลุเปิดงาน)
แปะ แปะ …. เสียงปรบมือดังก้องอีกครั้งเมื่อประธานตัดริบบิ้นเปิดงานไปเป็นที่เรียบร้อย
"ขอเชิญคุณโนอาร์กล่าวอะไรสักเล็กน้อยครับ"
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทุกท่านให้ความสนใจกับการแข่งรถครั้งนี้ และก็ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนสนามแข่งรถของเราเสมอมา หวังว่าวันนี้ทุกท่านจะได้รับความสนุกเต็มอิ่มกลับไป ขอบคุณครับ" พูดจบโนอาร์ก็ส่งไมค์ให้พิธีกรชาย
“มานี่!” และดึงตัวหญิงสาวลงจากเวที สร้างความงุนงงให้คนทั่วทั้งงาน
“โอ๊ย เจ็บ!”
“เอ่อ…คงมีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อยนะครับ ผมรับหน้าที่พิธีกรต่อจากน้องไอรีนเลยละกัน” พิธีกรชายพยายามกู้หน้า แต่เหมือนกับว่าคนจะสนใจการกระทำของคนที่เดินลงไปซะมากกว่า
“นี่ปล่อย” ไอรีนพยายามสะบัดข้อมือตัวเองออกจากฝ่ามือหนา เพราะเขาเอาแต่ลากเธอให้เดินตามจนตัวเธอแทบล้มลงพื้น ผู้คนมากมายมองการกระทำของทั้งคู่และไม่มีใครรู้สาเหตุ จนทำให้ลูกต้องของโนอาร์ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์
“ปล่อยแน่….แต่ปล่อยใน!” น้ำเสียงเข้มพูดด้วยความโมโห เมื่อลากเธอขึ้นมายังห้องกระจกที่เขาใช้มองเหตุการณ์ข้างนอกก่อนหน้านี้
“นะ นายจะทำอะไร” ไอรีนถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“อยากโชว์นักไม่ใช่เหรอไง ห้องนี้เป็นกระจกใส เวลาโดนว่าที่ผัวเอาอย่าลืมยิ้มทักทายคนข้างล่างด้วยละ!”