สัญญารักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 3
หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น โนอาร์ไม่มีกะจิตกะใจที่จะดูรถอีกต่อไป เขาเดินออกจากศูนย์จัดแสดงรถสปอร์ตทันที ใบหน้าคมคายไม่แสดงความรู้สึกออกมาแต่อย่างใด เผยนัยส์ตาคมกริบที่หลายคนเกรงกลัวไม่กล้าสู้หน้า
"ผมเกรงว่าพรุ่งนี้จะมีปัญหาตามมานะครับ" ธันวาลูกน้องคนสนิทของโนอาร์ที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับพูดกับเจ้านายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังด้วยท่าทางนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์
ธันวาสังเกตเห็นคนยืนถ่ายวิดีโอระหว่างที่เกิดเรื่องแต่ก็ไม่สามารถเข้าไปห้ามได้เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะและมีผู้คนจำนวนมากกำลังมุงดู โดยเฉพาะสื่อต่างๆที่มารอทำข่าว
"ถ้าการที่กูให้มึงขึ้นมาเป็นมือขวา แต่เรื่องแค่นี้จัดการไม่ได้ก็ออกไป"
"ผมจะรีบจัดการให้เรียบร้อยทุกอย่างครับ ช่วงบ่ายนายไม่มีตารางงานแล้วจะกลับบ้านเลยไหมครับ?"
"อืม"
"กูต้องการรู้รายละเอียดเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น" น้ำเสียงเรียบนิ่งพูดขึ้น การที่เขาโมโหขนาดนี้เพราะไม่เคยมีใครกล้าต่อปากต่อคำกับเขามาก่อน
"พริตตี้คนนั้นใช่ไหมครับ?"
"......" โนอาร์ไม่ตอบคำถามของลูกน้องคนสนิท สายตาคมกริบมองออกไปนอกกระจกรถ บรรยากาศภายในรถกลับมาเงียบอีกครั้งไม่มีใครกล้าที่จะถามอะไรต่อ
@คอนโด
หญิงสาวเปิดประตูห้องพักของคอนโดระดับกลางๆด้วยใบหน้าเรียบเฉย ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้พลานทำให้เธอหงุดหงิด
"ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ น่าจะด่ากลับให้มากกว่า เห๊อะ! คนอะไรไร้มารยาทสิ้นดี" ไอรีนเดินกระทืบเท้าปังๆเข้าห้องด้วยอารมณ์คลุกกรุ่น เธอยังรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ตอบโต้ให้มากกว่านี้ คนอย่างไอรีนไม่ยอมให้ใครมาด่าฟรีเหมือนกัน
ครืด ครืด ….
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังแทรกอารมณ์ที่กำลังเดือดปุดๆของหญิงสาว แค่เธอหยิบออกมาดูเบอร์ที่แสดงหน้าจอก็รีบสูดอากาศเข้าปอดและทำให้ตัวเองใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว
"ฮัลโหลค่ะ คนสวยของไอร์ กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย" ไอรีนทำน้ำเสียงกระดี๊กระด๊าพูดกับปลายสาย ริมฝีปากบางยิ้มกว้าง
(ทำไมวันนี้อารมณ์ดีจังเรา ไม่ได้ทำงานเหรอลูก)
"ทำแล้วกลับมาแล้วค่ะ วันนี้เลิกเร็วก็เลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ"
(เลิกเร็วทำไมไม่กลับบ้านเราบ้างละลูก แม่จะได้ทำกับข้าวของโปรดไว้ให้กิน ทำแต่งานได้กินอะไรบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ วันก่อนแม่เห็นรูปไอร์ผอมมากเลยนะ)
"มาเป็นชุดเลย...ถ้าไอร์อ้วนก็ไม่มีใครจ้างงานน่ะสิ"
(ไม่มีใครจ้างแกก็กลับมาอยู่บ้าน ลูกคนเดียวฉันเลี้ยงได้)
"โอ๊ะ! มีหนุ่มที่ไหนแอบฟังเราคุยคะแม่ สงสัยหนุ่มคนนี้จะขี้บ่นหน่อยๆนะคะ"
(บ่นอย่างที่ไอร์ว่านั่นแหละลูก บ่นแต่เรื่องไอร์ อยากให้กลับมาอยู่บ้านพูดแบบนี้ทุกวัน พอเห็นลูกสาวสวยก็ชอบเอารูปไปอวดเพื่อน)
"ฮ่า ฮ่า พ่อใครน๊าาาขี้อวดจัง....เดี๋ยววันไหนหยุดไอร์จะเข้าไปนอนกอดทั้งสองคนเลยนะคะ ไอร์คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่จังเลยค่ะ ไอร์จะกินให้พุงกางเลย ว่าแต่แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ" ไอรีนถามด้วยความแปลกใจเพราะทุกทีเธอจะเป็นฝ่ายโทรไปคุย ด้วยที่งานของเธอเลิกไม่ค่อยตรงเวลาดึกบ้างเร็วบ้าง เธอเลยจะเป็นฝ่ายโทรหาเอง ไม่อยากให้พ่อแม่โทรมาแล้วเธอไม่ได้รับสาย แต่ถ้าเธอเห็นว่ามีเบอร์คนที่เธอรักทั้งคู่โทรมาก็จะรีบโทรกลับทันทีนั่นเป็นเพราะน่าจะมีเรื่องสำคัญที่จะคุย
(เอาไว้วันไหนไอร์ว่างเข้ามาที่บ้านละกันลูก คุยทางนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แม่กับพ่ออยากคุยต่อหน้าลูกมากกว่า)
"เอางั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวไอร์โทรบอกอีกทีนะว่าจะเข้าวันไหน"
"ได้จ้ะ งั้นแม่วางสายนะ ไอร์ก็พักผ่อนเยอะๆ กินข้าวกินปลาให้ตรงเวลาด้วยนะลูก"
"รับทราบค่าาา…ไอร์รักพ่อกับแม่นะ"
หลังจากกดวางสายไปแล้วรอยยิ้มบางๆยังคงฉายขึ้นบนใบหน้าหวาน การที่เธอได้คุยกับคนที่เธอรักจนสุดหัวใจมันทำให้มีความสุขจนลืมเรื่องเลวร้ายไปได้
ครอบครัวไอรีนอยู่ในระดับกลางๆไม่ได้รวย พอกินพอใช้ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ด้วยที่เธออยากทำงานหาเงินด้วยตัวเองและอยากหาเงินเลี้ยงพ่อแม่ เธอเลยตัดสินใจออกมาหางานทำ และสุดท้ายด้วยหน้าตาบวกกับความมุ่งมั่นของตัวเองก็ทำให้เธอกลายเป็นพริตตี้แถวหน้าระดับประเทศจนถึงทุกวันนี้ มีเงินใช้จ่ายของตัวเองและเปิดบัญชีฝากเงินไว้เป็นชื่อพ่อกับแม่อีกส่วนหนึ่ง
ถึงแม้คนทั่วไปจะคิดว่าอาชีพนี้เปลืองตัวหรือเป็นอาหารตาให้กับผู้ชายแต่สำหรับครอบครัวเธอกับสนับสนุนในสิ่งที่เธอเลือกและเธอก็ทำมันออกมาได้ดีจนทุกวันนี้มีคนที่เห็นเธอตามสถานที่ต่างๆก็เข้ามาขอถ่ายรูปคล้ายกับดาราไปแล้ว
"อย่างน้อยวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ดี"
@เช้าวันใหม่
หญิงสาวกำลังประทินโฉมอยู่หน้ากระจกเงาด้วยลุคสาวเซ็กซี่ เพราะวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่เธอมีงานในมอเตอร์โชว์ เธอเลือกที่จะแต่งหน้าไปเลยและไปเปลี่ยนชุดที่งานอีกที เมื่อวานหลังจากคุยโทรศัพท์กับคนที่บ้านเรียบร้อย เธอก็จัดการธุระส่วนตัวและหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ ความเหนื่อยล้าที่สะสมหลายวันทำให้หญิงสาวตื่นอีกทีในตอนเช้าวันใหม่เลย
ครืด ครืด…
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้น ดวงตากลมโตเหลือบไปมองเบอร์ที่โชว์เด่นอยู่บนหน้าจอก่อนจะกดรับอย่างไม่รีรอ
"ว่าไงคุณเพื่อน?"
(แกอยู่ไหน อยู่คอนโดหรือเปล่า มีใครโทรหาแกไหม แกรู้ข่าวหรือยัง)
"หยุดก่อน นี่แกเป็นอะไรรัวคำถามมาขนาดนี้" ไอรีนถามด้วยความแปลกใจเพราะปลายสายรัวใส่เธอไม่ยั้งแถมน้ำเสียงตื่นตระหนกตกใจราวกับมีเรื่องร้ายแรง
(พี่ปรางไม่ได้โทรหาแกเหรอ)
"ไม่นิ แล้วจะโทรหาฉันทำไมในเมื่อฉันก็กำลังจะออกไปทำงานปกติ ต้องเจอกันที่งานอยู่แล้ว"
(แล้วไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มหรือไง)
"เมื่อวานกลับมาก็สลบยาวยังไม่ได้เช็คโทรศัพท์เลย เกิดอะไรขึ้น?"
(สรุปเนื้อๆเลยนะ แกโดนเทงานเรียบร้อยแล้ว รอบนี้มีใบแจ้งอย่างเป็นทางการจากบริษัทเลย แล้วพี่ปรางก็ส่งมาให้ในกลุ่มไลน์จ้างงาน)
"กะ แกว่าไงนะ"
ไอรีนรีบกดดูโทรศัพท์เข้าไปดูตามที่เพื่อนสาวคนสนิทบอกทันที ดวงตากลมโตเบิกตาโพลงเพราะมันเป็นอย่างที่นินิวพูดไว้จริง เป็นกระดาษประกาศพร้อมลายเซ็นของผู้บริหารโชว์รูมบ่งบอกว่ากระดาษแผ่นนี้เป็นของจริง ในเนื้อหาประกาศบอกคร่าวๆว่าเป็นการยกเลิกสัญญาจ้างงานเป็นพริตตี้ให้กับโชว์รูมนี้อย่างเป็นทางการ และชื่อเธอก็โชว์หราอยู่บนกระดาษใบนั้นอย่างชัดเจน
(ยัยไอร์ ฮัลโหลๆ แกฟังฉันอยู่หรือเปล่า)
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมด ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด หรือว่า..." ไอรีนนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นก็ลอยมาทันที
(ฉันว่าเกี่ยวกับคุณโนอาร์ที่แกมีเรื่องด้วยนั่นแหละ แต่ทำไมเขาไม่เล่นงานฉันด้วยเพราะฉันก็เข้าไปยุ่งกับเหตุการณ์เมื่อวาน)
"ก็ดีแล้วที่หมอนั่นไม่เอาแกเข้ามาเกี่ยวด้วย มันเกิดขึ้นเพราะฉันเอง ถ้าฉันควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่านี้คงไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ก็ถือว่าได้พักผ่อนละกัน งานอื่นก็มีตารางงานฉันแน่นถึงสิ้นปี เสียงานเดียวคงไม่อดตาย อีกอย่างต่อให้ฉันไปทำก็ไม่ได้เงินอยู่ดีเพราะพนันกับพวกนั้นไว้ ถือว่าเป็นข่าวดีละกัน"
(ประสาทกลับหรือไงยัยไอร์ แล้วแกรู้อะไรไหมเครือของโชว์รูมที่เราทำงานมันขยายไปกี่สาขากี่บริษัท ลองเช็คแล้วเหรอว่าจะไม่โดนหางเลขไปด้วย)
คำพูดของเพื่อนสนิททำให้ไอรีนนิ่งไป หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ "ไม่ซวยขนาดนั้นหรอก งั้นแค่นี้แหละขอบใจที่บอกฉันนะ ไม่งั้นคงไปทำงานเก้อเลย"
พูดจบไอรีนก็รีบตัดสายเพื่อนสาวทันที มือบางสั่นจนต้องจับประสานกันไว้ พอเริ่มควบคุมตัวเองได้ นิ้วเรียวยาวค่อยๆเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ดูของผู้จ้างงานคนอื่นอย่างช้าๆ
บรรดาตัวแทนนายจ้างที่จ้างงานเธอส่งเอกสารการเลิกจ้างมาให้อย่างพร้อมเพรียงกัน ในเนื้อหาของประกาศเลิกจ้างไม่มีเหตุผลอะไรเลย ไม่มีแม้กระทั่งเงินชดเชยการเลิกจ้างแบบกะทันหัน
ไอรีนรีบโทรหาตัวแทนแต่ละบริษัทที่ประสานงาน แต่กลับไม่มีใครรับสายเธอเลยสักบริษัท หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบจนทำอะไรไม่ถูก มือบางกำโทรศัพท์แน่นด้วยความโกรธ "สารเลว"