ตอนที่ 2
“ใช่!..พี่กรณ์หรือเปล่าคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม
“ครับ ว่าแต่คุณรู้จักผม..เหรอครับ” ชายคนขับรีบถาม
“พี่กรณ์ จำพิมพ์ได้มั้ยคะ” ก่อนที่หญิงสาวจะถามเขากลับเช่นกัน
“พิมพ์!..” เขาหันมามองหน้าเธออย่างสังเกต ก่อนจะหันกลับไปควบคุมรถอย่างเดิม
“ค่ะ พิมพ์เอง ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอกับพี่อีกครั้ง” หญิงสาวรีบบอกออกไป และคิดไม่ถึงว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมา วันนี้เธอจะได้พบเขาอีกครั้ง
“พิมพ์มาเที่ยวที่นี่คนเดียวเหรอ”
“เปล่าหรอกค่ะ พิมพ์มากับเพื่อน แต่พอดีว่าเพื่อนพิมพ์เขาไปต่อกับแฟนนะสิ พิมพ์ก็เลยต้องกลับคนเดียว ไม่อยากไปเป็น กขค เค้าน่ะ”
"............."
“พี่ขับแกร๊บมานานหรือยังคะ” เว้นระยะไปสักครู่ไม่เห็นว่าเขาจะเอ่ยอะไร พิมพ์นารินก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
“พี่เพิ่งมาขับได้แค่สองเดือนเอง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เป็นไงบ้าง...พิมพ์สบายดีมั้ย” เขาเริ่มคุยกับเธออย่างเป็นกันเอง
“ก็เรื่อย ๆ ค่ะ พิมพ์ย้ายบ้านแล้วนะคะ”
“ที่จะไปนี้ คือบ้านใหม่ของพิมพ์เหรอ” ศุภกรณ์จำได้ว่าบ้านของเธอไม่ได้อยู่พัฒนาการ
“ค่ะ เป็นบ้านใหม่ของพิมพ์ แม่พิมพ์แต่งงานใหม่ พิมพ์กับแม่ก็เลยย้ายมาอยู่บ้านพ่อเลี้ยง”
“พิมพ์เรียนจบ แล้วก็ทำงานเลยใช่มั้ย” ศุภกรณ์เอ่ยถาม
“ค่ะ”
“แล้วทำงานอะไร บอกพี่ได้ม๊ะ” เขาวางแขนไว้ที่พักแขนแล้วชวนเธอคุยอย่างสบายใจ ก่อนจะขับรถด้วยมือเพียงข้างเดียว
“พิมพ์เป็นบรรณารักษ์ค่ะ”
“อ๋อ...แล้วพิมพ์แต่งงานหรือยังล่ะ”
“ยังเลยค่ะ...แล้วพี่ล่ะ” เธอถามกลับบ้าง
“พี่ก็ยังเลย”
“แล้วพี่กรณ์ยังเล่นดนตรีอยู่หรือเปล่า”
“ไม่ได้เล่นแล้วล่ะ พอดีหยุดไปช่วงที่โควิดระบาด ช่วงนั้นพี่ไม่มีงาน ก็เลยเปลี่ยนอาชีพไปขายของออนไลน์อยู่พักหนึ่ง แล้วก็มาขับแกร๊บอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ”
“ขยันขนาดนี้ จะเก็บเงินแต่งงานหรือไงคะ” หญิงสาวแกล้งเอ่ยแซว
“ก็ไม่เชิงหรอก แต่ทุกอย่างมันต้องขับเคลื่อนด้วยเงินน่ะสิ” เขารีบอธิบายทันที
“แหม่!!! ฟังดูน่าอิจฉานะคะ พี่ขยันขนาดนี้ ใครได้แต่งงานด้วย
คงสบายแน่ ๆ เลย..”
“ใครจะมาสนใจคนหาเช้ากินค่ำอย่างพี่กันล่ะ....”
“พี่ยังไม่มีแฟนเหรอคะ”
“ยังหรอก..แล้วพิมพ์หล่ะ มีแฟนหรือยัง"
“ตอนนี้ ยังค่ะ..”
“จริงเหร่อ!!!.. ไม่น่าเชื่อ” เขาลากเสียงยาว
“แหม!!... ผิดมากหรือไงคะ ที่พิมพ์ยังโสด” หญิงสาวแกล้งต่อว่า
“สงสัยจะช่างเลือกสินะ” เขากระตุกยิ้มก่อนจะแซวเธอ
“ไม่หรอกค่ะ แต่ว่าพิมพ์ไม่อยากผิดหวังเหมือนเมื่อห้าปีก่อน” หล่อนแกล้งพูดขึ้น เพราะช่วงที่พิมพ์นารินกำลังเรียนใกล้จบ ศุภกรณ์ก็หายจากชีวิตเธอไป ตอนนั้นศุภกรณ์เป็นรุ่นพี่เธอที่มหาลัย
“ทำไมถึงพูดอย่างนั้นละครับ"
“พี่ก็น่าจะรู้ตัวดีนี่คะ แต่ช่างเถอะ เรื่องมันก็นานมาแล้ว”
“ใครกันนะ...ช่างใจร้ายจัง” คนพูดที่รู้ตัวแล้วแต่ก็แกล้งตีมึน
“จะให้บอกชื่อมั้ยคะ” การสนทนาของทั้งคู่ทำให้ระยะทางดูจะสั้นลงไปได้ถนัดตา