#12

1532 คำ
วิลที่แสร้งทำเป็นหลับเริ่มมุ่นคิ้ว เมื่อคนในอ้อมแขนเอาแต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า...จะอะไรกันนักหนามันก็ของเคยๆกันแล้ว “ถ้าไม่นอนอยากจะได้อีกสักยกสองยกมั้ยละ”  !!! ธมนเบิกตากว้างกลั้นหายใจด้วยความตกใจ เพราะเธอคิดว่าเขาหลับไปแล้ว แต่ไหงกลายเป็นว่าเสียงของเขาช่างชัดถ้อยชัดคำแม้เขาจะไม่ลืมตาก็ตาม “คุณมันวิปริต” พรึ่บ! วิลลืมตาและขยับยันตัวขึ้น หันมาจ้องตากลมที่พร้อมจะมีเรื่องกับเขา “ก็เธอมันน่าไม่อาย...นี่แสดงว่าไม่ละอายต่อการกระทำของตัวเองเลยสินะ...ที่ทั้งฉุดฉันไว้ยั่วยวนสารพัด...อ๋อ...ที่แท้ก็เป็นคนแบบนี้เองสินะ...เอาเถอะ! ฉันพลาดไปแล้วนิ! หลงกลเธอไปแล้ว” ธมนอ้าปากค้างกระพริบตาปริบๆ เมื่อกี้หูเธอไม่ได้เสียไปใช่มั้ย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเธออย่างงั้น เหรอ  “คุณ!!!…คุณมัน” วิลเลิกคิ้วมองกลับอย่างรอคอย “ได้! ฉันผิดเอง...อื้ม!” พรึ่บ! “นี่ปล่อยฉันนะ” “คงไม่ได้” วิลรั้งเธอไว้ตอบกลับหน้าตาเฉย “อะไรของคุณเนี่ย! ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ” วิลยกขาพาดตัวเธอกักขังเธอไว้ด้วยร่างกายเขา “ฉันไม่ได้ป้องกัน” “อะไรนะ!!!!” ธมนแผดเสียงดังมากขึ้น เรื่องช็อค! แบบนี้ทำเธอลืมอาการเจ็บป่วยไปเลย “ปล่อยฉันนะ!” ธมนดิ้นรนมากขึ้นและร้องเสียงดังจนวิลต้องนิ่วหน้า “โอ้ย!!!…จะแหกปากเรียกปลาในทะเลหรือไง...หุบปากสักที” วิลไม่พูดเปล่ายกมือขึ้นมาปิดปากเธอไว้แน่น ธมนขัดขืนแต่ก็ถูกเขาล็อคมือล็อคตัวไว้ จนขยับไม่ได้ เธอทำได้เพียงปล่อยเสียงอู้อี้ และถลึงตาใส่เขาอย่างจะฆ่าเขาด้วยดวงตาทั้งสอง ธมนจำต้องหยุดและนอนนิ่งๆ เพราะดื้อดึงไปก็ไม่มีทางชนะ กลับกรุงเทพได้เมื่อไหร่ เธอจะขอทำบุญล้างซวยเจ็ดวัดเจ็ดวาแถมเจ็ดวันเลยอีกด้วย  วิลที่เห็นว่าเธอเริ่มสงบแล้วจึงยอมปล่อยมือจากปากเธอ “คุณปล่อยฉันไปได้มั้ย” “ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นเป็นครั้งที่สอง” “แล้วทำไมคุณจะทำไม่ได้” วิลยิ้มเผยฟันขาว ธมนอดไม่ได้ที่จะต้องแอบชมว่าจริงๆ เขาก็น่ามองมากยามที่ยิ้มแบบนี้ เขาดูอ่อนโยนขึ้นมาทันที แม้จะเป็นการยิ้มเยาะเย้ยเธออยู่ก็ตาม  “ฉันไม่มีนิสัยตอบคำถาม ตั้งคำถามวกวนไปวกวนมาหรอกนะ” ธมน กลอกตาอย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เขาแท้ๆ ที่เป็นคนเริ่มก่อน “คุณต้องปล่อยให้ฉันไปจัดการตัวเองให้เร็วที่สุด...มันมีไม่ใช่เหรอ ยานะยาฉุกเฉินฉันต้องการมัน มันยังมีเวลา” “ฉันจะรู้ได้ไงว่าเธอจะทำอย่างที่ปากว่า” “งั้นเราก็ไปร้านยาด้วยกัน” “ธุระไม่ใช่” ธมนเม้มปากกัดฟันอย่างอดทน เธอเสียเปรียบเขาอยู่ หรือจริงๆ แล้วเขารู้ว่าเธอเป็นใคร...ไม่ไม่ไม่! เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะเธอเองต่างหากที่เป็นฝ่ายบุกรุกพื้นที่เขาก่อน “โน้นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ แล้วคุณต้องการอะไร” เสียงบ่งบอกว่ารำคาญมากจนมากที่สุด แม้น้ำเสียงจะฟังไม่รื่นหูแต่ประโยคนั้นกลับทำให้คนฟังเงียบไปทันที...นั่นสิ! นี่เขาทำอะไรลงไป เขาต้องการอะไรกันแน่ ตอนแรกก็กะว่าค่อยสืบว่าเธอเป็นใครมาจากไหน เพราะเขาเก็บบัตรประชาชนเธอไว้แล้ว แต่ พอตอนนั้นเห็นเธอนอนไม่ได้สติอยู่ในรถมันก็...อดใจกับเธอไว้ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ความสวยก็ธรรมดา รูปร่างแม้จะดูดีได้สัดได้ส่วน แต่ก็ไม่ถึงน้ำลายหกติดจะผอมสักหน่อย ในชีวิตไม่คิดว่าตัวเองจะใช้วิธีนี้...แถ “ถ้าเธอเกิดท้องลูกของฉันแล้วเอามาแบล็กเมล์ ใครจะมาการันตีว่ามันจะไม่เกิดขึ้น เดี๋ยวนี้ใครๆ เขาก็ทำกันแบบนี้” ธมนอ้าปากค้าง ลืมหายใจ สรุปเธอคือนางร้าย ส่วนเขาคือพระเอกที่แสนดี สติ...สติ...สติ ธมนนิ่งและท่องคาถาในใจ  “ฉันว่าไม่มีทางหรอก...เพราะอีกสองวันก็จะถึงรอบเดือนของฉันและใครๆ ที่ว่าของคุณมันใครเหรอช่วยเอ่ยนามมาสักคนสิ” วิลเลิกคิ้ว “เถียงคำไม่ตกฟาก...ก็ได้! ถ้างั้นฉันจะจับตาจับตัวเธอไว้สองวัน เมื่อเป็นไปอย่างที่เธอบอก เธอก็ไปได้” ธมนหลับตาและทำปากขมุบขมิบ จนวิลต้องเอ่ยถามเมื่อมองอยู่นาน เธอก็ยังไม่หยุดขมุบขมิบปาก หรือแม่นี่กำลังด่าเขาอยู่ นานขนาดนี้มีอาชีพเป็นแม่ค้าหรือไง “นี่ด่าฉันอยู่เหรอ” “ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ...กลัวบาปจะติดตัว และจะต้องไปจองเวรจองกรรมกันต่อ เมื่อกี้ฉันแผ่เมตตาให้คุณล้วนๆ เพียงคนเดียว เป็นไงคะรู้สึกสดชื่นขึ้นมั้ยคะ”  กร่อดดดด วิลขบกรามแน่นทันที กรี๊ดดดดด และเสียงกรีดร้องของธมนก็ดังลั่นจนห้องนอนแทบพัง เมื่อวิลไม่หลับไม่นอนแล้ว เธอป่วยเขาก็ไม่สนเถียงได้ขนาดนี้เรี่ยวแรงก็คงมีเต็มเปี่ยม เพราะฉะนั้นเขาก็จะปฎิบัติจัดการคนปากดีแรงเหลือให้ไม่ต้องมีแรงมาแผ่เมตตาอีกเลยตลอดทั้งคืน กว่าธมนจะได้หยุดพักฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีในเช้าวันรุ่งขึ้น แสงยามเช้าเป็นระฆังสิ้นสุดเกมส์สวาท วิลรู้สึกตัวในตอนสาย เมื่อมองคนข้างกายที่ยังหลับสนิท เขาก็ได้แต่ยิ้ม จุ๊บ จุมพิตแผ่วเบาที่ข้างแก้มใสทีหนึ่งก่อนที่จะลงจากเตียง และเดินหาย เข้าไปในห้องน้ำ ครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาก็ออกมาจากห้องน้ำคนบนเตียงก็ยังนอนอยู่ วิลจึงเดินออกจากห้องไป เพราะเสียงด้านนอกซึ่งเขาก็เดาได้ไม่ยากว่าเลย... “ในที่สุดแกก็มา” “ในที่สุดแกก็มา” เพื่อนรักกอดกันเมื่อได้เจอกัน คำพูดที่เหมือนกันสื่อความหมายที่ต่างก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี สำหรับวิลแล้วคือการมาปรากฎตัวของเอกรินทร์ที่นี่ แต่สำหรับเอกรินทร์แล้วนั่นคือวิลยอมเดินทางมาเมืองไทยในที่สุด หลังจากที่รู้จักกันมาเป็นสิบๆปีที่เอกรินทร์ชวนเขากลับมาเที่ยวตลอด แต่วิลก็บ่ายเบี่ยงทุกครั้ง “ฉันมีของติดไม้ติดมือมาฝากแกด้วยนะโว้ย” เอกรินทร์พูดอย่างเป็นนัย แต่วิลไม่เข้าใจ แต่เมื่อมองผ่านเพื่อนไปวิลถึงกลับกลอกตา มันก็ดีอยู่หรอกว่าหนุ่มโสดมาพักผ่อนก็ต้องมีสุราเคล้านารี แต่เขามีนารีอยู่แล้วนะสิ... “ไม่เอา” “เอ้า! ทำไมละนี่ฉันอุตส่าห์เสียเวลาไปคัดสรรด้วยตัวเองมาเพื่อแกเลยนะ” “แกก็รู้ว่าฉันไม่นิยมควบสอง” “เฮ้ย! อีกคนของฉัน” “ไม่ใช่! ฉันหมายความว่าของฉันนอนอยู่ข้างบนโน้น!” “เอ้ย! แกไปได้มาจากไหนว๊ะ แกพึ่งขึ้นมาจากเรือเมื่อคืนเองนะ” “ก็คนนั้นแหละ” “เฮ้ย!…” “แกหยุดตกใจสักที” วิลบอกอย่างหมดความอดทนในที่สุด และก่อนเดินกลับเข้าบ้าน เขาบอกให้เอกรินทร์ไปจัดการของติดไม้ติดมือเอาเอง “ทำแบบนี้น่าสงสารเด็กมันนะ” เอกรินทร์ร้องบอกสายตาเหล่ไปมองของดีที่เขาจ่ายมาไม่น้อย “งั้นแกก็เอาไปทั้งคู่” “เหนื่อยตายชัก” “เรื่องของแก...รำคาญ เตือนไว้ก่อนนะว่าฉันไม่เอา อย่าได้เข้ามายุ่งวุ่นวายกับฉันเด็ดขาด” เอกรินทร์มองตามแผ่นหลังเพื่อนด้วยแววตาฉงนสงสัยเป็นที่สุด เพราะไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้มาก่อน ผู้หญิงข้างบนเป็นยังไงกันนะ ชักอยากเห็นแล้ว อยากมากด้วย ผู้หญิงคนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ที่ทำให้เพื่อนปฎิเสธหญิงงามตรงหน้าได้  “ทำอะไรของแกว๊ะ” “ข้าวต้มกุ้ง” วิลตอบกลับแบบปกติ “เผื่อแกด้วย แล้วตกลงเป็นไง” “ของติดไม้ติอมือใช่มั้ยที่แกหมายถึง”  “เออ” เอกรินทร์ยิ้มแต่ก็ต้องหุบยิ้ม “ฉันไม่ได้เปลี่ยนใจ แค่อยากรู้ว่าข้าวต้มกุ้งมันจะหมดมั้ยเพราะนับพวกเธอไว้ด้วย” “แกรู้อยู่แล้วนี่หว่า” เอกรินทร์เซ็งกับคนที่รู้ทันเขา ทุกอย่างบนโลกใบนี้นอกจากพ่อและแม่แล้วก็คงจะเป็นเจ้าหมอเนี่ยแหละที่รู้จักเขาดียิ่งกว่าตัวเขารู้จักตัวเองเสียอีก ก็อย่างว่าแหละนะก็เรียกได้ว่าโตมาด้วยกันนี่น่า “เออ ว่าแต่เธอเป็นใครว๊ะ ฉันสนใจเรื่องราวคนที่นอนอยู่ตอนนี้ว๊ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม