จางเลี่ยงหวงใบหน้าร้อนผ่าวทุกครั้งที่ต้องขยับเข้าไปช่วยถอดเสื้อให้เขา แม้ว่าเขาจะถอดกางเกงเองและลงไปนั่งหันหลังอยู่ในอ่างไม้ แต่การเข้าใกล้ร่างกายของเขาก็ทำเอานางปั่นป่วนหัวใจจนบอกไม่ถูก นางเริ่มชินกลิ่นของ ชายหนุ่มทั้งยามก่อนอาบน้ำและหลังอาบน้ำ
ร่างกายของเขาสูงใหญ่กำยำล่ำสัน นางพยายามไม่หันไปมองเพราะเกรงว่าตนเองอาจจะเผลอจ้องจนเขาจับได้ แต่นางก็รู้สึกว่าตนเองเป็นห่วงเขานัก ตอนกลางคืนเขานอนไม่ค่อยสะดวก เขาจึงสั่งคนมาเลื่อนเตียงเล็กของนางให้ไปติดอยู่กับเตียงของเขาด้วยข้ออ้างที่ไม่ต่อต้านไม่ได้
“เตียงเจ้าควรอยู่ติดกับเตียงข้า ตกข้างคืนหากข้าต้องการความช่วยเหลือจะได้สะดวก”
จางเลี่ยงหวงได้แต่ทำตาปริบๆ นางพยายามประท้วงแล้วแต่เจ้าหมีป่าก็ไม่รับฟัง ทีแรกก็เหมือนนางต้องคอยดูแลห่มผ้าและจัดหมอนให้เขาตามที่เขาต้องการ ทว่าตอนใกล้รุ่งกลับกลายเป็นว่านางนอนอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าหมีป่าไปเสียทุกวัน ครั้นนางกำลังจะร้องโวยวายเขาก็ทำหน้าดุ และยกมือขึ้นปิดปากนางเอาไว้
“หากผู้อารักขาวิ่งเข้ามาเห็นว่าเจ้าบุกรุกเตียงข้า พวกเขาจะไม่มองเจ้าอย่างสมเพชหรอกหรือ?”
ใบหน้าของนางแดงก่ำพยายามสะบัดให้หลุดจากอ้อมกอดแข็งแกร่ง “ก็ได้! ข้าไม่ร้อง เจ้าก็ปล่อยข้าเสียที ยิ่งอยู่กับเจ้านานข้าก็ยิ่งเสียเปรียบ”
“ความจริงข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ เจ้าควรจะบอกว่าต้องการตอบแทนข้าด้วยร่างกายจึงจะถูกต้อง อันที่จริงคนทั่วไปกล่าวไว้เช่นนั้นนะ”
เขาทวงบุญคุณเมื่อครั้งเคยบุกไปช่วยนางคราหนึ่ง คราวนั้นเจ้าโจรถ่อยคิดจะข่มขืนนางแล้วเขาเข้าไปเห็นพอดี ชายหนุ่มบุกเข้าไปแทงคนผู้นั้นเลือดกระฉูดล้มลงต่อหน้านาง นางฟังว่าเขาทวงให้ตอบแทนด้วยร่างกายก็หน้าร้อนผ่าว รีบผลักเขาออกแล้วลุกขึ้นไปผลัดเสื้อผ้า ออกไปครัว ผ่านไปหลายวัน นางเริ่มหุงข้าวสุกและทำกับข้าวอย่างง่ายเป็นแล้ว
“เจ้าตั้งใจดูแลคุณชายน่ะดีแล้ว ต่อไปเจ้าคงได้เป็นอนุแน่ๆ คุณชายชอบเจ้าถึงเพียงนี้ ข้าเองก็พลอยสบายใจไปด้วย”
จางเลี่ยงหวงตาเหลือก “ผู้ใดจะอยากเป็นอนุของเขากัน?”
“เจ้าคิดจะเลิกเป็นสาวใช้อุ่นเตียงให้คุณชายแล้วแต่งงานออกไปอย่างนั้นหรือ? เชื่อข้าเถอะน่า คุณชายแท้จริงแล้วเป็นคนอ่อนโยนยิ่งนัก ข้าไม่เคยเห็นเขาใส่ใจหญิงใดมาก่อนเหมือนที่ทำกับเจ้า”
คุณหนูจากจวนเสนาบดีฝ่ายขวาหมดปัญญาจะอธิบายให้แม่นมเจียงเข้าใจ นางอุตส่าห์ปกปิดฐานะของตนเองเพราะหวังว่าวันหน้าออกจากจวนรองแม่ทัพไปแล้ว เรื่องนี้จะเป็นเพียงแค่ฝันไปเท่านั้น
‘ไม่รู้ว่าป่านนี้จวิ้นอ๋องจะเดือดเนื้อร้อนใจเพียงใด? ไหนจะพี่ใหญ่อีก ป่านนี้คงตามหาข้าไปทั่วเมืองแล้วกระมัง?’
จางเลี่ยงหรงผู้เป็นพี่ชายของจางเลี่ยงหวงกลุ้มใจเป็นกำลังกับการ ตามหาน้องสาวที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้ว่าจวิ้นอ๋องจะทรงให้ทหารในกองทัพช่วยกันออกตามหาแต่ก็ยังไม่พบ บังเอิญว่าการศึกชายแดนระหว่างแคว้นเว่ยกับแคว้นหมิงกำลังเข้มข้นทำให้พวกเขาต้องยุติการตามหานางชั่วคราว คุณชายใหญ่จางที่เป็นขุนนางกรมกลาโหมจำต้องหันไปติดตามสถานการณ์ชายแดนอย่างใกล้ชิด
จินวั่งซู่วางแผนไปหารองแม่ทัพฉินอี๋นั่วสหายร่วมรบของมู่หลี่เฉียงผู้มีภรรยาดุร้ายอย่างยิ่ง แล้วพาคนผู้นั้นไปชวนรองแม่ทัพมู่ดื่มสุรา
“ป่าไผ่ของท่านดูน่าสนใจยิ่งนัก!”
“นี่เป็นที่ประลองกำลังของข้าในช่วงฝึกวิทยายุทธ์ ข้าจึงปลูกไว้”
“ดูท่าท่านคงมีโรงเก็บศาสตราวุธดีๆ กระมัง?”
มู่หลี่เฉียงดวงตาไหววูบ เขาคิดหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของจินวั่งซู่ให้หลุดไปจากป่าไผ่เสียที ทว่าคุณชายจินผู้มีฉายาจอมยุแยงแห่งเมืองหลวงกลับมองเห็นพิรุธนั้น เขาจับจ้องไปยังป่าไผ่อย่างพินิจพิเคราะห์ จินวั่งซูสงสัยว่ารอง แม่ทัพร่างใหญ่ผู้นี้อาจจะเป็นผู้เอาสาวงามมาซ่อนไว้
กว่าจะหาวิธีให้จินวั่งซูกับฉินอี๋นั่วออกจากจวนของเขาไปได้ มู่หลี่เฉียงต้องยอมดื่มสุราไปเสียหมดไหใหญ่ ครั้นคุณชายจินเริ่มเมาและฉินอี๋นั่วเริ่มร่ำร้องอยากจะกลับไปหาภรรยา คนทั้งสองจึงได้ลากลับ รองแม่ทัพหนุ่มร่างใหญ่เมาสุราเดินสะเปะสะปะกลับไปยังเรือนท้ายจวน เมื่อลุกเข้าห้องนอนได้เขาก็หงายผลึงลงบนบนเตียง ปากก็ร้องเรียกจางเลี่ยงหวงสองสามครั้ง นางที่นอนอยู่เตียงเล็กงัวเงียตื่นขึ้นมายืนเท้าสะเอวมองเจ้าหมีป่าที่นอนโวยวายด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย คุณหนูจางเดินเข้าไปใกล้ก้มหน้าลงมองใบหน้าที่แดงจนแทบคล้ำด้วยฤทธิ์สุรา
“หวงเอ๋อร์! หวงเอ๋อร์!”
มือไม้ของเขาสะเปะสะปะควานหาตัวนาง หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าแล้วหันไปผสมน้ำอุ่นใส่อ่างไม้เล็ก คลายเสื้อให้เขาแล้วเช็ดหน้าเช็ดอก เช็ดมือ ถอดรองเท้าให้ กว่านางจะลากร่างใหญ่ขึ้นเตียงนอนได้ทั้งตัวก็เหงื่อตก
ทว่าในยามเหม่า (05.00-06.59 น.) ของวันต่อมา นางที่คิดว่าตนเองนอนอยู่ในเตียงเล็กกลับไปอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าหมีป่าตัวใหญ่เช่นเดิม ลมหายใจที่มีกลิ่นสุราปนอยู่พ่นออกมาจนนางเหม็น หญิงสาวผงะมองเห็นคางบึกบึนอยู่ใกล้ๆ นางจึงทุบหน้าอกแข็งแกร่งของเขา
พลั่ก! พลั่ก!
“เจ้าหมีบ้า! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”
ชายหนุ่มที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยเปิดแผงอกให้นางซบอย่างเป็นสุขมาทั้งคืน ลืมตาขึ้นมองแล้วกลับพึมพำตอบ “เจ้ากับข้าก็นอนกันเช่นนี้ทุกวัน เจ้ายังไม่ชินอีกหรือ?”
“ชายหญิงไม่ควรชิดใกล้ แต่นี่...นี่เจ้านอนกอดข้าทุกวันเลยนะ”
“ทำไม? เจ้ามาอยู่ในห้องข้า ข้าก็ต้องนอนกอดเจ้าได้สิ!”
“ข้าไม่ได้อยากนอนในห้องนี้สักหน่อย เป็นเจ้าต่างหากที่บังคับข้า”
“เจ้าข่มเหงรังแกข้าแล้ว อย่าได้คิดจะกลับไปเป็นพระชายาเอกของจวิ้นอ๋องอีกเลย ไม่มีทาง!”
“เจ้าคิดจะขังข้าไว้ที่นี่นานแค่ไหน?”
“นานจนกว่าข้าจะพอใจ อีกอย่างเป็นเจ้าที่ต้องรับผิดชอบในตัวข้า คุณหนูจาง เจ้าเห็นข้าเปลือยกายจนหมดแล้ว คิดจะหนีไปเฉยๆ เช่นนั้นหรือ?”
จางเลี่ยงหวงแทบจะกรีดร้อง นางไม่กล้าเถียงเขาเรื่องนี้เพราะตนเองก็ถูกวางยาปลุกกำหนัดจนทึ้งเสื้อผ้าทิ้งยั่วยวนเขาจนสุดกำลัง หากว่าเป็นบุรุษอื่นป่านนี้นางคงไม่เหลือพรหมจรรย์อยู่แล้ว แต่มู่หลี่เฉียงใช้ความอดทนมัดมือ มัดเท้านางเอาไว้ ซ้ำยังอุ้มนางไปแช่น้ำจนอาการคลายลง ยามนี้เขารู้สึกพอใจที่มีนางอยู่ในห้องนอนทั้งยังได้กอดนางเอาไว้ทุกค่ำคืน
“จะอย่างไรก็เถอะ ข้าเป็นสตรี เจ้าเป็นบุรุษ พวกเราไม่ควรจะนอนร่วมเตียงกันเช่นนี้”
********************************