จวบจนกระทั่งแสงสีทองของดวงอาทิตย์เริ่มเห็นรำไรจากเส้นขอบฟ้า หากแต่ความมืดมิดยังไม่เลือนหาย ทว่าสิ่งที่เหนือความคาดหมายนั้นก็คือ บริเวณแผลฉกรรจ์อันเกิดจากถูกลูกธนูสังหารบัดนี้เกิดเหตุไม่คาดฝัน บริเวณบาดแผลทั้งสามแห่งปรากฏแสงเรืองรองลุกวาบลามเลียไปทั่วบาดแผลดังกล่าว
หินสามภพของจอมมารที่กระเด็นหลุดลอยมาอยู่ในร่างของอู๋ฮ่าวเทียนได้ช่วยชีวิตของนางเอาไว้อีกครั้ง หลังจากที่เกราะคุ้มภัยของจอมมารได้สำแดงอิทธิ์ฤทธิ์ปกป้องครอบร่างของนางเอาไว้จนรอดพ้นจากอำนาจทำลายล้างของพลังเวทย์ซึ่งมาจากหินสามภพ และครั้งนี้หินสามภพที่อยู่ในกายสตรีมนุษย์เริ่มช่วยชีวิตของนาง
บาดแผลฉกรรจ์ที่ปรากฏอยู่บนร่างค่อยๆ สมานเข้าหากันก่อนจะเลือนหายไปในที่สุด พร้อมลูกธนูที่ปักคาอยู่บนร่างค่อยๆ สูญสลายไปเอง เพียงชั่วพริบตาร่างแน่งน้อยก็ปราศจากบาดแผลฉกรรจ์พร้อมสติหวนกลับคืนและเริ่มเคลื่อนไหวไปมาอย่างช้าๆ เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆ เปิดขึ้น
โอะ...โอ๊ยย!!! เสียงร้องดังออกมาเบาๆ ด้วยเพราะรู้สึกเจ็บบริเวณท้ายทอย ด้วยเพราะรัชทายาทคนงามล้มฟาดกระแทกลงไปกับพระศพของพระบิดาและพระมารดาจนกระทบเข้ากับพระเศียรของพระศพอย่างแรง
รัชทายาทคนงามค่อยๆ ยกพระหัตถ์กุมหน้าผากมนสวยของตัวเอง ในขณะที่พระหัตถ์อีกข้างไปสัมผัสถูกพระศพที่อยู่เบื้องล่างด้วยความบังเอิญพลางหันกลับไปทอดพระเนตรสิ่งที่อยู่ใต้ร่างซึ่งนอนทาบทับอยู่ในขณะนั้นก่อนจะเบิกตากว้างครั้นทอดพระเนตรพระศพของพระบิดาและพระมารดารองรับร่างของตนเอาไว้
พรืดดด!!! ร่างอรชรรีบลุกพรวดพราดก่อนจะทรุดฮวบลงนั่งกับพื้นทันที ครั้นทอดพระเนตรพระศพของอ๋องไท่หยวนและฮองเฮาซือฉีอยู่ตรงพระพักตร์ พระหัตถ์ยกขึ้นปิดพระโอษฐ์ทันใดก่อนจะแผดเสียงร้องดังก้องออกมา
“เสด็จพ่อ! เสด็จแม่!”เสียงเพรียกหาผู้ให้กำเนิดดังก้องออกมาทันที
ติดตามมาด้วยเสียงร่ำไห้ที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างยิ่งยวดสองแขนอ้าออกกว้างโผเข้ากอดพระศพของพระบิดาและพระมารดา สุรเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นดังออกมาอย่างไม่ขาดสายอยู่เป็นเวลานาน ประหนึ่งทารกน้อยไร้สิ้นพ่อและแม่คอยปกป้องดูแล
“ลูกสัญญาว่าจะต้องตัดหัวคนผู้นั้นมาเซ่นสังเวยเสด็จพ่อเสด็จแม่ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใดลูกจะบุกไปบั่นคอถึงที่ให้ตายตกไปตามกัน!!!”รับสั่งเต็มไปด้วยแรงแค้นฝังแน่น
รัชทายาทคนงามยกพระหัตถ์ของพระบิดาและพระมารดาประทับจุมพิตลงบนหลังพระหัตถ์พร้อมสูดกลิ่นกายจากทั้งสองพระองค์เพื่อระลึกถึงความอบอุ่นเป็นครั้งสุดท้าย
ในขณะเดียวกันแสงดวงอาทิตย์เริ่มปรากฏขึ้นบนขอบฟ้าและลามเลียไปทั่วผืนปฐพีรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่มาเยือน แสงจากดวงอาทิตย์เริ่มสาดแสงเข้าสู่สนามรบที่เต็มไปด้วยซากศพทหารนับหลายหมื่น ร่างไร้วิญญาณที่นอนตายเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณค่อยๆ สลายไปโดยพลันทันทีที่ซากศพนั้นถูกแสงจากดวงตะวัน
รวมไปถึงพระศพของอ๋องไท่หยวนและฮองเฮาซือฉีก็ไม่แตกต่างกัน พระศพค่อยๆ สูญสลายหายไปต่อหน้าต่อตารัชทายาทของพระองค์ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากนั่งมองพระศพของพระบิดาและพระมารดาสลายกลายเป็นจุลด้วยความตื่นตระหนกอย่างยิ่งยวดครั้นเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ด้วยหวังนำพระศพของทั้งสองพระองค์นำกลับไปฝังรวมภายในสุสานราชวงศ์
“มะ..ไม่...ไม่จริง! เสด็จพ่อ! เสด็จแม่!”รัชทายาทคนงามแผดเสียงร้องเรียกออกมาจนสุดเสียง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวังนั่งทอดอาลัยตายยากอยู่เช่นนั้นไม่ยอมขยับกายแต่อย่างใด
แปะ! แปะ! หยาดน้ำตาร่วงรินตกกระทบลงหลังพระหัตถ์ ร่างแน่งน้อยของรัชทายาทอู๋ฮ่าวเทียนไม่รู้ว่านั่งอยู่ที่เดิมผ่านไปนานเพียงใด ครั้นทอดพระเนตรเงาของพระองค์ที่ทอดยาวอยู่ในขณะนั้นบ่งบอกให้รู้ว่า เวลาล่วงเลยเข้าสู่ยามซื่อแล้ว พระสติเริ่มหวนกลับคืนมาด้วยสังเกตพบว่า บนร่างไร้สิ้นธนูสังหารที่ต้าฮั่นกระหน่ำยิงจนได้รับบาดเจ็บก่อนจะสิ้นสติ
“ข้าจำได้ว่าร่างถูกลูกธนูยิงถึงสามดอกจากพวกต้าฮั่น ความรู้สึกในขณะนั้นเจ็บปวดเจียนตายเป็นยิ่งนักแล้วทำไม...”รับสั่งพร้อมยกพระหัตถ์สัมผัสไปทั่ว
ความรู้สึกเจ็บปวดดั่งเช่นคราแรกเมื่อครั้งถูกยิงไม่เหลือสิ้น ลูกธนูที่ปักอยู่บนร่างก็ไม่ปรากฏ มีเพียงคราบโลหิตเปรอะเปื้อนเต็มชุดเกราะตามบริเวณที่ถูกลูกธนูบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าได้รับบาดเจ็บ ครั้นล้วงพระหัตถ์เข้าไปคลำหาบาดแผลบริเวณหน้าท้อง กลางอกและใต้ราวนมคลำหาจนทั่วก็ไม่ปรากฏบาดแผลอยู่บนร่างแม้แต่น้อย
“เป็นไปได้หรือนี่! เหตุใดภายในกายข้าจึงไม่มีบาดแผลเหล่านั้นหลงเหลืออยู่เลย ทำราวกับว่าไม่เคยถูกพวกต้าฮั่นใช้ธนูยิงจนได้รับบาดเจ็บทั้งๆ ที่ข้าจำได้อย่างแม่นยำ”
รับสั่งพึมพำอย่างแปลกพระทัยพลางครุ่นคิดตาม ก่อนจะหันพระพักตร์กลับไปทอดพระเนตรบริเวณที่พระศพของพระบิดาและพระมารดานอนเคียงคู่กันอยู่
“หรือว่าเป็นเพราะเสด็จพ่อเสด็จแม่คอยปกป้องจึงทำให้เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์เช่นนี้ขึ้น ตอนที่ยิงจนล้มสิ้นสติทั้งสองพระองค์ยังเอาร่างรองรับข้าเอาไว้อยู่เช่นนั้นจนกระทั่งได้สติกลับคืน”รับสั่งเพียงเท่านั้นหยาดน้ำตาเริ่มเอ่อล้นคลอเบ้าขึ้นมาอีกก่อนจะรีบสลัดความโศกเศร้าเสียพระทัยออกไปอย่างรวดเร็ว
พระวรกายงามระหงในชุดเกราะผู้บัญชาการทัพ ค่อยๆ ประสานมือเข้าหากันพร้อมก้มลงโขกพระเศียรลงกับพื้นดินเพื่อถวายคำนับดวงพระวิญญาณของพระบิดาและพระมารดา
“ในเมื่อปรโลกยังไม่ต้อนรับดวงวิญญาณของอู๋ฮ่าวเทียนผู้นี้ จึงทำให้รอดตายมาได้ถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน ข้าน้อยนามว่าอู๋ฮ่าวเทียนสูญเสียเสด็จพ่อเสด็จแม่ในการทำสงครามครั้งนี้ แต่จะไม่ยอมเสียแคว้นไท่หยวนให้แก่ต้าฮั่นโดยเด็ดขาด ข้าจะต้องตัดหัวบุคคลไร้นามผู้นั้นมาเซ่นสังเวยดวงพระวิญญาณเสด็จพ่อเสด็จแม่ให้จงได้! และปิดฉากสงครามกับต้าฮั่นด้วยหัวของหลิวจินซานเพื่อเซ่นสังเวยให้เหล่าทหารไท่หยวนที่ตายในสงครามครั้งนี้!!!”รับสั่งประกาศสุรเสียงกร้าว
ตุบ!ตุบ!ตุบ! พระเศียรโขกกับพื้นดินเพื่อคำนับดวงวิญญาณทหารกล้าของพระองค์
ความแค้นลุกโชนมุ่งหวังหัวของบุรุษอาภรณ์ดำเพื่อเซ่นสังเวยผู้ให้กำเนิด ตั้งพระทัยหมายมั่นสิ่งใดไว้จะทรงทำให้ได้อย่างเด็ดเดี่ยว ชีวิตของบรรดาทหารนับหลายหมื่นต้องมาพบจุดจบภายในค่ำคืนเดียว
สิ่งใดกันเล่าจึงมีอำนาจมหาศาลผลาญคร่าชีวิตของผู้คนดั่งผักปลาเช่นนั้น รัชทายาทจากไท่หยวนเป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กๆ มีหรือจะสามารถต่อกรกับราชาปีศาจผู้เป็นประมุขของเหล่าปีศาจทั้งปวงและดูท่ายังไม่ทันลงมือความพ่ายแพ้ก็นำหน้ามาก่อนชัยชนะ
ทว่าหามีผู้ใดล่วงรู้ว่าดินแดนมนุษย์ในเวลานี้ ราชาปีศาจได้เสด็จลงมาเยือนด้วยเหตุการณ์ที่นำพาไปอย่างไม่คาดฝันและเป็นเหตุทำให้พระองค์ต้องผูกพันธ์อยู่ในดินแดนมนุษย์แห่งนี้จนผูกวาสนาให้แก่ตนเองอย่างไม่คาดคิด
ชาติภพนี้ของนางเต็มไปด้วยความแค้นที่มีต่อราชาปีศาจ หากแต่สตรีมนุษย์ผู้นี้กลับทำให้จอมมารเฟิงหยางต้องติดตามนางไปทุกหนทุกแห่งและทุกชาติภพกันเลยทีเดียว