ตอนที่ 9 ปะทะ

2940 คำ
เวลาล่วงเลยผ่านไปนานเท่าใดก็ไม่อาจรู้ได้ กลุ่มควันขาวและเพลิงอัคคีที่หินสามภพของจอมมาร เผาทำลายล้างจนวอดวายมิเหลือสิ้นส่งกลิ่นของชิ้นเนื้อที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมไปทั่วบริเวณ จวบจนกระทั่งเปลือกพระเนตรที่ปิดสนิทค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมดวงตาสีเลือดลุกโชนของจอมมารฉายวาววับเพียงชั่วครู่ก่อนจะเลือนหายไปโดยพลัน บัดนี้จอมมารเฟิงหยางได้พระสติกลับคืนมาแล้ว พระเนตรจับนิ่งอยู่แต่แผ่นฟ้าเบื้องบนในยามราตรีซึ่งเต็มไปด้วยดวงดาวมากมายนับหมื่นล้านดวงประดับอยู่บนฟากฟ้านภากว้าง พรืดดด!!! พระวรกายใหญ่รีบลุกพรวดพราดขึ้นยืนเต็มความสูงจากพื้นดินทันที พลางทอดพระเนตรไปทั่วบริเวณก่อนจะกระทบเข้ากับร่างไร้วิญญาณของอ๋องไท่หยวนและฮองเฮาซือฉี สิ้นพระชนม์อยู่เคียงข้างกัน ร่างอันไร้วิญญาณของจ้าวชีวิตทั้งสองจากแคว้นไท่หยวน ตลอดจนถึงรัชทายาทจากต้าฮั่นเต็มไปด้วยไอปีศาจของหินสามภพแผ่ปกคลุมไปโดยรอบซึ่งเป็นหลุมขนาดมหึมา และนั้นทำให้พระองค์ล่วงรู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากอำนาจทำลายล้างของหินสามภพซึ่งพระองค์ผู้เป็นเจ้าของ ทว่าในยามนี้ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยไอหมอกปีศาจซึ่งเกิดจากอำนาจทำลายล้างของหินสามภพ ร่างไร้วิญญาณของมนุษย์ที่สิ้นชีพนับหลายหมื่นคนรวมไปถึงถูกเผาแบบย่างสด ล้วนเต็มไปด้วยไอปีศาจจากหินสามภพด้วยกันทั้งหมด จอมมารจึงไม่อาจแยกแยะออกได้ว่าแท้จริงแล้ว หินสามภพของพระองค์อีกสามส่วนอยู่ในร่างของรัชทายาทหลิวจินซานนอนหมดสติอยู่ไม่ไกลจากพระองค์ “หินสามภพของข้าทำลายชีวิตเหล่ามนุษย์ไปมากมายยิ่งนัก ไอปีศาจแผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง ชีวิตบริสุทธิ์ของผู้คนล้มตายไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ต่างต้องพากันเดินทางไปยังดินแดนปีศาจทั้งสิ้น ไม่ได้การแล้วต้องนำดวงจิตของมนุษย์เหล่านั้นไปยังแดนปรโลก”รับสั่งพร้อมร่ายเวทย์เพื่อเรียกดวงจิตของผู้คนที่ล้มตายนำส่งไปยังเจ้าโลกันตร์ ทันทีที่พระองค์เริ่มร่ายเวทย์ปีศาจ อาการบาดเจ็บสาหัสปะทุขึ้นมาทันที พลังเวทย์ของจอมมารไม่เหลือสิ้นด้วยถูกนำไปสร้างตาข่ายสวรรค์จนหมด พรืดดดด!!! พระโลหิตพุ่งออกจากพระโอษฐ์ อ๊อก! จอมมารกระอักพระโลหิตออกมา พระวรกายถึงกับซวนเซไปมาทันทีแทบจะพยุงพระวรกายเอาไว้ไม่อยู่ “พลังเวทย์ของข้าแทบสูญสิ้นจนหมด ที่ใช้ได้ก็เพียงพื้นๆ ทั่วไป ที่เคยมีเหลือสามส่วนก็นำมาสร้างตาข่ายสวรรค์ดักจับเจ้าหงส์หนุ่มหัวขโมยผู้นั้น เช่นนี้แล้วข้าจะส่งดวงจิตของเหล่ามนุษย์นับหลายหมื่นดวงไปให้เจ้าโลกันตร์ได้อย่างไร”รับสั่งสุรเสียงพึมพำพร้อมนึกถึงเหวินกวางพระสหายสนิทเพียงหนึ่งเดียวของพระองค์ เฮ้อ!!!! เสียงถอนหายใจดังออกมาทันใดครั้นจอมมารนึกขึ้นได้ว่าในยามนี้ ญาณจิตของพระองค์อ่อนแรงยิ่งนักไม่สามารถส่งกระแสจิตไปถึงยังดินแดนปีศาจได้ “ข้าต้องเร่งหาหินสามภพให้ได้หัวใจของข้าซุกซ่อนอยู่ภายในนั้นมีเวลาเพียงแค่สามวันแต่เท่ากับสามปีของแดนมนุษย์จะหาได้ทันเวลาหรือนี่ อีกทั้งพลังเวทย์ก็แทบไม่มีเหลือจะติดตามหาร่องรอยจากที่ไหนกันนะ หลุมปีศาจนี้ก็เกิดจากอำนาจทำลายล้างของหินสามภพ แล้วนี่ล่องลอยหายไปไหนก็ไม่รู้ เจ้าหงส์หัวขโมยผู้นั้นก็หายไปด้วยเช่นกัน”จอมมารยืนบ่นรำพึงพลางเฝ้าครุ่นคิดถึงวิธีการที่จะติดตามค้นหาหินสามภพกลับคืน ทันใดนั้นเองเสียงของฝีเท้าม้าจำนวนมากกำลังวิ่งตรงมายังบริเวณที่เคยเป็นสนามรบอันดุเดือดของทั้งสองแคว้นใหญ่ ท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมารยังคงยืนอยู่ภายในก้นหลุมดังกล่าว แค่ก! แค่ก! แค่ก! เสียงไอโครกครากติดต่อกันดังออกมาจากร่างของรัชทายาทต้าฮั่น และเสียงดังกล่าวทำให้จอมมารหันกลับไปทอดพระเนตรทันที “มนุษย์ผู้นี้ยังไม่ตายเป็นไปได้หรือนี่!”รับสั่งพร้อมเสด็จตรงเข้าไปหารัชทายาทของต้าฮั่น พร้อมเอื้อมพระหัตถ์หมายจับร่างนั้นที่กำลังนอนตะแคงข้างอยู่ในขณะนั้นให้หงายขึ้นมาทันใด พรึบ!! ร่างของรัชทายาทจากต้าฮั่นถูกจับพลิกขึ้นมา พร้อมลมหายใจยังคงหลงเหลืออยู่หากแต่รวยรินยิ่งนักสร้างความแปลกพระทัยให้แก่จอมมารอย่างยิ่งยวด หากแม้นทั่วทั้งบริเวณรวมไปถึงซากศพนับหมื่นที่นอนตายเกลื่อนกลาดเต็มไปด้วยไอปีศาจของหินสามภพแผ่ปกคลุมไปโดยรอบแล้ว ร่างตรงหน้าจะต้องเป็นที่สถิตของหินสามภพอย่างไม่ต้องสงสัย และกว่าที่ไอปีศาจจะเลือนหายไปจากกายก็ใช้เวลานานนับปีเลยทีเดียว “ไม่คาดคิดว่าจะมีมนุษย์สามารถรอดชีวิตจากอำนาจทำลายล้างของหินสามภพนี้ได้ คนผู้นี้จะต้องมีบางอย่างเป็นแน่จึงไม่ถูกหินสามภพปลิดชีพดั่งเช่นคนอื่นๆ ภายในกายมีไอปีศาจปกคลุมมากเกินกว่าที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะรับได้ไหว เห็นทีข้าต้องตามติดคนผู้นี้เสียแล้วบางทีสิ่งที่สงสัยอาจเป็นจริงก็ได้” จอมมารรับสั่งพร้อมเอื้อมพระหัตถ์หักปลายธนูทั้งสามดอกจนเหลือเพียงส่วนปลายเพียงน้อยนิดพลางหันกลับไปคว้าดาบยาวขององค์รัชทายาทที่ร่วงหล่นอยู่ในขณะนั้นมาถือเอาไว้ เตรียมจะนำขึ้นจากหลุมมหึมาดังกล่าว ฉับพลันเสียงกึกก้องดังแทรกขึ้นมาทันใด “เสด็จพ่อ! เสด็จแม่!!!!”เสียงตะโกนก้องร้องเรียกอยู่ทางปากหลุมเบื้องบนดังออกมาจากรัชทายาทหน้าสวยอู๋ฮ่าวเทียน ที่เพิ่งจะฟื้นได้สติกลับมาไม่นาน ก่อนจะรีบวิ่งตรงดิ่งหมายช่วยชีวิตพระบิดาและพระมารดา ทว่าทันทีที่เสด็จมาถึงกลับทอดพระเนตรหลุมขนาดมหึมา ชนิดที่ว่าใหญ่เทียบเท่าพระราชวังหลวงซางเป่ยของไท่หยวนเลยทีเดียวและแทบจะเข่าอ่อนครั้นพบสภาพของอ๋องไท่หยวนและฮองเฮาซือฉีเช่นนั้น “ลูกมาช่วยเสด็จพ่อเสด็จแม่แล้ว! ลูกมาแล้ว!!!”สิ้นเสียงรับสั่งรัชทายาทคนงามใช้วิชาตัวเบากระโดดลอยละลิ่วลงไปก้นหลุมดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ตุบ! ทันทีที่มาถึงรัชทายาทคนงามรีบถลาเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณของพระบิดาและพระมารดาของนางทันที ท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมารครั้นทอดพระเนตรเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น “เด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ได้มีไอปีศาจปกคลุมร่างเอาไว้เลย หากเข้าไปแตะต้องร่างที่ถูกอาบด้วยไอปีศาจย่อมไม่เป็นผลดีต่อมนุษย์แน่นอน พลังปราณของปีศาจและมนุษย์ย่อมแตกต่างกัน ถ้าหากถูกไอปีศาจเข้าปกคลุมจะแปรเปลี่ยนทำให้ดวงจิตและร่างกลายเป็นปีศาจชั้นต่ำและสิ้นชีพก่อนวัยอันควร”จอมมารรับสั่งพร้อมรีบวางร่างของรัชทายาทต้าฮั่นไว้กับพื้นดินตามเดิม ในขณะที่รัชทายาทของไท่หยวนรีบวิ่งอย่างสุดฝีเท้าเพื่อเข้าไปช่วยพระบิดาและพระมารดา ทว่ายังไม่ทันที่จะเสด็จเข้าไปถึงร่างไร้อันวิญญาณตรงหน้ากลับต้องหยุดชะงัก เมื่อร่างใหญ่โตของบุรุษอาภรณ์สีดำทะมึนก้าวเข้ามาขวางทางไม่ยอมให้เสด็จต่อไป “จงหยุดอยู่ตรงนั้นเจ้าหนุ่มน้อยหากยังไม่อยากตายก่อนวัยอันควร!”รับสั่งเตือนด้วยความหวังดี ทว่าถ้อยรับสั่งของพระองค์ก็ช่างส่อไปในทางข่มขู่เสียมากกว่าเตือนด้วยความหวังดี ประกอบกับพระพักตร์ถึงแม้จะงดงามหล่อเหลาดุจเทพสวรรค์ก็ตามที หากแต่ช่างดุดันและเย็นชาเสียยิ่งนัก เป็นเหตุให้อู๋ฮ่าวเทียนดวงตาลุกวาวโรจน์ขึ้นมาโดยพลันครั้นได้ยินเช่นนั้น นิ้วเรียวสวยยกขึ้นชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคืองอย่างยิ่งยวด “ไสหัวของเจ้าออกไป! ถ้าไม่อยากตาย...นี่ไม่ใช่เรื่องของเจ้าข้าจะช่วยเสด็จพ่อเสด็จแม่!!!”รัชทายาทคนงามรับสั่งตวาดกลับไป พระพักตร์หล่อเหลาถมึงทึงขึ้นมาโดยพลันครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น ประกอบกับทรงมีพระอารมณ์ร้อนและดุดัน ขี้โมโหแต่ดั้งเดิมอยู่ก่อนแล้วเป็นเหตุให้จอมมารมีโทสะขึ้นมาทันที “บิดาบอกว่าไม่ให้เข้าไป! ถอยไปซะพ่อและแม่ของเจ้าตายกันหมดแล้ว ถ้าไม่อยากตายตามไปด้วยก็จงเร้นกายของเจ้าออกไปให้ห่างจากตรงนี้! จงรีบไสหัวออกไปแล้วอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!!!”จอมมารใช้ถ้อยรับสั่งแทนตัวตนของพระองค์ดังกล่าวออกมาทันทีบ่งบอกว่าในยามนี้ทรงเริ่มมีโทสะขึ้นมาเสียแล้ว ในขณะที่รัชทายาทคนงามครั้นได้ยินอีกฝ่ายกล่าวออกมาเช่นนั้น ดวงตาคู่สวยพลันเบิกกว้างด้วยความตระหนกพระทัยระคนเสียพระทัยอย่างยิ่งยวดเมื่อล่วงรู้ว่าพระบิดาและพระมารดาสิ้นพระชนม์ลงเสียแล้ว “เสด็จพ่อ!เสด็จแม่!ลูกมาช้าไปหรือนี่!!!”รับสั่งเสียพระทัยเป็นที่สุด หยาดน้ำตาด้วยความเสียใจอย่างยิ่งยวดเอ่อล้นคลอเบ้า หากแต่เพียงครู่ดวงตาคู่สวยจากที่เต็มไปด้วยเสียพระทัยเมื่อครู่ที่ผ่านมาแปรเปลี่ยนไปโดยพลัน หยาดน้ำตาย้อนกลับเข้าไปในอกพร้อมแววตาเหี้ยมเกรียมปรากฏขึ้นบนดวงตาคู่งามพลางจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายเขม็งด้วยความแค้นแสนแค้นและชิงชังต้าฮั่นอย่างยิ่งยวด “ทัพต้าฮั่นช่างน่าละอายสิ้นดี! ลอบใช้วิธีโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนักคร่าชีวิตของผู้คนนับหลายหมื่น ใช้วิธีสังหารศัตรูจนมิเหลือสิ้นยังไม่พอ มิหนำซ้ำยังคร่าชีวิตทหารของตนให้ตายตกไปตามกันอีก จิตใจของพวกเจ้าช่างโฉดชั่วอำมหิตเลือดเย็นและต่ำทรามเป็นยิ่งนัก นี่นะหรือคือแผนของผู้พิชิตดินแดนไปทั่วหล้า สังหารตัวประกันเพื่อให้ข้ายอมสยบก้มหัวให้แก่พวกเจ้าอย่างนั้นเหรอ!!!”รัชทายาทหน้าสวยรับสั่งตวาดถามกลับไป” ในขณะที่จอมมารเฟิงหยางยืนฟังอีกฝ่ายทั้งก่นด่าและถามพระองค์กลับมาในคราเดียวกันเช่นนั้น แม้ก่อนหน้าจะไม่ล่วงรู้ว่าดินแดนมนุษย์บริเวณที่พระองค์ตกลงมานั้นเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ แต่เท่าที่ทอดพระเนตรสภาพที่เกิดขึ้นก็ทำให้จอมมารสามารถคาดเดาได้ขึ้นมาโดยไม่ต้องมีผู้ใดมาบอก แต่ด้วยนิสัยของพระองค์ที่ไม่เคยเสียเวลาอธิบายสิ่งใดให้ยืดยาว จะทรงรับสั่งในสิ่งที่ควรจะบอกและสำคัญเพียงเท่านั้น “เป็นเหตุสุดวิสัยบิดาไม่ได้ตั้งใจทำให้พ่อและแม่ของเจ้าตาย และไม่ว่าอย่างไรก็ตามเจ้าจะเอาศพออกไปหรือแม้แต่จะแตะต้องก็ไม่ได้ทั้งสิ้น รีบไสหัวของเจ้าออกไปจากที่นี่ในขณะที่ยังมีลมหายใจ”รับสั่งเตือนสุรเสียงเย็นยะเยียบ ทันที่ที่รัชทายาทคนงามได้ยินเช่นนั้น ดวงตากลมโตคู่สวยเบิกกว้างโดยพลัน “ที่แท้เจ้านี่เองเป็นคนสังหารเสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้า!..เจ้าคนถ่อย!!!”สิ้นสุระเสียงรับสั่งดาบยาวที่อยู่ในพระหัตถ์กระชับเข้าหากันจนแน่น ร่างระหงตรงปรี่พร้อมยกดาบคู่พระวรกายมุ่งสังหารบุรุษตรงหน้าทันใด ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ยอมเร้นกายหรือถอยหนี จอมมารกระชับดาบที่ถืออยู่ในพระหัตถ์รับเพลงดาบของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างทันท่วงที รัชทายาทไท่หยวนในยามนี้เต็มไปด้วยแรงแค้นอย่างยิ่งยวด ครั้นได้ยินถ้อยคำที่ไม่ชัดเจนของจอมมารที่รับสั่งตอบกลับมาเช่นนั้น ความเข้าใจผิดด้วยคิดว่าพระองค์เป็นผู้สังหารพระบิดาและพระมารดาอย่างไม่ต้องสงสัยว่าเป็นฝีมือของผู้ใดกระทำการเช่นนั้น คนงามใช้วิชายุทธ์ของตนตรงเข้าปลิดชีพอีกฝ่ายหมายตัดหัวเซ่นสังเวยให้จงได้ ทว่าวิชายุทธ์ของเมืองมนุษย์มีหรือจะเทียบเท่าดินแดนปีศาจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแดนสวรรค์ หากแต่ในเวลานี้จอมมารทรงบาดเจ็บสาหัสเมื่อถูกมีดศิลาสวรรค์ จ้วงแทงพระวรกายในขณะที่ยังไม่ทันออกจากญาณตบะจึงทำให้สูญเสียพลังเวทย์ไปเกือบหมดเหลือเพียงสามส่วนเท่านั้นและแทบจะหมดสิ้นเมื่อทรงร่ายเวทย์ตาข่ายสวรรค์ดักจับเทพนอกรีตที่ลอบเข้ามาปลงพระชนม์ ในยามนี้จอมมารจึงต้องใช้วิชายุทธ์จากดินแดนปีศาจที่ทรงฝึกฝนมานานหลายแสนปี รับมือกับรัชทายาทจากไท่หยวนและการปะทะวิชายุทธ์ในครั้งนี้ประหนึ่งเด็กน้อยกำลังหัดเดินกับผู้ใหญ่ที่วิ่งเจนจัดฉันใดก็ฉันนั้น เพล้ง!!!! เพียงแค่สามกระบวนท่าโดยที่จอมมารยังไม่ทันออกแรงแต่อย่างใด ดาบที่แคว้นไท่หยวนขึ้นชื่อของความแข็งแกร่งและคงทนมีชื่อเสียงไปทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาบคู่กายของรัชทายาทหน้าสวย ทว่ากลับถูกดาบธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษของต้าฮั่นซึ่งจอมมารใช้วิชายุทธ์จากดินแดนปีศาจฟันเพียงครั้งเดียวดาบยาวคมกริบหักครึ่งลงไปทันที ฟิ้วววว!!! คมดาบที่อยู่ในพระหัตถ์ของจอมมารตวัดพลิ้วไหวไปมารอบลำคอของรัชทายาทหน้าสวยอย่างรวดเร็ว ควับ! ปลายดาบของจอมปีศาจหยุดนิ่งจ่อเข้าที่คอหอยของรัชทายาทจากไท่หยวน พระเนตรคมดุจับจ้องดวงตากลมโตคู่งามที่กำลังเบิกกว้างภายใต้หน้ากากที่ปิดบังพระพักตร์อันแท้จริงของอีกฝ่ายเอาไว้อยู่ตลอดเวลา รัชทายาทคนงามพ่ายแพ้ให้แก่พระองค์อย่างหมดรูปไม่ถึงสามกระบวนท่าเสียด้วยซ้ำ “เจ้าแพ้แล้ว!”จอมมารรับสั่งสุรเสียงเย็นยะเยือกพร้อมรอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนพระพักตร์งาม พระพักตร์สวยของรัชทายาทไท่หยวนเชิดขึ้นสูงโดยพลัน ครั้นได้ยินเช่นนั้น “แพ้แล้วอย่างไงในเมื่อข้าแพ้เจ้าเช่นนี้...ชักช้าอยู่ทำไม...ลงมือเสียซิ! คิดหรือว่าการที่เจ้าทำทีไว้ชีวิตข้าจะทำให้รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกบุญคุณของเจ้าขึ้นมาได้..ไม่มีวันเสียหรอกเจ้าคนถ่อย!!!”รับสั่งก่นด่าอีกฝ่ายกลับไปพลางเชิดพระพักตร์ขึ้นสูงยิ่งไปกว่าเดิมพร้อมปิดพระเนตรลง “ช่างเป็นคนดื้อด้านเสียนี่กระไร เหตุใดข้าจะต้องสังหารเจ้า ในเมื่อพ่ายแพ้ให้แก่ข้าก็จงไสหัวไปจากที่นี่ซะ! แล้วไม่ต้องกลับมาอีกและอย่าคิดว่าจะเอาศพพ่อและแม่ของเจ้าออกไปจากที่นี่ได้ เพราะอีกไม่นานซากศพก็จะถูกทำลายจนสูญสลายไปโดยพลัน” จอมมารรับสั่งเพียงสั้นๆ โดยไม่ได้อธิบายหรือขยายความให้เข้าใจมากไปกว่านี้ สาเหตุเพราะไอปีศาจจะกลืนซากศพแล้วนั้นเลือนหายไปจากแดนมนุษย์ทันทีที่เช้าวันใหม่เข้ามาเยือน ในขณะที่อีกฝ่ายเมื่อได้ยินรับสั่งของจอมมารเช่นนั้น มีหรือที่จะยินยอมหรือล่าถอยจากไปอย่างง่ายๆ เพราะนั้นหาใช่นิสัยของรัชทายาทอู๋ฮ่าวเทียนนี้อย่างแน่นอน นิสัยที่หากจะทำอะไรลงไปแล้วต้องทำให้สำเร็จให้จงได้ “ข้าก็เพิ่งจะพบคนโง่งมเช่นเจ้าก็คราวนี้ ที่สามารถเอาชนะศัตรูอีกฝ่ายได้แล้ว กลับปล่อยให้หนีไปต่อหน้า แต่คิดหรือว่าข้าจะหลงเล่ห์กลอุบายของพวกต้าฮั่น ไม่มีวัน!...ถึงอย่างไรเสียข้าจะต้องเอาพระศพของเสด็จพ่อและเสด็จแม่กลับไปให้ได้”รัชทายาทคนงามยังคงดื้อดึงมิรู้วาย นิ้วพระหัตถ์สอดเข้าไปในพระโอษฐ์พร้อมส่งสัญญาณเรียกทัพเสริมของไท่หยวนทันที วะ..วี้ด!!! เสียงสัญญาณดังขึ้นทันใด ทันใดนั้นเอง ฟิ้วววว!!! ลูกธนูมากมายพุ่งมาจากทั่วทุกสารทิศจากด้านบนของหลุมปีศาจ ทันทีที่จอมมารทอดพระเนตรลูกธนูมากมายกระหน่ำลงมาไม่ยั้งเช่นนั้น ดาบที่อยู่ในพระหัตถ์ยกขึ้นพร้อมใช้วิชายุทธ์จากดินแดนปีศาจทำลายฝูงลูกธนูที่มีมากมายนับหลายพันดอกสลายหายไปทันที พรึบ!!!! ลูกธนูถูกทำลายมลายหายไปชั่วพริบตา ทว่ายังมีหลงเล็ดรอดพุ่งตรงเข้าปักยอดอกรัชทายาทจากไท่หยวน ฉึก! ฉึก! ฉึก! ลูกธนูทั้งสามดอกพุ่งปักตรงเข้ายอดอก ใต้ราวนมและหน้าท้องจนร่างอรชรในชุดเกราะผงะถอยหลังล้มลงหงายท้องฟาดลงไปนอนกับพื้นดินทันที “เจ้าหนุ่ม!!!”จอมมารรับสั่งสุรเสียงก้อง อ๊อกกก!!!! โลหิตแดงฉานกระอักออกมากองใหญ่ ดวงตาคู่สวยเริ่มพร่าเลือนเปลือกตาเริ่มปิดลงอย่างช้าๆ พร้อมสติที่หลุดลอยไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ร่างของรัชทายาทคนงามจากไท่หยวนล้มฟาดลงทาบทับร่างอันไร้วิญญาณของอ๋องไท่หยวนและฮองเฮาซือฉีไปโดยพลัน ท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมาร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม