ตอนที่ 3

1128 คำ
ตอนที่ 3 “รุ้ง แกอยู่เฝ้าผัวแกเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปบอกเฮียเจตให้ว่าแกติดธุระสำคัญมาก ขอลาหยุดสักสองสามวัน” จิรันธรพูดแทรกขึ้น “จีจี้ แกพูดแบบนี้ได้ไง” รุ้งตะวันแก้มแดงระเรื่อกับคำพูดตรงไปตรงมาของเพื่อนรัก “ก็ฉันพูดความจริงนี่” จิรันธรทำหน้าเป็นใส่ “ความจริงบ้าบออะไรของแก แล้วแกจำเอาไว้เลยว่าอย่าพูดคำนี้ต่อหน้าเขาอีก ฉันไม่ชอบ” รุ้งตะวันกระซิบต่อว่าเพื่อนด้วยใบหน้างอง้ำ “เขินเหรอ” จิรันธรหัวเราะคิกคัก ยิ่งได้เห็นเพื่อนทำหน้าโหดมาขู่ก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ “หยุดเลยนะ” รุ้งตะวันมองค้อนเพื่อนประหลับประเหลือก “ถ้างั้นฉันไปทำงานก่อนนะ ส่วนแกก็เฝ้าผัวไป” “พูดบ้าๆ” รุ้งตะวันคำรามหน้าแดงระเรื่อ “ตกลงตามนี้แหละ จีจี้ไปก่อนนะคะ” จิรันธรโบกมือลาแล้วรีบเดินออกไป ก่อนที่เพื่อนรักจะทักท้วงอะไรขึ้นมาอีก ส่วนรุ้งตะวันก็ยืนเคว้งอยู่ปลายเตียง ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งบนโซฟาแล้วคว้าเอานิตยสารเล่มหนามานั่งเปิดอ่านเพื่อไม่ให้คนบนเตียงได้ถามอะไร แต่ดูเหมือนสิ่งที่เธอทำจะไม่ได้ผล “คุณ” “มีอะไรเหรอคะ หรือว่าคุณเจ็บตรงไหน เดี๋ยวฉันเรียกพยาบาลให้ค่ะ” “ไม่ต้องครับ แต่ผม... ” คนพูดพยายามจะนึกว่าเรื่องของภรรยา “แต่อะไรเหรอคุณ” ถามไปแล้วก็เมินหน้าหนีไปเมื่อโดนอีกฝ่ายจ้องตาไม่กะพริบ “แต่ผมสงสัยว่าคุณเป็นภรรยาของผมจริงๆ เหรอครับ” ดวงตาสีฟ้าเต็มไปด้วยความสงสัย แต่จะว่าไปเขาก็สงสัยอะไรหลายเรื่องมากตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมา ถามหมอ ถามพยาบาล ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ครั้นให้นึกเองก็พานปวดหัว “ก็ถ้าคุณอยากให้เป็นจริง ฉันก็เป็นจริง แต่ถ้าคุณไม่อยากให้เป็น ฉันก็ไม่เป็น” คนถูกถามตอบแบบเลี่ยงๆ “ทำไมคุณตอบแบบนี้ล่ะ” คิ้วหนาขมวดยุ่ง “ฉันก็ตอบไปเรื่อยเปื่อย” “แล้วชื่อผมล่ะ ตกลงชื่ออะไร” “คุณเพิ่งรู้สึกตัวมา อย่าเพิ่งถามอะไรเลยค่ะ แต่ฉันสัญญาว่าจะบอกคุณแน่นอน” แต่เธอก็ไม่รู้จะบอกอะไรได้มากไหม เพราะเธอรู้แค่ว่าเขาชื่ออะไรและทำงานที่ไหนเท่านั้น ส่วนเรื่องส่วนตัวของเขาเธอไม่รู้เลยสักนิด “สัญญากับผมนะ” พูดจบก็ยื่นมือออกไปจับมือเล็ก “คุณ!” รุ้งตะวันตาโตตกใจที่จู่อีกคนก็คว้ามือเธอไปจับไว้ซะแน่น “ผมจับมือคุณไม่ได้เหรอครับ” “ปละ...เปล่า เปล่าค่ะ พอดีฉัน...ฉันตกใจน่ะ ที่จู่ๆ คุณมาจับมือของฉัน” เจ้าของมือตอบเสียงตะกุกตะกัก “มือคุณนิ่มมาก” ว่าแล้วก็ยกขึ้นมาแนบแก้ม และนั่นให้ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายกับเจ้าของมือ ไม่นานสองแก้มเนียนออกสีระเรื่อเมื่อคนบนเตียงจับมือของเธอไปเพ่งมองราวกับจะหาลายแทงสมบัติ “คุณ ปล่อยมือฉัน...ได้แล้ว” เสียงหวานเอ่ยบอกคล้ายคนไม่แน่ใจว่าอยากให้เขาเลิกจับเลิกจ้องดีหรือไม่ “เล็บคุณก็สวย” เขายังเอ่ยชมไม่หยุดปากและก็มองมือนุ่มนิ่มอย่างสนใจ ‘แล้วจะทำไงดีล่ะนี่ ปล่อยให้จ้องต่อเหรอ’ หญิงสาวถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น กระทั่งคนที่จับมือเธอเอาไว้หลับทำให้เธอได้โอกาสดึงมือตัวเองออกมา แล้วยืนจ้องเขาอยู่สักพักใหญ่เธอจึงเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วหยิบหนังสือมาอ่านฆ่าเวลา เพราะปกติแล้วเวลานี้เธอต้องเตรียมตัวขึ้นเต้นบนเวทีไม่ใช่มานั่งเฝ้าคนป่วย ติ๊ด...ติ๊ด... โทรศัพท์มือถือที่ตั้งระบบสั่นเอาไว้สั่นเตือนเจ้าของเครื่องให้วางนิตยสารเล่มหนาที่นั่งอ่านมาครึ่งชั่วโมงลงบนโซฟา มือเล็กล้วงเจ้าเครื่องมือสื่อสารออกจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะลุกเดินออกมาคุยนอกห้องเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนคนป่วย “สวัสดีค่ะแม่ มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” รุ้งตะวันกรอกเสียงไปตามสายเมื่อชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอก็คือมารดา ที่ไม่ยอมย้ายมาอยู่กับเธอที่คอนโดฯ โดยอ้างว่าไม่ชอบ แต่เธอรู้ว่าที่มารดาไม่มาอยู่ด้วยเป็นเพราะไปเล่นไพ่ไม่สะดวกเสียมากกว่า “นี่ป้าเอง” “มีอะไรหรือเปล่าจ้ะป้าผึ้ง แล้วแม่ฉันอยู่ไหนล่ะ” ถามไปแล้วก็พอจะนึกออกว่าเวลานี้มารดาคงจะอยู่ในวงไพ่ “นอนซมอยู่บนเตียงนี่ไง” “แม่เป็นอะไรเหรอจ๊ะ” “แม่เอ็งเป็นไข้ แต่ตอนนี้กินยานอนไปแล้ว เอ็งไม่ต้องห่วงไปหรอก ป้าแค่โทรมาบอกไว้แค่นั้นแหละ แต่เอ็งคงรู้ใช่ไหมว่าทำไมแม่เอ็งถึงต้องนอนซม” “แม่อดนอนอีกแล้วละสิ” รุ้งตะวันทำหน้าเมื่อย เพราะเดาสาเหตุที่มารดาต้องล้มป่วยได้ แล้วพอหายคงไม่พ้นโทรมาขอเงินเธอเอาไปเล่นไพ่อีกแน่ “แม่เอ็งคงเล่นเพลินไปหน่อย เลยลืมเวลากินเวลานอน แล้วนี่แกไม่ได้ทำงานหรือไง เสียงมันดูเงียบๆ” เพราะทุกครั้งที่โทรไปจะมีเสียงเพลงดังเล็ดลอดมาให้ได้ยิน แต่คราวนี้ไม่มีสักนิดเลยอดสงสัยไม่ได้ “ฉันลาหยุดจ้ะป้า” “ฟ้ามันคงฝนตกห่าใหญ่แน่ๆ ที่เอ็งลางาน” ป้าผึ้งหัวเราะร่วน ด้วยรู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ขยันทำงานมาก หากไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่มีวันหยุดทำงาน “ป้าก็พูดเกินไป แต่ป้าสะกิดบอกแม่ให้ทีว่าฉันจะแวะไปดู” “เออๆ เดี๋ยวจะบอกให้” “ป้าผึ้งเอาเป็ดย่างไหม เดี๋ยวฉันจะแวะซื้อไปฝาก” “เอาที่เอ็งสะดวกเถอะ ป้าวางละ” พูดจบก็กดวางสายแล้วหันไปมองคนบนเตียงที่รู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาพอดี อีกคนจึงบอกเรื่องที่ลูกสาวจะมาเยี่ยมแล้วก็เดินไปเปิดทีวีดูฆ่าเวลา เพราะจะให้ทิ้งคนป่วยไปตอนนี้ก็ไม่ได้ ทางด้านรุ้งตะวันเดินกลับไปในห้องคนป่วย แต่เธอก็ลังเลว่าจะปลุกเขาดีไหมเพื่อบอกว่าจะออกไปข้างนอกสักชั่วโมงแล้วจะกลับมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม