ค่ำคืนของวันนั้นใบหน้าหวานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องพัก ของโรงบาลที่เธอสังกัดอยู่ พร้อมกับเปิดจอโน๊ตบุ๊คเช็คดูตามโรงบาลที่ตัวเองคิดว่าอยากจะไปแต่ก็น่าเสียดาย บางแห่งถูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนจนเต็ม บางแห่งก็ยังไม่มีตำแหน่งว่างที่จะเปิดรับ เธอเม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากันพร้อมกับถอนหายใจหลายเฮือก งานนี้คงไม่พ้นที่คุณหมอใหญ่เสนอ มือเรียวกดแป้นพิมพ์ค้นหาไม่หยุด จนกระทั่งเสียงมือถือที่ถูกวางไว้ข้างๆดังขึ้น เธอหันไปมองเห็นปลายสายที่โทรมาถึงกับยิ้ม
"ฮัลโหลค่ะ"
เสียงหวานนั้นพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม เมื่อปลายสายคือหนุ่มหล่อวัยเดียวกันที่พึ่งบรรจุครูใหม่ๆโทรเข้ามา
(เรานึกว่าวิจะหลับแล้วซะอีก ทีแรกไม่กล้าโทรเกรงใจ กลัวหลับแล้วเราจะกวนหรือเปล่า)
"ยังไม่หลับจ้า พอดีเราดูเรื่องโรงบาลอยู่"
ในเมื่อมีหนุ่มหล่อโทรมาแบบนี้ แน่นอนละว่าคนรับก็ต้องอาย เธอพูดพลางบิดตัวไปมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จะว่าไปตั้งแต่สวยขึ้น ออร่าจับขึ้น หนุ่มๆก็มาขายขนมจีบไม่ขาด ส่วนครูแม็กที่รู้จักกันนั้นเพราะเพื่อนของเพื่อนในโรงบาล แนะนำ ทั้งคู่พึ่งเริ่มคุยกันจะว่าพึ่งเริ่มจีบกันก็ว่าได้ แต่วิลาวัลย์เธอไม่ใช่คนปิดบังอะไร พอมีคนมาจีบเธอก็เล่าให้งามวิไลฟัง จึงเป็นสาเหตุให้งามวิไลเอาไปล้อบ่อยๆ
ส่วนครูแม็กที่ได้ยินพยาบาลสาวสวยตอบก็ถามขึ้น
(อ้าวไหนบอกว่ามีคนเสนอแล้วนี่ ทำไมยังต้องดูที่ใหม่ หรือว่าวิไม่อยากไป)
ครูแม็กที่อยู่ในสายถามขึ้น เธออยากจะตอบใจแทบขาดว่า ถ้ามีที่อื่นที่ใกล้จังหวัดที่เธอประจำอยู่ก็คงดี เธอคงได้เห็นหน้าคุณครูหนุ่มหล่อหน้าตี๋ทุกวัน ถ้าจะบอกได้ว่าครูแม็กเป็นคนแรกที่มาขายขนมจีบให้เธอแล้วเธอก็ติดกับก็ว่าได้
"ก็มีแหละ แต่เราไม่ชอบเมืองกรุง ทำไงได้ถ้าเงินดีก็คงต้องไป"
(ที่จริงเราไม่อยากให้วิไปหรอกนะ เรากลัว กลัวว่าวิจะเปลี่ยนใจ)
"บ้าน่า"
ร่างอรชรบิดเบียนไปมากับเก้าอี้ พลางยิ้มจนแก้มจะฉีก ที่ไม่อยากไปคงไม่พ้นที่งามวิไลพูด กลัวไม่ได้ผัว
(แล้ววิจะไปวันไหน ได้ตกลงกับทางนั้นหรือยัง)
วิลาวัลย์หุบยิ้มในหัวก็คิดพรุ่งนี้คงไม่พ้นโทรหาคุณหมอติณณ์พร้อมกับตอบตกลง เธอลอบถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบคนในสาย
"พรุ่งนี้ เราว่าจะโทรบอกทางนั้นตอบตกลง เพราะคุณหมอเขารอคำตอบอยู่"
(อืม..งั้นพรุ่งนี้ทานข้าวกันไหม หลังเลิกงานนะ)
"ได้สิ"
วิลาวัลย์เธอตอบเสียงเข้ม เมื่อคุยกับปลายสายแล้วเธอก็วางสายวางมือถือลงที่เดิม ก่อนจะถอนหายใจมองดูหน้าจอ ของโน๊ตบุ๊คแล้วจัดการปิดมันลง ร่างระหงส์ลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมบิดขี้เกียจไปมาอยู่สองรอบก่อนจะป้องปากหาว เวลานี้ก็เริ่มดึกอย่างว่า ความง่วงที่มีในร่าง ก็เริ่มทำงาน เธอเดินไปที่เตียงนอนนุ่มแล้วนั่งลงช้าๆ ดึงผ้าห่มหนา ขึ้นมาปกปิดท่อนขาล่าง ก่อนจะล้มตัวลงนอน หลับสนิทเพราะความเพลีย
เช้า
วันนี้แล้วที่วิลาวัลย์เธอต้องโทรไปตอบตกลงกับคุณหมอใหญ่ใจดี ที่อุตส่าห์เสนอเงื่อนไขในการทำงานให้ แต่ตอนนี้มันยังเช้าอยู่ เธอเลยเลือกที่จะโทรหาคุณหมอช่วงพักเที่ยงน่าจะดีกว่า วิลาวัลย์แต่งตัวอออกมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม เหมือนเช่นทุกวันโรงบาลแห่งนี้เป็นโรงบาลรัฐประจำจังหวัด ผู้คนที่เข้ามารักษาก็เยอะไม่น้อย การทำงานในแต่วันนั้นผ่านพ้นไปแบบเหน็ดเหนื่อย ตั้งแต่ที่เรียนจบมาแล้วได้แยกกับเพื่อนเธอก็ใช้ทุนอยู่ที่นี่ ตอนนั้นจนตอนนี้เป็นเวลาจะสี่ปีอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมกับหมดสัญญาทุน การตัดสินใจไปทำที่อื่นคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร นอกเสียจากปัญหาด้านหัวใจก็เท่านั้น
"วิ สรุปได้ที่ใหม่หรือยัง"
เสียงของเพื่อนพยาบาลด้วยกันถามขึ้น วิลาวัลย์ที่นั่งประจำหน้าที่ก็เงยหน้าขึ้นมอง พร้อมคำตอบ
"ได้แล้วจ๊ะ มีผู้ใหญ่ใจดีเสนองานพยาบาลให้"
"เป็นพยาบาลพิเศษหรอ เงินดีนะสิ"
"ไม่เชิงพยาบาลพิเศษหรอก แต่เงินก็น่าจะดี"
"แบบนี้ วิ ต้องลาออกเลยไหมถ้าไปทำพิเศษ"
วิลาวัลย์ถึงกับชะงักในคำถาม ในเมื่อคลินิกมันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลคงต้องลาออกจากที่ทำอยู่ คราวนี้เธอมองหน้าคนถามพร้อมกับตอบเสียงเบา
"คงงั้นมั้ง"
ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้ว ก็คงต้องเป็นไปตามนั้น ฐานะทางบ้านเธอไม่ได้ร่ำรวยทางไหนที่พอได้เงินเพิ่มมันก็ย่อมดี จะได้ส่งเสียให้พ่อแม่ใช้บ้าง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หักลบแล้วแทบจะไม่พ้นเดือนด้วยซ้ำ
หลังจากที่ทำงานมาจนถึงครึ่งวัน ของวันนี้ คงต้องถึงเวลาที่ต้องโทรหาหมอติณณ์ สักที วิลาวัลย์ที่พึ่งพักเที่ยงเสร็จเธอหยิบมือถือเครื่องโปรดที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อพยาบาลสีขาว กดเบอร์ที่โทรหาเธอในเมื่อวาน ก่อนจะกดปุ่มโทรออกเธอก็ถอนหายให้เฮือกใหญ่ แล้วยกมือถือขึ้นแนบที่หูทันที
ตืดดด
เสียงรอสัญญาณอยู่ครู่ใหญ่ ปลายสายก็กดรับ เสียงเข้มกล่าวทักทาย อย่างสุภาพ
(สวัสดีครับ)
"สวัสดีค่ะ คุณหมอ วิลาวัลย์นะคะ"
ฟากฝั่งทางนี้ก็เอิ้นเอ่ยอย่างอ่อนโอน พร้อมแนะนำตัวเอง กลัวว่าคุณหมอติณณ์จะจำไม่ได้ แต่หารู้ไม่ว่าคุณหมอได้เมมเบอร์เธอไว้ในเครื่อง ซะเรียบร้อย
(จำได้ครับ)
"คือ หนูอยากจะโทรมาบอกเรื่องที่เราคุยกันไว้เมื่อวาน"
ไม่รู้ว่าคำตอบจะเป็นตามที่คิดหรือไม่ เชื่อเถอะว่าหมอติณณ์เองก็ใจเต้นไม่น้อย
(ครับ)
ประโยคตอบรับสั้นๆของหมอ วิลาวัลย์เว้นประโยคยังไม่พูดในคราวเดียว เธอชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบในสิ่งที่คุณหมอติณณ์ต้องการ
"คือ หนูตกลงว่าจะไปค่ะ"
(โอเคครับ ขอบคุณที่รับข้อเสนอของผม แล้วสะดวกมาวันไหนครับ หรือจะมาดูที่พักที่ทำงานก่อนไหม ถ้าหากว่าง เสาร์ อาทิตย์จะเข้ามากรุงเทพ ผมยินดีเป็นธุระให้)
วิลาวัลย์เธอคิดตาม มันก็น่าไปดูก่อนอีกทั้งเรื่องที่พักสำหรับเธอก็สำคัญ ถ้าหากให้หมอหาให้เกิดหาคอนโดหรูหราให้ คงไม่ไหวกับที่พัก เพราะสไตล์เธอนั้น อยู่ง่าย กินง่าย สบายๆ แต่ขอให้ปลอดภัยก็พอ