“ว่าไงคะนิ้ง”
(แกอยู่ไหนมิลิน)
“ฉันอยู่ร้านบลูไวน์ ทำไมเหรอ”
(ยัยไมอาอกหัก ตอนนี้ร้องไห้เหมือนคนบ้า นางบอกให้ฉันโทรหาแกเพื่อชวนไปดื่มด้วยกัน)
“ตอนนี้ฉันอยู่ร้านบลูไวน์ มาหาฉันที่นี่ไหมล่ะ”
(งั้นแกรอที่นั่น เดี๋ยวฉันกับไมอาจะไปหา)
เธอวางสายจากคะนิ้งที่เป็นเพื่อนสนิท ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบาร์ต่อ เธอมีเพื่อนสนิทมากๆอยู่สองคน
คะนิ้ง และ ไมอา
สองคนนี้สนิทที่สุดแล้ว เวลามีเรื่องอะไรมักเล่าให้กันฟังอยู่เสมอ หลายเดือนก่อนคะนิ้งอกหัก วันนี้ไมอาอกหัก เคยเตือนเรื่องที่ไมอากำลังคุยอยู่หลายครั้ง ทว่าความรักไม่เข้าใครออกใคร มันห้ามกันไม่ได้ จึงปล่อยไมอาทำตามความรู้สึกของตัวเอง พออกหักก็ปลอบกันเอง
ครอบครัวของคะนิ้งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ส่วนครอบครัวของไมอาเป็นเจ้าของร้านพวกเครื่องเพชรและจิลเวอร์รีต่างๆ แถมยังเป็นบริษัทจัดงานอีเวนต์และคอนเสิร์ตให้ศิลปินต่างประเทศ
ปึก!
“ขอโทษค่ะ…” เธอรีบขอโทษคนที่ตัวเองเดินชนเมื่อครู่ และพอเงยหน้าขึ้นมองหัวใจดวงน้อยพลันกระตุกวูบทันที
ผู้ชายคนที่เธอเห็นอยู่กับสาวสวยคนก่อนหน้านี้…
มองไกลๆว่าหล่อแล้ว พอมองใกล้ๆยิ่งหล่อ
ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเทพบุตร มีความออกไปทางผู้ชายฝั่งยุโรปนิดหน่อย จมูกโด่งสัน สันกรามชัดเจนเห็นแล้วทำใจสั่น ดวงตาเรียวดูมีเสน่ห์น่าค้นหา ผมสีดำขลับตัดกับผิวสีขาว และเธอสะดุดตากับริมฝีปากที่น่า…จูบ เผลอคิดในใจว่าใครกันนะจะได้สัมผัสมัน
หากแต่ว่า…
เธอกลับสัมผัสได้ถึงรังสีอันตรายที่เปล่งประกายออกมาจากตัวผู้ชายคนนี้
“ขะ…ขอโทษอีกครั้งนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ทว่า
“เดี๋ยวสิครับ”
“คะ?”
“มาคนเดียวเหรอครับ”
“อีกหน่อยเพื่อนก็มาแล้วค่ะ”
เสียงของเขาทำไมคุ้นหูจัง…
“เอ่อ…ขอโทษนะคะ ขอถามอะไรได้ไหม”
“ครับ”
“เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนไหมคะ” เธอเอ่ยถามตรงๆ ประโยคลักษณะแบบนี้ไม่ต่างอะไรจากการเริ่มต้นเข้าหาคนที่ตัวเองกำลังสนใจ แต่สำหรับเธอแค่อยากรู้เท่านั้น เพราะมันค้างคาใจตั้งแต่เจอเขาที่นี่แล้ว
“จำไม่ได้จริงๆเหรอครับ”
“จำอะไรคะ?”
“จำไม่ได้จริงๆสินะ”
“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
มุมปากหยักหักโค้งขึ้นเล็กน้อยกับคำตอบ เธอคงจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้จริงๆ
“ที่ถามว่าเคยเจอกันมาก่อนไหม ครับ พวกเราเคยเจอกันมาก่อน”
จู่ๆหัวใจที่นิ่งสงบของเธอก็พลันเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากขั้วอยู่รอมร่อ เธอและเขาเคยเจอกันมาก่อนจริงๆ
“เมื่อสองปีก่อน…ที่อิตาลี”
กึกก
เธอนิ่งอึ้ง ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนลงไปชั่วขณะ ตอนนี้เหมือนถูกจับแยกออกจากโลกภายนอก ไม่รับรู้อะไร หูทั้งสองดับจนไม่ได้ยินเสียงเพลงในบาร์
สองปีก่อน…
อิตาลี…
พอเขาพูดเท่านั้น ความทรงจำบางส่วนที่เธอจำไม่ได้ก็ฉายเข้ามาในหัวโดยอัตโนมัติ
‘ขอจูบได้ไหม’
‘มาจูบสิครับ’
‘และถ้าขอมากกว่าจูบล่ะคะ’
‘อย่างเช่น?’
‘คุณ’
“จำได้รึยังครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับยกยิ้ม แววตาที่มองหญิงสาวเต็มไปด้วยความร้ายกาจเจือเสน่ห์
“จำไม่ได้ ขอตัวก่อนนะคะ”
หมับ
เซอร์เวย์คว้าต้นแขนมิลินเอาไว้แล้วดึงกลับมาหาอีกครั้ง
“ปะ…ปล่อยฉันนะ!”
“ตอนนี้ขอให้ปล่อย ทำไมคืนนั้นยังขอให้ผมทำต่ออยู่เลยล่ะ”
“คะ…คุณพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ” เธอเข้าใจทุกอย่าง ตอนแรกคับคล้ายคับคลาเหมือนเคยเจอเขาที่ไหน แต่พอเขาบอกว่าเมื่อสองปีก่อนที่อิตาลี เธอก็เข้าใจทุกอย่างทันที
ผู้ชายที่เป็นคนแรกของเธอ…
ผู้ชายที่เธอวันไนต์สแตนด์ด้วย…
“ผมสามารถทำให้คุณเข้าใจทุกอย่างได้”
“ปล่อยฉัน”
“หรือจะให้ผมช่วยทบทวนความทรงจำเมื่อสองปีก่อนให้คุณดี?“
ผลัก!
มิลินใช้แรงที่มีผลักเซอร์เวย์ออก ชายหนุ่มยอมปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระแต่โดยดี อันที่จริงแรงเท่ามดแค่นั้นทำอะไรเขาไม่ได้ สายตาคมเข้มมองตามมิลินที่รีบเดินหนีไปพลางยกยิ้มอย่างพอใจ
เธอจำทุกอย่างได้แต่แกล้งตีมึนทำเป็นไม่รู้เรื่อง…