หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
ภายในห้องวีวีไอพีของผับหรูหรา ตอนนี้มีชายหนุ่มกลุ่มเดิมนั่งดื่มกันอยู่เหมือนเช่นเคย ภาคภูมิมองหนึ่งในเพื่อนที่นั่งเอกเขนกราวกับคนหมดอาลัยในชีวิต ก่อนหันไปหาพชรที่กำลังมองอยู่เช่นกัน
สิงหราชดันหน้าหญิงสาวที่กำลังคลอเคลียเขาอยู่ให้ออกห่างด้วยความรำคาญ
“ไปนั่งที่อื่นไป” ดวงตาคมกริบตวัดสายตาหงุดหงิดให้หญิงสาว
การกระทำของเพื่อนทำให้ทั้งสองหนุ่มแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองคล้ายกับว่าโลกกำลังจะแตก
พชรเป็นคนโอบรัดเอวสาวสวยเซ็กซี่ที่ถูกเพื่อนไล่ตะเพิดออกมาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแทน
“เป็นไรวะไอ้สิงห์ ประจำเดือนไม่มาเหรอถึงได้ไปหงุดหงิดใส่น้องเขาน่ะ” ภาคภูมิที่ทนดูต่อไปไม่ได้ จึงเอ่ยขึ้น
สิงหราชระบายลมหายใจยาวๆ อย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ช่วงนี้รู้สึกค่อนข้างหวงตัว ไม่พอใจกับผู้หญิงคนไหนเลยที่อยู่ใกล้ แม้แต่ตอนที่กำลังจะเล่นสวาทกับสาวสวยเหมือนอย่างเคยก็เป็นอันต้องล่มไปทุกที ภาพของผู้หญิงไร้เดียงสาในคืนนั้นคอยตามมาหลอกหลอนจนเขาพานให้หมดอารมณ์ไปเสียทุกครั้ง
“เปิดห้องให้กูหน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับเจ้าของผับหรู โดยที่ไม่มองหน้า
“ห้องเดิมนะ”
‘ห้องเดิม’ ในที่นี้ของภาคภูมิเป็นอันรู้กันว่าเพื่อนกำลังต้องการอะไร แล้วหันไปพยักหน้าสั่งการกับลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่หน้าประตู
สิงหราชได้ยินแบบนั้นจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เอื้อมมือไปกระชากข้อมือของหญิงสาวคนเดิมออกจากตักของพชร
“ไอ้สิงห์! มึงงี่เง่าอะไรเนี่ย” พชรร้องเรียกชื่อเพื่อนเมื่อถูกแย่งสาวไปต่อหน้าต่อตา ส่ายหน้าช้าๆ
ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองกับเรื่องแบบนี้ เพียงแต่ไม่เข้าใจกับอารมณ์แปรปรวนของเพื่อน
สิงหราชไม่ได้สนใจ เขาดึงแขนของหญิงสาวให้ออกจากห้องไปพร้อมๆ กัน โดยที่สาวเจ้าก็ยอมเดินตามอย่างไม่อิดออด ซึ่งมีเพื่อนๆ ทั้งสองมองตามหลังกันตาปริบๆ
พอเข้ามาในห้องหนึ่งในผับหรูได้ สิงหราชก็ผลักหญิงสาวจนล้มไปนอนบนเตียงอย่างไม่ถนอมนัก ก่อนที่ตัวเองจะตามลงมาทาบทับ จากนั้นจึงเริ่มบทรักร้อนแรงกับหญิงสาวใต้ร่าง
แต่พอบทรักดำเนินมาถึงจุดท่วงทำนองสำคัญ ดวงหน้าหวานของผู้หญิงคนเดิมก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ภาพดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม นัยน์ตาประกายแวววาวชวนให้หลงใหล อีกทั้งเสียงครางหวานๆ และกลิ่นกายหอมๆ จากกายสาวยังติดอยู่ปลายจมูก และส่วนลึกของหัวใจทำให้สิงหราชต้องหยุดการกระทำกับสาวใต้ร่างไว้เพียงแค่นั้น
ร่างสูงใหญ่ล้มตัวลงมานอนแผ่หลาไปกับเตียง ดวงตาสีดำขลับปิดลงพลางหอบหายใจแรงๆ กับอารมณ์ที่ยังคั่งค้างอยู่ ก่อนจะลืมตาขึ้นมองหญิงสาวเปลือยเปล่าที่เปลี่ยนมาคร่อมอยู่บนร่างกายกำยำด้วยสายตาดุดันและนิ่งขรึมอย่างน่ากลัว
“ออกไป” เสียงแหบติดเหนื่อยหอบ เอ่ยบอกกับหญิงสาวนิ่งๆ
หญิงสาวที่เห็นสายตาอันน่ากลัวของสิงหราชก็รีบถอยหนี
หยิบชุดที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นมาสวมใส่ กุลีกุจอออกจากห้องไปในทันที ไม่รอให้ถูกไล่ซ้ำ
“โธ่เว้ย!” เสียงทุ้มคำรามออกมาดังลั่นห้องด้วยความหงุดหงิดกับตัวเองที่ไม่สามารถปลดปล่อยความต้องการได้มานาน
...ตั้งแต่คืนนั้น
ชายหนุ่มต้องใช้เวลาสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่สักพักหนึ่ง จึงลุกขึ้นมาจัดการตัวเองให้เรียบร้อย เขาเดินออกจากห้องด้วยใบหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ปัง!
เสียงปิดประตูรถยนต์คันหรูตามแรงอารมณ์ของผู้เป็นนายทำเอาวิกเตอร์ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถยนต์ต้องหันหน้ามาหาภวัต เพื่อนบอดีการ์ดคู่หูที่นั่งเบาะข้างๆ อย่างงุนงงไปตามๆ กัน ก่อนแอบลอบมองผู้เป็นนายผ่านกระจกหลัง เพราะไม่กล้าหันไปสบสายตาตรงๆ
“ไอ้เตอร์ ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน”
เสียงทุ้มของผู้เป็นนายทำเอาคนถูกเรียกชื่อสะดุ้งโหยง รีบกุลีกุจอหันหน้าไปมองเจ้านาย เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นของเจ้านายคือคนไหน ก็เห็นเจ้านายพามาไม่ซ้ำหน้าทุกวัน
“ไอ้เตอร์!” แล้วเสียงทุ้มก็ตวาดลั่นรถอีกครั้ง
“ครับนาย!” วิกเตอร์ทำหน้าหวั่นๆ ขานรับเสียงดังติดสั่น
“กูถาม มึงไม่ได้ยินเหรอหรือว่าหูมึงไม่มีแล้ว”
คนถูกถามรีบยกมือขึ้นมากุมหูตัวเองไว้อย่างหวาดเสียว
“โธ่นาย ก็ผมไม่รู้จริงๆ นี่ครับว่านายหมายถึงผู้หญิงคนไหน...นายช่วยระบุให้มันแคบๆ กว่านี้หน่อยสิครับ”
“ไม่ได้เรื่อง” สิงหราชเอนตัวไปพิงกับเบาะ แล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ก่อนจะระบุลักษณะของผู้หญิงที่เขาจำได้ขึ้นใจ
“ผู้หญิงที่ท่าทางไร้เดียงสาหน่อยน่ะ”
“อ๋อ น้องผู้หญิงคนนั้น คนที่นายอยู่ด้วยจนถึงเช้านะเหรอ...โอ๊ย! ไอ้วัตมันเจ็บนะเว้ย”
วิกเตอร์นึกขึ้นได้แล้วว่าผู้เป็นนายหมายถึงคนไหน แล้วต้องร้องเสียงหลงเมื่อถูกเพื่อนบอดีการ์ดตบศีรษะอย่างจัง ถลึงตาใส่เพื่อนให้รู้ตัวว่าเผลอพูดเรื่องคอขาดบาดตายออกมา
“อืม เธออยู่ที่ไหน”
แต่ทว่าผิดคาด เมื่อเสียงขานรับแผ่วเบาของผู้เป็นนาย ทำเอาลูกน้องสองคนที่เตรียมรับโทษมหันต์ หันมองกันตาปริบๆ
วิกเตอร์เห็นได้ว่าผู้เป็นนายมีสีหน้าแดงก่ำคล้ายกับคนไม่สบายตัว
“นายจะให้ผมไปพาเธอมาที่โรงแรมมั้ยครับ” เขาถามกลับอย่างรู้งาน
“ไม่ต้อง”
คำตอบของนายเหนือหัวทำเอาบอดีการ์ดหนุ่มหันหน้ามองกันอีกครั้ง แล้วก็เบิกตากว้างแทบถลนออกมากับประโยคต่อมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“กูจะไปหาเธอเอง” เพราะไม่ได้ถามชื่อในคืนวันนั้น สิงหราชจึงไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร แต่นอกจากนั้นเขากลับจำได้หมด
สิงหราชไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยังติดอยู่กับผู้หญิงคนนี้ สำหรับเขาแค่คืนเดียวถือว่าจบ แม้ตลอดหลายวันที่ผ่านมาจะพอข่มอารมณ์ในส่วนลึกของจิตใจไว้ได้
แต่ทว่า วันนี้เขากลับรู้สึกร้อนรน กระวนกระวายใจ แม้หลับตายามใดก็เห็นแต่ใบหน้าหวานทุกครั้งไป หัวใจวูบโหวงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจนไม่อาจทนต่อความรู้สึกนี้ได้อีก