ในตอนนี้คนที่ซบอยู่เงียบไปแล้ว เขาทำแค่ซบกับไหล่ฉันในขณะที่มือเรายังผสานกันอยู่ นานหลายนาทีที่ทั้งฉันและเขาพยายามตกตะกอนความรู้สึก ไม่มีคำเอ่ยอะไร ส่วนฉันก็เอนกายพิงอกแกร่ง ในขณะที่เขาเอนศีรษะไปซบกับเรือนผมนุ่ม
แม้รู้สึกว่าฉันกำลังเห็นแก่ตัวเพราะใช้เลโอเป็นที่พักพิง แต่กลับรู้สึกสบายใจจนบอกไม่ถูก
“กลับไปคืนดีกับมันแล้วเหรอ”
“เปล่า”
“ยังเสียใจอยู่ไหม” เลโอถามขึ้นอีก คล้ายกับว่าเขากำลังทำความเข้าใจใหม่ทั้งหมด
“นิดหน่อยแต่รู้สึกโกรธมากกว่า ความรู้สึกมันเร็วมากจนฉันไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง”
“ดีแล้วแหละ” ฉันได้ยินเสียงพึมพำของเลโอไม่ชัดนัก
ฉันเป็นแฟนกับแอชตันมาสองปี เลือกตอบรับเพราะเขาขอเป็นแฟนต่อหน้าเพื่อน ๆ ดีใจที่มีคนมาจีบ และตอบรับไปเหมือนถูกบังคับให้จำยอม แต่ความไม่ใส่ใจของเขาทำให้ฉันเก็บความรู้สึกน้อยใจของตัวเองไว้ในใจหลายครั้ง คำว่ารักของแอชตันเหมือนคำผ่าน ๆ ไม่ได้ทำให้ใจเต้น แต่กลับใจเต้นรัวในตอนที่กำลังจะจับได้ว่าเขาซ่อนใครไว้ในความสัมพันธ์ พอถึงคราวที่ต้องปล่อยเขาไป กลับรู้สึกสบายใจและโล่งอกที่ในที่สุดก็เลิกกันได้
ฉันยังรักแอชตันอยู่ไหม ฉันเองก็ไม่เข้าใจ
หรืออันที่จริงแล้วฉันไม่รู้จักความรักเลย
“นายบอกว่าฉันจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ งั้นฉันกับนายเรากลับไปเป็นเพื่อนกันได้ไหม”
ฟุบ!
ร่างของฉันถูกเลโอเหวี่ยงลงบนโซฟา ท่อนขาฉันพาดอยู่บนตักของเลโอก่อนจะถูกเขาคร่อมไว้ ดันท่อนแขนและฝ่ามือที่ยังถูกกุมไว้ขึ้นไปเหนือหัว ดวงตาของเขาเรียวรีมีเสน่ห์จนน่าโมโห แถมเส้นผมก็สีเดียวกับดวงตา
“จะเป็นเพื่อนก็ได้ ลืมเรื่องนั้นก็ได้ แต่ฉันไม่ลืมหรอกนะ”
“ฉันก็ลืมไม่ลงเหมือนกันนั่นแหละ” ฉันบ่นอุบอิบ ดวงตาของเลโอดูเจ้าเล่ห์เป็นพิเศษ ไม่ได้ขี้อ้อนเหมือนเมื่อคืน เขาไล้ใบหน้าฉันด้วยสายตาลึกซึ้งไม่ปิดบัง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นเหลือบมองและอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากฉันเนิ่นนาน เลโอกัดปากก่อนจะละเลียดเลียคล้ายชั่งใจแต่ไม่ได้รุกล้ำหรือจู่โจมริมฝีปากฉัน
ฉันหลุบตาต่ำหลีกหนีสิ่งก่อกวนจิตใจ ไล่ลงมองหน้าอกของเลโอที่สั่นกระเพื่อมไปถึงหน้าท้องแกร่ง และท่อนล่างที่เปลือยเปล่า เพียงเท่านั้นฉันก็สำลักน้ำลายจนแทบหายใจไม่ทัน
สิ่งใหญ่โตที่ควรอยู่ในร่มผ้าโด่โตงเตงอยู่เหนือตัวฉันอย่างอิสระ
ฉ่า~
ฉันได้ยินเสียงแก้มตัวเองถูกเผาไหม้จนแดงซ่าน นี่เขากอดฉันและให้ฉันนั่งอยู่บนตักทั้งที่เขาเปลือยเนี่ยนะ
“ถึงเป็นเพื่อนกันแต่ฉันขอเพิ่มสถานะคนรอได้ไหม ฉันจะไม่เร่งเร้าหรือทำมากกว่านั้น แต่ถ้าเธอพร้อมเมื่อไหร่ พิจารณาฉันคนแรกนะ”
“เอ่อ...คือเลโอนายช่วยขยับออกไปก่อนได้ไหม” ฉันไม่สามารถละสายตาจากมันได้เลย ดวงตาฉันเบิกกว้างค้างเติ่งอยู่ที่กลางตัวของเลโอ ลำคอกลืนน้ำลายเอื๊อกพูดเสียงสั่น
“หืมมม อันนี้คือตกลงแล้วเหรอ”
“คือว่านะ”
“เธอกำลังมองอะไรอยู่...”
เลโอขมวดคิ้วแล้วละสายตาออกจากใบหน้าฉัน เขามองดวงตาและริมฝีปากที่เม้มแน่น ก่อนจะมองตามลงไป
เมื่อเห็นสิ่งที่ฉันเห็นเหมือนว่าเลโอก็เริ่มคุมสติไม่อยู่
“เฮ้ย!!!”
หมับ!
“กรี๊ดดดดดดนายอย่ามากอดฉันทั้งที่ยังโป๊ได้ไหมเล่า” ฉันร้องลั่นจมอยู่ในอกเลโอ เขากอดฉันไว้ใบหูและต้นคอแดงเถือกไม่เว้นที่ว่าง “พี่เรย์น่าจะถอดให้นาย ฉันไม่ได้เป็นคนถอดนะ”
ฉันดิ้นรนออกแต่เลโอดันรัดแน่นเกินไป ทำให้ฉันได้แต่ตะกุยตะกายใต้ร่าง ทุบแผ่นหลังของเลโอให้ปล่อย แต่นอกจากไม่ได้รับการปล่อยแล้ว
“เลโอครั้งนี้ฉันไม่ยอมนะ”
“รู้แล้วน่าอย่าขยับ...มันจะทนไม่ไหวเอานะลูกจันทร์ ให้ตายสิฉันจะบ้าตายแล้ว!”
เสียงเลโอคล้ายกำลังทรมาน ฉันได้แต่กดริมฝีปากเข้าหากัน หยุดการขยับพยายามไม่โฟกัสสัดส่วนที่พาดอยู่บนตัว สถานการณ์ของฉันและเขาทั้งอึดอัดและเขินอาย เขายังกดฉันไว้ใต้ร่าง
“ปล่อยก่อนได้ไหมอะ” หลังจากพูดจบก็ได้แต่แตะไหล่เขาเบา ๆ
“เดี๋ยวเธอเห็น”
“ฉันหลับตาก็ได้แต่ปล่อยฉันก่อนได้ไหม มากอดทั้งที่ล่อนจ้อนแบบนี้มัน...รู้สึกแปลก ๆ นะ”
คราวนี้เขาดันอุ้มฉันขึ้นจากโซฟา ฝ่ามือล็อกศีรษะแนบอกไว้ไม่ให้หันไปไหน
“ฉันจะไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวค่อยคุยกัน” คนพูดหลบสายตาฉันก่อนจะบอก
“งั้นนายก็ปล่อยฉันก่อนสิ”
“เดี๋ยวเธอก็แอบดูน่ะสิ” เขาแย้งเสียงดังใบหน้ายังแดงก่ำทำให้ฉันอายเข้าไปกันใหญ่ เกาะอยู่บนไหล่เขาทั้งที่ดวงตายังหลับแน่น แตะไปตรงไหนก็ถูกผิวเย็นจนไม่กล้าวางมือลงไป
“ฉันจะหลับตาไม่แอบมองหรอก นายรีบไปแต่งตัวเถอะ คราวนี้ฉันไม่หนีแน่ออกมาค่อยคุยกัน”
“ฉันจะเชื่อได้ยังไงเมื่อกี้เธอยังมองของฉันไม่วางตา ไม่รู้ละฉันจะเอาเธอไปด้วย ลูกจันทร์ก็โรคจิตเป็นเหมือนกันนะเนี่ย หึ”
“กรี๊ดดดดฉันไม่ได้ตั้งใจนะ เลโอปล่อยฉันก่อน ปล่อย! นายไม่ได้จะเอาฉันเข้าห้องน้ำด้วยใช่ไหม เอ๊ะ!”
ฉันดิ้นไม่นานนักก่อนจะถูกวางลงบนเตียง ความนุ่มใต้ขาและผ้าห่มที่เอามาคลุมร่างฉันจนมิด ทำให้ฉันตะกายออกมาจากผ้าห่ม นอนคว่ำหน้ามองแผ่นหลังเลโอที่คว้าผ้าเช็ดตัวปิดกลางตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
ก้นเขางอนสวยจัง
เอ่อ...โรคจิตจริง ๆ ด้วยนะฉันเนี่ย