ลูกสาวมาเฟีย

คุณหนูใหญ่แห่งยูกิโอะ (1)

สิบปีต่อมา @ The University of Tokyo ญี่ปุ่น

“ฮานะ...ทางนี้” เสียงเรียกจากใครคนหนึ่งทำให้ฮารูนะที่กำลังจะเดินไปยังลานจอดรถของมหาวิทยาลัยต้องหันไปมองตามเสียงทันที

“ฮารุ” ฮารูนะยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นหน้าของคนที่เอ่ยชื่อออกมาที่ไม่ได้เจอกันหลายวันก่อนจะเดินเข้าไปหาพร้อมกับสายตาสอดส่องหาใครอีกคนที่เธอคิดว่าต้องเจอแต่กลับไม่มีคนคนนั้นมากับน้องชายด้วย

“มาถึงเมื่อไหร่” ฮารูนะเอ่ยถามน้องชายทันทีเมื่อเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับน้ำเสียงเป็นปกติอย่างเก็บอาการเมื่อไม่เห็นใครอีกคน แต่สีหน้าของฮารูนะที่แสดงออกมาไม่สามารถที่จะปิดน้องชายฝาแฝดอย่างฮารุโตะได้เลย

“คำพูดเหมือนอยากรู้เรื่องของเรา แต่สายตากลับมองหาใครอีกคน เฮ้อ น่าน้อยใจจัง” ฮารุโตะพูดออกมาอย่างแกล้งทำ ซึ่งอาการที่ทายาทรุ่นที่ 11 แสดงออกมานั้นจะมีเพียงพี่สาวฝาแฝดเท่านั้นที่ได้เห็นมุมนี้ของเขา

“เบนล่ะ ทำไมไม่มาด้วยกัน” ฮารูนะตัดสินใจเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมาทันทีเมื่อรู้ว่าไม่สามารถปิดบังความรู้สึกต่อคนตรงหน้าได้

“ผม...ให้เบนไปดูงานที่...สาขาฮ่องกงต่อ” คำตอบของน้องชายฝาแฝดทำให้ฮารูนะที่พยายามเก็บอาการความคิดถึงและห่วงหาคนที่เอ่ยถึงต้องแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาเมื่อได้ยินคำตอบนั้นของน้องชาย

“ทำไมต้องเป็นเบน...” ฮารูนะเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับน้ำเสียงที่กลับมาเป็นปกติ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายกลับมีสีหน้าแอบยิ้มอย่างสะใจขึ้นมาเหมือนต้องการแกล้งเพื่อให้อีกฝ่ายแสดงอารมณ์ไม่พอใจ

“แล้วทำไมเป็นเบนไม่ได้...” ฮารุโตะสวนกลับทันทีอย่างอยากรู้ว่าพี่สาวฝาแฝดจะมีสีหน้าและตอบกลับเขาต่ออย่างไร

“ช่างเถอะ แล้วนี่ทำไมถึงมาคนเดียว...ไม่มีคนขับรถ*หรือบอดี้การ์ดมาด้วยล่ะ” ฮารูนะพูดตัดบทเมื่อเห็นว่าถ้าต่อความไปเธอต้องแพ้น้องชายอย่างแน่นอน

Ref: คนญี่ปุ่นสามารถสอบใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีเป็นต้นไป Link 1

“ที่นี่มหาวิทยาลัย ไม่น่าจะมีอันตรายอะไรหรอก อีกอย่างพวกเราก็ถูกฝึกการป้องกันตัวมาเป็นอย่างดี บางครั้งไม่จำเป็นต้องมีคนคอยอารักขาตลอดเวลาก็ได้...พี่ว่ามั้ย” คำตอบของฮารุโตะทำให้พี่สาวอย่างฮารูนะเห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพราะบางครั้งตัวเธอเองก็อยากจะไปไหนเองเพียงลำพังไม่ต้องมีคนคอยเดินตามจนเป็นจุดสนใจแล้วเกิดความอึดอัดใจในเวลาต่อมา

“มารับด้วยตัวเองแบบนี้ มีอะไรหรือเปล่า” ฮารูนะเอ่ยถามน้องชายหลังจากที่พวกเขาทั้งสองคนเข้ามายังรถโดยผู้เป็นน้องกำลังทำการสตาร์ทรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อปากานิ ไวร่า (Pagani Huayra) รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์อิตาลี ที่มีผู้หญิงเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้นั่งรถคันนี้ของเขา คือ ผู้เป็นแม่และพี่สาว

“พี่เห็นข่าวการขึ้นรับตำแหน่งของทายาทรุ่นที่ 12 ของแก๊งบาซิลิสหรือยัง” ฮารุโตะพูดเข้าประเด็นหลังจากที่ขับรถเคลื่อนออกจากพ้นบริเวณมหาวิทยาลัย

“มีเพียงข้อความลงในข่าวของทุกสื่อเลยนะ แต่กลับไม่มีภาพการรับมอบตำแหน่งเหมือนทุกครั้ง ยังแปลกใจอยู่เลยว่าทำไมทายาทรุ่นนี้ถึงไม่ทำการเปิดตัวให้เห็นหน้าเลย” ฮารูนะพูดออกมาอย่างสงสัยหลังได้อ่านข่าวในอินเทอร์เน็ตไม่ต่างจากฮารุโตะที่หลังได้เห็นข่าวที่ไม่มีภาพตัวทายาทหรือภาพการมอบอำนาจยังแอบแปลกใจ

“ได้ยินมาว่าทายาทรุ่นที่ 12 เป็นลูกชายของอดีตทายาทรุ่นที่ 11 ที่เสียชีวิตไปด้วยนะ ไม่ใช่ลูกชายของหัวหน้าแก๊งคนปัจจุบันทั้งที่หัวหน้าแก๊งคนปัจจุบันก็มีลูกชาย แต่เธอกลับให้หลานชายที่เป็นลูกชายของพี่ชายที่เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้องขึ้นรับตำแหน่งทายาทแทน เพราะว่าไม่ได้เป็นทายาทโดยตรงจากหัวหน้าแก๊งหรือเปล่าถึงยังไม่เปิดเผยตัวตน” ข้อมูลของฮารูนะที่บอกกับน้องชายไปทำให้อีกฝ่ายถึงกับหันมามองอย่างไม่คิดว่าพี่สาวจะสนใจเรื่องพวกนี้แถมยังรู้ลึกกว่าเขาเสียอีก

“เคนอิจิ ไซโต ทายาทรุ่นที่ 12 อายุเพียง 20 ปี อัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์และเก่งเรื่องกีฬาแทบทุกประเภท เรียนจบปริญญาตรีด้านการบริหารด้วยอายุแค่เพียง 18 ปี เป็นลูกชายอีกคนของมาซารุ ไซโต ที่ไม่มีข้อมูลบอกว่าแม่คือใคร” ฮารูนะพูดข้อมูลของคนที่ตัวเธอได้ไปสืบประวัติมาด้วยตัวเองให้กับน้องชายฝาแฝดได้ฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ทำไมอยู่ๆ ถึงสนใจคนคนนี้ถึงกับได้ไปสืบประวัติมา” ฮารูนะเอ่ยถามพี่สาวฝาแฝดอย่างแปลกใจเพราะโดยปกติแล้วผู้เป็นพี่สาวไม่ค่อยสนใจใครนอกจากคนในครอบครัวและเบนนจิโร่เท่านั้น

“เพราะผู้ชายคนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับเบน...” ฮารูนะบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าเล็กน้อยเมื่อนึกถึงภูมิหลังของคนที่ตัวเองรัก