แต่เพียงเสี้ยววินาที หญิงสาวต้องย่นคิ้วอย่างแปลกใจ บั้นท้ายงดงามสัมผัสถึงการถูกฝ่ามือร้อนผ่าวตรงเข้ากดขยี้ แต่เพียงเสี้ยววินาที มือหนานั้นก็เปลี่ยนมาวางที่เอวเล็ก พยุงให้เธอทรงตัวเองได้แล้วดันเธอออกห่าง
“ถ้าคิดว่าขาของคุณรับงานหนักไหวก็ไปกันต่อ แต่ถ้าคิดว่ารับเจ้านายที่สั่งงานหนัก ต้องการงานคุณภาพไม่ได้ คุณมีสิทธิ์เปลี่ยนใจ ผมอนุญาตให้คุณกลับไปได้” สายตาเขาเร่าร้อนแทบจะแผดเผาเธอ
อย่างนี้ละมั้งเรียกว่าคนมีไฟ ใบหน้าขาวใสจิ้มลิ้มยิ้มเจื่อน
“ขอบคุณค่ะมิสเตอร์ ลาซอนติ ฉันจะตั้งใจทำงานให้สุดความสามารถ และขอบคุณมากที่เมื่อครู่ช่วยฉันเอาไว้”
“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย ต่อไปเราสองคนมีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน เพราะเราทำงานเป็นคู่” เขายิ้มให้เธอแล้วไล่สำรวจไปทั่วตัวคนที่ต้องติดตัวเขาไปชั่วระยะเวลาหนึ่งอย่างพอใจ
ถูกของเขา เธอต้องทำงานคู่กับเขา ยลรดาได้แอบต่อว่าความคิดชั่วร้ายและอคติของตัวเอง คุณเควินช่วยรับร่างเธอเอาไว้ไม่ให้ล้มลงกระแทกพื้น ยลรดารู้สึกละอายใจที่เธอกลับคิดร้ายกับเขา มีอคติกับเขาเพราะคิดว่าเขากลั่นแกล้งในระหว่างสอบสัมภาษณ์ แต่สุดท้ายเขากลับเลือกเธอมาทำงาน
เราต้องคิดบวกมากกว่านี้แล้วยลรดา หญิงสาวเตือนสติตัวเอง
เขาหันมาเร่งเธออีก “เอาละ ไม่เป็นอะไรแล้วก็รีบหน่อย เดี๋ยวจะเลต”
ยลรดาพยักหน้ารับคำ ได้ยินมาบ้างจากคุณลูก้าแล้ว ตอนเด็กๆ เจ้านายของเธอเคยมีอาการไฮเปอร์ในวัยเด็ก แต่เขาควบคุมอาการของโรคได้ดีจนแพทย์ระงับการใช้ยาไปแล้ว ถ้าเธอสนิทกับเขาเมื่อไรจะเตือนเขาเรื่องการดื่มกาแฟ เพราะสารคาเฟอีนในกาแฟมีผลต่ออาการของคนเคยเป็นโรคนี้
“ค่ะ ขอโทษที่ฉันขาสั้นไปหน่อยเลยเดินช้า ต่อไปนี้ ฉันจะรีบเดินตามคุณให้ทันค่ะ”
สายตาของเขาปราดมองขาเรียวก็ไม่สั้นมากแต่ก็ไม่ได้ยาวเหมือนพวกขานางแบบ แต่ความยาวเท่านี้ไม่มีปัญหา มุมปากของเขาหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเพียงนิดหน่อยแต่ที่จริงเกือบหัวเราะออกมา ที่คาดเดาไว้ไม่ผิด เนื้อยัยตัวเล็กนุ่มนิ่มยิ่งกว่าหมีตัวเมื่อคืน ร่างสูงหันหลังกลับไปเดินนำหน้าเธอมาถึงโซนที่นั่งซึ่งตกแต่งไว้อย่างตระการตา สมราคามูลค่าเครื่องบินส่วนตัวราคาสองร้ายกว่าล้านบาทที่เดินทางด้วยความเร็วมากกว่าห้าพันไมล์
เขานั่งลงไปแล้วกลางโซฟาหรูตัวยาว ส่วนเธอยืนเก้ๆ กังๆ เหมือนวางตัวไม่ถูก นิ้วชี้ของเจ้านายหนุ่มชี้ลงตรงพื้นที่ด้านข้างของเขา
“เธอนั่งตรงนี้ใกล้ๆ ฉันก็ได้เยลลี เครื่องใกล้จะเทกออฟแล้ว” แต่น้ำเสียงนั้นแฝงเป็นคำสั่งมากกว่าจะเปิดทางเลือกให้เธอ ซ้ำยังเรียกชื่อเล่นของเธอราวกับสนิทสนมกันแล้ว
ยลรดาสูดลมหายใจเหน็บหนาวกับสายตาคมกริบที่จ้องเขม็งมา เขาทำให้เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ เธอคงประหม่ากับการทำงานใกล้ชิดเจ้านายละมั้ง เด็กจบใหม่ไร้ประสบการณ์ก็เป็นแบบนี้ โชคดีที่เขายังมอบโอกาสให้ทำงานด้วย ไม่รู้ว่าเพราะความหล่ออย่างร้ายกาจของเจ้านาย หรือสัญชาตญาณบางอย่างที่พยายามเตือนทำให้เธอลังเลที่จะนั่งลงข้างๆ เขา จนกระทั่งสายตาทรงอำนาจและเสียงเข้มดังขึ้น
“ยืนงงอยู่ได้ นั่งลงข้างผมสิ”
ยลรดาสะดุ้ง เธอตกใจ อกสั่นขวัญแขวนไปหมด แผ่นหลังมีเหงื่อซึมออกมาบางๆ อย่างไม่รู้ตัว “ค่ะ มิสเตอร์ ลาซอนติ” แล้วรีบทรุดตัวลงนั่งข้างเขาอย่างงงๆ
“ต่อไปเรียกผมว่าเควิน”
ยลรดางุนงงอยู่ครู่ ก่อนจะรีบรับคำ กลัวจะถูกเขาดุเอาได้อีก “ค่ะ”
“เครื่องใกล้จะเทกออฟแล้ว”
เขารู้ว่าหญิงสาวคงไม่เคยขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ใบหน้าสวยมองสิ่งรอบตัวอย่างเงอะๆ งะๆ แล้วขยับมือกำลังจะหยิบเข็มขัดนิรภัย แต่ช้ากว่าแขนกำยำที่พาดผ่านหน้าท้องของเธอเพียงเสี้ยวนาทีซึ่งทำให้ความรู้สึกบางอย่างตีวนอยู่ที่หน้าท้องแบนเรียบไร้ไขมัน แค่เขาเข้าใกล้ กลิ่นน้ำหอมจากกายเขาก็ฟุ้งเข้ามา กระแสความร้อนประหลาดวิ่งแล่นไปทั่วร่างเมื่อเข็มขัดนิรภัยกำลังพาดผ่านร่างกายเธอไปอีกด้านหนึ่ง แล้วลงล็อกอย่างเข้าที่เข้าทาง
“ไม่ต้องกลัว ตอนเทกออฟ ก็อาจจะเสียวๆ หน่อย จากนั้นจะค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นเอง”
สีหน้าเขาแลดูราบเรียบเป็นปกติแต่กลับทำให้คนฟังรู้สึกเย็นไปทั้งกายเหมือนถูกโยนลงไปในธารน้ำแข็ง
สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาชนอาหรับลิเบีย
เครื่องบินส่วนตัวค่อยแล่นลงสนามบินกรุงตริโปลี ประเทศที่หลายคนอาจไม่รู้จักแต่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของทวีปแอฟริกา หลายปีก่อนหน้านี้ลิเบียกลายเป็นแดนมิคสัญญีที่มีการสู้รบระหว่างผู้นำที่มาจากการรัฐประหารกับประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการปกครอง แต่ลิเบียในวันนี้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
ตื่นเช้ามาวันใหม่ หญิงสาวรู้สึกสดชื่นเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพราะโรงแรมแห่งนี้อยู่ติดทะเล ที่นี่แตกต่างจากโรงแรมหรูในเมืองไทยเพราะแม้จะมีโรงแรมขนาดใหญ่ผุดขึ้นใกล้ทะเล แต่ทะเลแห่งนี้ยังเป็นเช่นเดิม เงียบสงบ ไม่มีเตียงผ้าใบ มีเพียงพื้นทรายกับพื้นน้ำสีฟ้าทอประกายวับวาว ไร้ร่มขนาดหลากสีที่กางอยู่เต็มหาดให้เกะกะสายตา
เธอไม่ค่อยรู้เรื่องของที่นี่มากนักเพราะการเดินทางอย่างฉุกละหุก ถึงจะสืบค้นข้อมูลมาบ้างแต่ก็มีหลายอย่างที่ยลรดาเริ่มรับรู้เมื่อมาถึง ชาวลิเบียใช้ไฟฟ้าฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า คู่แต่งงานใหม่จะได้รับเงินจากรัฐบาลเป็นเงินถึงหกหมื่นดีนาร์ลิเบียหรือราวๆ หนึ่งล้านห้าแสนบาทเป็นของขวัญจากรัฐบาลเพื่อการซื้อบ้านหลังแรก ถือว่าเป็นการเริ่มต้นครอบครัวใหม่
“ว้าว! เยี่ยมมาก” หญิงสาวยิ้มขอบคุณให้พนักงานหนุ่มหน้าตาจัดว่าดีมาก หล่อคร้ามคมในชุดพนักงานของโรงแรม ที่พยายามพรีเซนต์สิ่งดีๆ ในประเทศของตนให้ลูกค้าสาวสวยที่กำลังยืนมองภาพวาดสีน้ำมันฝีมือของศิลปินชื่อดังชาวลิเบีย
เขากำลังจะเล่าต่อไปอีกเพราะลูกค้าสาวชาวเอเชียดูน่ารักและแสดงไมตรีด้วยรอยยิ้มพร้อมซักถามอีกหลายอย่าง แล้วที่สำคัญ ใบหน้าหวานของลูกค้าสาวเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มอยากจะเล่าทุกอย่างที่เจ้าของรอยยิ้มสวยถามเขา
ทว่าเสียงห้าวจัดเรียกหญิงสาวที่แต่งกายรัดกุมเตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน “จะไปกันได้หรือยัง”
หญิงสาวรีบพยักหน้าแล้วรีบเดินเข้ามาหาคนหน้าหล่อแต่ท่าทางเหมือนมีเรื่องหงุดหงิดใจ “ค่ะ ฉันพร้อมเสมอสำหรับเจ้านาย”
“จริงเหรอ พร้อมเสมอสำหรับผม แน่ใจนะที่พูด” เขายิ้มออกเมื่อได้รับคำตอบ
หญิงสาวฉีกยิ้มสดใส เห็นฟันขาวเรียงตัวสวยประดุจไข่มุก “จริงสิคะ เมื่อคืนได้พักเต็มที่ วันนี้ฉันพร้อมสำหรับการทำงานมากค่ะคุณเควิน”
“งั้นดี วันนี้งานหนักแน่” เสียงทุ้มต่ำที่จ้องเขม็งแฝงไว้ด้วยไฟร้อนที่ซ่อนอยู่ในดวงตาแวบหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินนำหน้าไปขึ้นรถคันหรูที่ลูก้ายืนคอยแล้วรีบเปิดประตูผายมือให้ ชายหนุ่มเข้าไปนั่งตัวตรง หญิงสาวรีบเข้าไปนั่งข้างเขา
“คืนนี้เราจะไม่ค้างที่โรงแรมนี้ ทุกอย่างของเธอจะมีคนจัดเก็บและนำไปให้”
แขนเรียวที่เบียดกับแขนกำยำที่มีเสื้อสูทจากห้องเสื้อดังขวางไว้ รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นอย่างประหลาดเมื่อรู้สึกว่ามือร้อนผ่าวกระชับแขนเธอเอาไว้ “คืนนี้จะพาไปพักที่ที่เธอจะขอร้องให้ฉันพาไปอีก”
ดวงตาซุกซนกวาดมองร่างน่ากอด เป็นจังหวะเดียวที่รถของเขาถูกรถคันหนึ่งตัดหน้า ลูก้าจึงเบรกอย่างแรง