วายุตรวจร่างกายของซีนอย่างละเอียดโดยที่มีแก้มใสตามติดไม่ห่างก่อนที่เขาจะส่งซีนไปเอกซเรย์ตรวจเช็กภายในร่างกายว่ามีส่วนไหนแตกหักหรือเปล่า เพราะสภาพของเด็กหนุ่มค่อนข้างบอบช้ำทีเดียว
“มือเรามีแผลนี่” หลังจากที่ตรวจซีนเสร็จแล้ววายุก็หันมาเห็นมือบอบบางของแก้มใสที่มีแผลเลือดแตกซิบ ๆ เล็กน้อย ส่วนแก้มใสเมื่อมองไปที่มือก็แค่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ แก้มใสชินแล้วตีกับผู้ชายบ่อยแผลแค่นี้ไกลหัวใจ”
บอกวายุด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อได้ยินแบบนั้นคิ้วเข้มถึงกับขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ ลูกสาวท่านประธานนี่ห้าวตีนไม่เบาแฮะ จากที่เจอกันวันนั้นที่สนามแข่งรถแล้วสู้เก่งไม่เบา ดูจากท่ากระทืบคนแล้วน่าจะมือหนักเท้าหนักไม่ใช่เล่น
“แต่พี่หมอเป็นค่ะ” บอกสาวน้อยตรงหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง ต่างกับแก้มใสที่พอได้ฟังประโยคนี้แล้วก็นึกไปถึงประโยคเดียวกันก่อนหน้านี้ที่พี่หมอวายุเคยพูดที่สนามแข่ง
“เป็นอีกแล้ว อยากเป็นแฟนกับแก้มใสเหรอคะ” แซววายุด้วยสายตาที่แพรวพราวตามแบบฉบับของสาวขี้เล่นก่อนที่วายุจะก้มหน้าลงมาใกล้ ๆ จนชิดแก้มเนียนใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เมื่อพี่หมอก้มหน้ามาจนชิดแก้มสีแดงเป็นลูกเชอร์รีของเธอ
ดวงตาคู่สวยของพี่หมอราวกับมีมนต์สะกด แก้มใสเผลอมองหน้าหล่อตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลงไหล หน้าพี่หมอเนียนใสไร้สิวไร้ริ้วรอย เนียนจนผู้หญิงแบบเธอยังอาย เครื่องหน้าพี่หมอเป๊ะไปหมดยิ่งมองยิ่งหล่อ ยิ่งมองยิ่งชอบ ยิ่งมองยิ่งอยากได้มาเป็นแฟน เดินกลับไปบอกพ่อขาให้มาขอจองไว้ก่อนได้ไหมนะ แก้มใสอยากได้คนนี้เป็นพ่อของลูกค่ะ
เปาะ!!
เสียงดีดนิ้วข้าง ๆ ใบหูเล็กเหมือนเรียกสติของแก้มใสให้กลับคืนมาก่อนที่วายุจะยิ้ม ยิ้มที่ทำให้หัวใจของแก้มใสเต้นตึกตักราวกับจะกระเด็นออกมานอกอก
“พี่ว่าเรามากกว่านะที่อยากเป็นแฟนพี่ หึ” กระซิบเสียงเบาข้างใบหูเล็กก่อนที่จะผละออกมาแล้วจูงมือบางให้เดินตามเขามาที่เตียงคนไข้ที่ว่าง มือใหญ่อุ้มร่างบางให้ขึ้นไปนั่งบนเตียงอย่างง่ายดายทำเอาแก้มใสถึงกับตกใจที่พี่หมออุ้มเธอขึ้นมานั่งบนเตียงโดยไม่บอกไม่กล่าว
“มาค่ะพี่หมอทำแผลให้” บอกแก้มใสก่อนที่จะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาวางไว้ข้าง ๆ แก้มใส แล้วค่อย ๆ ลงมือทำแผลให้น้องอย่างเบามือเพราะกลัวสาวน้อยจะเจ็บและแสบแผล
แต่แก้มใสกลับนั่งเงียบเหมือนคนที่ไม่รู้สึกอะไร เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอแผลแค่นี้มันไม่ได้ทำให้เธอต้องเจ็บถึงกับต้องร้องออกมาหรอกนะ สวยสตรองกว่าใครก็แก้มใสลูกสาวหมอกฤษฎิ์นี่แหละค่ะ พ่อขาเทรนด์มาดี อิอิ
“อะ เสร็จเรียบร้อย” เมื่อพันแผลให้แก้มใสเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยมือบางลงก่อนที่จะเก็บอุปกรณ์ทำแผลไว้ที่เดิม แล้วเดินกลับมานั่งลงตรงหน้าแก้มใสที่ก้มหน้าลงมาแล้วกระพริบตามองพี่หมอปริบ ๆ อย่างอ้อน ๆ
“พี่หมอมีแฟนหรือยังคะ” คำถามที่ตรงประเด็นไม่อ้อมค้อมของแก้มใสทำให้วายุถึงกับเสียอาการไปเล็กน้อย เอาอีกแล้วบทจะรุกก็รุกแบบที่เขาไม่ทันตั้งตัวทุกครั้งเลยนะแก้มใส
“ถามแบบนี้อยากรู้หรืออยากมาเป็นแฟนพี่กันล่ะ หืม” ถามแก้มใสกลับคืนเสียงนุ่มหวานก่อนที่แก้มใสจะยิ้มกว้างโชว์ลักยิ้มสวยให้แล้วตอบวายุแบบไม่คิดจะปิดบังเลยสักนิด เธอชอบพี่หมอ ชอบมากและเธอจะคว้ารอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของพี่หมอมาเป็นของเธอคนเดียวให้ได้
“อยากรู้แล้วก็อยากเป็นแฟนพี่หมอด้วยค่ะ” แก้มใสตอบไปตามความรู้สึกที่เธอมีให้วายุ ส่วนวายุถึงกับอึ้งชะงักไปเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาจะตอบกลับด้วยประโยคที่ทำให้เขารู้สึกกลัว
หลังจากวันนั้นคำขอร้องของเขาที่มีต่อพระเจ้าไม่เป็นผลเลยสักนิด เพราะวันนี้เขากลับมาเจอกับแก้มใสอีกครั้งแบบไม่คาดฝัน โชคชะตาช่างเล่นตลกกับเขาเสียจริง ๆ ผู้ชายอันตรายแบบเขาไม่สมควรมีความรักหรอก
โลกสีดำที่เขาอยู่ไม่เหมาะที่จะดึงสาวน้อยที่มีชีวิตที่สดใสแบบเธอมาอยู่ด้วยนะหรอกวายุ ย้ำกับตัวเองในใจก่อนที่จะเงยหน้ามองสบตากับแก้มใสเล็กน้อย ดวงตาสะท้อนความเจ็บปวดออกมาแค่เพียงแวบเดียวก่อนที่จะปรับสีหน้าให้เป็นพี่หมอที่แสนอบอุ่นเหมือนเดิม
“อย่ามารักผู้ชายแบบพี่เลยค่ะ ผู้ชายแบบพี่ไม่คู่ควรกับรอยยิ้มที่สดใสของเราหรอก” ข่มกลั้นความเจ็บปวดลึก ๆ ในใจเอาไว้ก่อนที่จะบอกแก้มใสเสียงเบาหวิวจนแทบกระซิบ ส่วนหญิงสาวเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ไม่เข้าใจว่าพี่หมอไม่ดีตรงไหนทำไมเธอจะชอบและ รัก พี่หมอไม่ได้
“แล้วผู้ชายแบบไหนเหรอคะ ที่คู่ควรกับรอยยิ้มที่สดใสของแก้มใสถ้าไม่ใช่ผู้ชายที่มีรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนแบบพี่หมอ” จับมือพี่หมอที่เตรียมตัวเดินจากไปพร้อมกับตั้งคำถามกับพี่หมอทันที วายุค่อย ๆ หันหน้ากลับมาช้า ๆ ก่อนที่จะตอบแก้มใสด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มคงความอ่อนโยนเหมือนเดิม
“ถ้าอยากรู้คำตอบพี่ว่าแก้มใสคงต้องหาคำตอบเองแล้วแหละ” พูดจบก็ยิ้มส่งท้ายให้แก้มใสก่อนจะเดินจากมาทันที ส่วนแก้มใสได้แต่มองตามพี่หมอวายุไปด้วยความมุ่งมั่น
คำตอบของแก้มใสก็คือพี่หมอนั่นแหละค่ะ ยิ่งบอกว่าห้ามรักแก้มใสยิ่งอยากที่จะรัก คนอย่างแก้มใสไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ หรอกถ้าได้ลองชอบแล้วแก้มใสไม่มีทางถอดใจแน่นอน จะขึ้นเขาหรือลงห้วยไปท่องสวรรค์หรือลงนรกแก้มใสคนนี้จะตามติดพี่หมอไปทุก ๆ ที่เลยคอยดู
คิดในใจด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจว่าอย่างไรก็ต้องจีบพี่หมอมาเป็นลูกเขยของพ่อขาให้ได้
แต่เอ๊ะ!! หรือจะให้พี่ชินกับพี่เรียวพาไปดักตีหัวแล้วฉุดกลางทางเสียเลยดีไหมนี่ถ้าเล่นตัวดีนัก!! เดี๋ยวรู้กันเลย
O_O
“นอนพักอีกสักสองสามวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะครับคุณยาย” ช่วงเย็นวายุมาเดินตรวจคนไข้ในความดูแลของเขาก่อนที่จะทักทายคนไข้ด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ สำหรับคนไข้ที่คุณหมอหนุ่มหล่อมาตรวจเยี่ยมและอวยพรให้พวกตนรีบหายไว ๆ
“ยายยังไม่อยากหายเลย ถ้าหายแล้วคงไม่ได้เจอหน้าคุณหมอคนหล่ออีกแน่นอน” คุณยายบอกคุณหมอด้วยน้ำเสียงอ้อน ๆ คุณหมอรูปหล่อตรงหน้าดูแลเธอดีมากทำเอาเสียเธอไม่อยากออกจากโรงพยาบาลเลย
“ไม่หายไม่ได้นะครับ ลูก ๆ หลาน ๆ รอคุณยายกลับบ้านอยู่” วายุจับมือคุณยายด้วยความอบอุ่นก่อนที่คุณยายจะยิ้มออกมาด้วยความสุขใจที่เลือกโรงพยาบาลนี้ และได้เจอคุณหมอที่ดูแลเอาใจใส่คนไข้แบบเธออย่างดีเสมอมา
“วันนี้ทานข้าวให้หมดนะครับ จะได้หายไว ๆ” วายุบอกคนไข้สาวน้อยวัย 15 ปี ที่ยิ้มด้วยความดีใจเมื่อพี่หมอสุดหล่อมาเยี่ยมดูอาการของเธอ พี่หมอหล่อมากเธอชอบ
“รับทราบค่ะพี่หมอ พี่หมอมีแฟนหรือยังคะ” พลอยรินถามพี่หมอด้วยแววตาเป็นประกาย ส่วนวายุถึงกับหลุดยิ้มออกมาเมื่อเจอคำถามที่เขามักจะถูกคนไข้ทั้งเด็กสาว เด็กวัยรุ่น หรือกระทั่งสาว ๆ วัยกลางคนยันวัยใกล้ฝั่งถามมาทั้งวัน
“พี่หมอโสดครับ ยังไม่มีแฟน” ตอบพลอยรินด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะบีบมือบางของพลอยรินอย่างให้กำลังใจสาวน้อยที่ป่วยแล้วต้องหยุดเรียนมานอนรักษาที่โรงพยาบาลได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว
“งั้นหนูขอจีบพี่หมอนะคะ” เด็กสาวบอกพี่หมอสุดหล่อด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างดีใจกับคำตอบที่ได้รับ ทำเอาแก้มใสที่มาแอบดูพี่หมออยู่หลังม่านเตียงข้าง ๆ ถึงกับมองจ้องเด็กสาวด้วยความหมั่นไส้ปนอิจฉาที่เด็กสาวได้จับมือพี่หมอ เธอก็อยากจับอีกนะอยากจับตลอดชีวิตไปเลย
“งั้นเดี๋ยวพี่หมอจะแวะมาให้พลอยรินจีบทุกวันนะครับ แต่ต้องรีบหายไว ๆ ด้วยนะ” บอกพลอยรินที่ยิ้มจนตาหยีก่อนที่สาวน้อยจะพยักหน้ารับด้วยความดีใจ วายุจึงค่อย ๆ ดึงมือออกด้วยความสุภาพและเดินไปตรวจคนไข้เตียงต่อไปทันที
“ทีคนอื่นล่ะทั้งอ่อยทั้งอ้อย ทีเราล่ะห้ามไม่ให้รัก ชิชิ พี่หมอบ้าคอยดูนะแม่จะอ่อยจะอ้อยให้รถอ้อยคว่ำเลย” มองตามหลังพี่หมอไปด้วยความหมายมาดก่อนที่กลับไปดูซีนที่ผลซีทีสแกนไม่เป็นอะไรมาก แต่ต้องนอนรักษาอาการบอบช้ำวันสองวันถึงจะได้กลับบ้าน
“ไม่เป็นอะไรมากแล้วนะซีน นอนพักรักษาตัวสองสามวันก็หาย” แก้มใสบอกซีนที่นอนอยู่บนเตียงที่ศีรษะมีผ้าพันแผลพันเอาไว้ หน้าตาหล่อเหลาของซีนมีแววกังวลเล็กน้อย เพราะเขายังไม่ได้โทรไปบอกแม่เลยว่าเขาเข้าโรงพยาบาล
“ทำไมทำหน้างั้นอะ ไม่ปางตายนี่ดีแล้วนะโดนรุมตื้บขนาดนี้” มองหน้าซีนด้วยความสงสัยก่อนที่จะเดินไปหาซีนแล้วป้อนส้มเข้าปากเพื่อนโดยที่ซีนยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักนิด แต่ก็ยอมรับส้มเข้าปากโดยดี เพราะแววตาที่ส่งมาประมาณว่าถ้าไม่อ้าปากกินนี่มีเจ็บตัวนะ
รักชีวิตอย่าคิดขัดขืนผู้หญิงคนนี้
“พอดีเรายังไม่ได้โทรบอกแม่เลยว่าเราเข้าโรงพยาบาล เอ่อ คือ อีกอย่างคือ”
อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่กล้าพูดออกมาจนแก้มใสต้องจ้องหน้าซีนอย่างคาดคั้น ซีนจึงรีบพูดออกมา เพราะกลัวโดนแก้มใสดุ ห้าว ๆ แบบนี้พลังการทำลายล้างสูงมาก ทั้งแววตาทั้งน้ำเสียงไม่รวมท่าฟาดหางกับมือเล็กที่ต่อยจนผู้ชายล้มอีกนะ
“เราไม่อยากให้แม่เราไม่สบายใจอะว่าเราโดนกระทืบจนเข้าโรงพยาบาล เรากลัวแม่เราตกใจ”
บอกแก้มใสไปตามความจริงก่อนที่แก้มใสจะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจซีน เพราะถ้าเป็นเธอก็ไม่อยากบอกแม่ขาเหมือนกันว่าเธอไปกระทืบคนมาเดี๋ยวแม่ขาจะถือไม้เรียวรอฟาดเธอแน่นอน ถึงจะโตแค่ไหนแต่ไม้เรียวแม่ขายังรอฟาดเธอเสมอนะเออ
“เดี๋ยวเราเคลียร์ให้เอง เอาโทรศัพท์มาดิ” ยัดส้มสี่ชิ้นเข้าปากซีนที่อ้าปากรับแทบไม่ทันก่อนที่ซีนจะหยิบโทรศัพท์ในลิ้นชักข้าง ๆ เตียงส่งให้แก้มใส แก้มใสจัดการโทรไปบอกแม่ของซีนให้จนแม่ของอีกฝ่ายเชื่อใจและฝากให้เธอดูแลซีนด้วย เรื่องตีคนเธอก็ถนัดแต่เรื่องแถนี่ก็งานถนัดของเธอเช่นกัน เพราะเธอแถพ่อขาบ่อย อิอิ
“เรียบร้อย แม่เธอฝากบอกเราดูแลเธอให้ดี ๆ ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลเธอไม่ต้องห่วง ถ้าไม่มีเงินเดี๋ยวเราจ่ายให้เอง ที่นี่โรง’บาลพ่อเราเอง” บอกซีนที่ทำหน้าตกใจทันทีที่แก้มใสบอกตัวเองด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด
“เอ่อ ไม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวเราออกเอง” รีบปฏิเสธแก้มใสด้วยความกรงใจ แต่พอแก้มใสบอกค่ารักษาออกมาซีนถึงกับอ้าปากค้างตกใจหนักยิ่งไปกว่าเดิมอีก เพราะมันเกินเงินในบัญชีเขาไปเยอะเลย
“คืนละหมื่นสองสองคืนก็สองหมื่นสี่ยังไม่รวมค่านั่นนู่นนี่อีก อยากจ่ายเองก็ตามใจเราเอาที่เธอสบายใจ” ในเมื่ออยากช่วยแล้วยังอยากจ่ายเองแก้มใสก็ตามใจ ไม่ติด ไม่ขัด เอาที่ซีนสบายใจเลยจ้าาาาา
“ทะ ทำไมมันแพงแบบนี้” ถามแก้มใสด้วยความตกใจไม่หาย ส่วนแก้มใสหันมามองซีนก่อนจะยิ้มออกมาขำ ๆ
“นี่มันโรง’บาลเอกชนนะตัวเธอ ก็บอกแล้วไงจ่ายไม่ไหวเดี๋ยวเจ้จ่ายเอง” บอกซีนยิ้ม ๆ ก่อนจะตบไปที่กระเป๋าสะพายข้างที่ตัวเองสะพายอยู่อย่างใจป้ำ ส่วนซีนตอนนี้นั่งหงอยอย่างน่าสงสาร ค่ารักษาเยอะขนาดนี้เขาไม่มีปัญญาจ่ายหรอก
“เอาหน่า เดี๋ยวเราจ่ายให้เอง แค่นี้พ่อเราไม่ล้มละลายหรอก เราเพื่อนกันนี่นา” เดินมาตบบ่าซีนอย่างปลอบใจ แต่แรงตบของแก้มใสทำเอาซีนถึงกับซี้ดออกมาด้วยความเจ็บ เพราะเขามีรอยช้ำที่ไหล่
“อุ้ย ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ แหะ แหะ” ชักมือออกอย่างไวก่อนจะกล่าวขอโทษ เพราะมือเธอหนักและลืมไปว่าซีนกำลังเจ็บอยู่
“เราไปเป็นเพื่อนกันตอนไหนอะ เราเพิ่งรู้จักเธอเองนะ” ซีนเงยหน้าถามแก้มใสอย่าง-งง ๆ เมื่อแก้มใสบอกว่าเขากับเธอเป็นเพื่อนกัน
“ก็ตอนนี้ไง เราแก้มใสนะวิศวะคอมปีสอง” แนะนำตัวเองให้ซีนรู้จักก่อนจะยื่นมือข้างที่ไม่เจ็บไปหาซีน ซีนยกมือใหญ่ของตัวเองขึ้นมาจับกับแก้มใสเบา ๆ ก่อนที่จะแนะนำตัวเองบ้าง
“เราซีน วิศวะเครื่องกลปีสอง ยินดีที่ได้รู้จัก” แนะนำตัวเองก่อนที่ทั้งสองหนุ่มสาวจะยิ้มให้แก่กันและกันอย่างเป็นมิตร แก้มใสนั้นรู้สึกยินดีที่มีเพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน ส่วนซีนก็รู้สึกดีใจที่ได้รู้จักและมีเพื่อนที่ดีอย่างแก้มใส โดยที่ไม่รู้เลยว่าการเป็นเพื่อนกับแก้มใสจะทำให้ซีนแทบเอาชีวิตไม่รอดในอนาคต