“เป็นยังไงบ้างสิงห์ ...มีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย” ประมุขของบ้านอย่างไตรเอ่ยถามทั้งๆที่เขาไม่ได้เงยหน้ามองด้วยซ้ำว่าคนที่เข้ามาจะเป็นสิงห์จริงๆหรือเปล่า
แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เขาเดาผิดเพราะคนที่เข้ามาก็เป็นสิงห์จริงๆและเขาก็มาพร้อมกับข่าวที่น่าสนุก
...สนุกสำหรับตัวเอง
“มีสิครับ ? แต่คงไม่บอกพ่อตอนนี้”
สิงห์พูดอย่างอารมณ์ดีเหมือนพยายามจะยั่วโมโหผู้เป็นพ่อแต่เขาคงคิดผิดว่าชายสูงวัยคนนี้จะเล่นไปตามเกมส์ที่เขาวางไว้
“ก็ดี ...ถ้าไม่อยากบอกฉันก็ไม่อยากรู้
ไสหัวแกออกไปจากบ้านได้แล้ว” สิงห์หุบยิ้มแล้วทำหน้าบึ้ง
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือคนที่ไม่ยอมวิ่งเต้นตามเกมส์ที่เขาวางไว้เพราะมันทำให้เขาหมดอำนาจต่อรองไปในทันที
“ยังยืนจ้องหน้าฉันอยู่ทำไม ไปสิ”
สิงห์เดินหุนหันออกจากบ้านไปด้วยความหงุดหงิดส่วนผู้เป็นพ่อน่ะเหรอ
...ยิ้มด้วยความพอใจกับเกมส์ที่ตัวเองเริ่มไว้ได้อย่างสวยงาม
เขาเป็นพ่อทำไมจะไม่รู้นิสัยของลูกแต่คน เสือและสิงห์มีหน้าที่เหมือนกันก็จริงแต่นิสัยต่างกันสุดขั้ว
ส่วนกระทิงรายนั้นก็ร้ายพอๆกัน ไม่มีใครที่นิสัยคล้ายกันเลยแม้แต่คนเดียว
“นายท่านจะปล่อยไปแบบนี้เหรอครับ” เขาโบกมือห้ามไม่ให้ลูกน้องตามสิงห์กลับมา เรื่องอะไรจะไปช่วยเหยื่อที่กำลังเข้าไปในเกมส์ของตัวเองกันล่ะ
“เรื่องมันก็จะสนุกขึ้นเรื่อยๆแบบนี้แหละ ...นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้นต่อจากนี้ความสนุกยังมีอีกเพียบ”
“หลับอะไรลึกขนาดนี้เนี่ย ...ถ้าโดนจับปล้ำขึ้นมาจะรู้มั้ยว่าตัวเองโดนปล้ำไปแล้ว”
เขาวนหาร้านอาหารอยู่หลายร้านมากแต่ไม่มีร้านไหนเลยที่จะน่ากิน
อยากจะให้ม่านแก้วเป็นคนเลือกแต่เจ้าตัวก็เอาแต่นอนอืดเป็นลูกหมู
...จนสุดท้ายเขาต้องวนรถกลับมาจอดที่หอพักของเธอแล้วปลุกให้เธอตื่น
“ตื่นได้แล้วยัยขี้เซา” ร่างเล็กขยี้ตาก่อนจะมองไปรอบๆพอเห็นว่าเป็นหอพักตัวเองก็หันมาทำหน้าตั้งคำถามกับคุณหมอ
“ก็ไม่รู้จะเลือกกินร้านอะไรเลยพาขับวนมาที่นี่”
เขาพูดกับเธอไปด้วยความสัตย์จริงเพราะตอนที่ขับรถอยู่ก็คิดวนอยู่หลายรอบว่าเธอจะชอบของที่เขาอยากกินหรือเปล่า
ส่วนร้านที่เธอเคยพาไปกินก็ดันหยุดวันนี้ซะอีกเขาเลยคิดไม่ออกแล้ว
“แล้วคุณหมออยากทานอะไรคะ” อยู่ๆเขาก็คิดถึงข้าวผัดวันนั้นขึ้นมาเฉยเลยรสชาติมันดีมากซะจนเขาอยากจะกินมันอีกรอบนึง
“ข้าวผัดฝีมือเธอ ...เดี๋ยวเราไปซื้อของกันส่วนตอนนี้เธอต้องไปเปลี่ยนชุดก่อน
ไปสิ” ทำไมถึงต้องอยากกินข้าวผัดฝีมือเธอด้วยล่ะ
รสชาติธรรมดาจะตายไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลยแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ขัดเขาไม่ได้
ก็ดูตาเขาสิ มองมาจนแทบจะกินหัวเธออยู่แล้วขืนเธอปฏิเสธไปก็โดนกินหัวแน่ๆ
“ละ แล้วคุณหมอเดินตามแก้วเข้ามาข้างในทำไมคะเนี่ย”
“ฉันก็จะเปลี่ยนเสื้อเหมือนกันให้ไปซื้อของในสภาพเลือดเลอะเต็มเสื้อแบบนี้
คนอื่นคงแจ้งตำรวจให้มาจับฉันแน่ๆ” ไม่พูดเปล่าเขาถอดเสื้อออกโชว์หน้าท้องแน่นต่อหน้าเธออีก
...โอ๊ย หัวใจจะวายแล้ว
“มองค้างเลย ...หุ่นฉันดีใช่มั้ยล่ะ”
เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเธอต้องหลบสายตา ตอนนี้ม่านแก้วไม่สามารถขยับตัวได้เลยเพราะกลัวว่าจะไปถูกตัวของเขาเข้า
“มะ ไม่ใช่สักหน่อย ...ห้องน้ำอยู่ตรงนู้นค่ะทำไมไม่เข้าไปเปลี่ยนข้างใน”
เธอพูดไว้แค่นั้นก่อนจะรีบวิ่งขึ้นห้องไปทิ้งให้เขายืนอมยิ้มกับแผนที่แกล้งเธอได้สำเร็จ
“เขินแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนึงนะ”
“เอาอันนี้ด้วยสิ ผักไม่ต้องเอาเยอะก็ได้แก้วฉันไม่ชอบกินผัก”
คนตัวโตเริ่มงอแงเพราะเห็นว่าเธอหยิบแต่ของที่เขาไม่ชอบกิน
เขาคือเสือนะ! ต้องกินเนื้อสัตว์สิจะให้มากินผักพวกนี้อ่ะนะไม่ไหวมั้ง
“ได้ยังไงล่ะคะ ของพวกนี้มีประโยชน์ทั้งนั้นคุณหมอต้องฝึกกินนะคะ”
เธอค่อนข้างแปลกใจกับเขาอยู่นิดๆเพราะเขาออกจะสมบูรณ์แบบไปทุกอย่างแต่ดันไม่ชอบกินผักเนี่ยนะ
ไหนจะยังการแสดงความไม่พอใจออกทางสีหน้านี่อีก
ไม่เห็นจะเหมือนตอนที่อยู่โรงพยาบาลเลย
“เพราะมันไม่อร่อยไงเลยไม่อยากฝึก ...แล้วเธอจะเอาอะไรอีกมั้ย” เธอส่ายหน้าแล้วเดินตามหลังเขาไปแต่เสือก็ดึงแขนของร่างบางให้มาเดินเคียงข้างก่อนจะเลื่อนมือไปกุมมือเธอไว้
“คะ คุณหมอ ...จับมือแก้วทำไม”
“ก็เธอเดินช้าแถมยังตัวเล็ก ...ถ้าทำหายไปฉันก็แย่น่ะสิ ?” โอ้พระเจ้า
เขายิ้มออกมาวันนี้ไม่รู้กี่รอบแล้วแถมยังทำให้เธอใจเต้นแรงอีก
ถ้าเธอตายไปเพราะรอยยิ้มเขาทุกคนคงขำกันตายแน่
“อะ เอ่อ ไปจ่ายเงินดีกว่าค่ะ
...คุณหมอ!” เขารั้งแขนเธอเอาไว้ก่อนจะจับมือเดินไปพร้อมกัน
คนรอบข้างที่มาซื้อของก็มองทั้งคู่อย่างเอ็นดูเพราะต่างคิดว่าเป็นคู่รักกัน
“นั่งเงียบตลอดทางเลย โกรธฉันเหรอ”
เขาสังเกตุเธอทั้งแต่ตอนจ่ายเงินแล้วว่าม่านแก้วดูเงียบๆไปจนเขาเองก็เริ่มใจเสียนิดหน่อยเพราะกลัวทำให้เธอโกรธ
“เปล่าหรอกค่ะ แก้วจะไปโกรธคุณหมอได้ยังไงกัน”
เธอพูดเสียงอ่อย
“โกรธได้สิ แก้วมีสิทธิ์โกรธฉันตามที่อยากทำเลย”
ม่านแก้วหันไปจ้องเขาก่อนจะหลบสายตาคมอีกรอบ สาเหตุที่เธอนั่งเงียบตลอดทางไม่ใช่เพราะโกรธเขาแต่เป็นเพราะเธอกำลังข่มใจตัวเองให้ไม่เต้นแรงไปมากกว่านี้ต่างหาก
“ถึงแล้วค่ะ แก้วลงไปเตรียมของก่อนนะคะ”
ถึงจะมั่นใจว่าเธอไม่ได้โกรธแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแอบหวั่นๆที่เธอยังนิ่งกับอาการของเขาขนาดนี้
เด็กบ้านี่เขาแสดงออกมากขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ตัวอีก
...บางทีการที่เขาได้มีใครสักคนมันก็น่าจะดี
และคนคนนั้นเขาก็ได้เลือกไว้แล้วด้วย
“ม่านแก้ว หยุดใจเต้นเดี๋ยวนี้เลยนะเขาแค่พูดเพราะไม่อยากให้เธอคิดมากเท่านั้นเอง”
ทันทีที่พ้นสายตาของเขาม่านแก้วก็ตบแก้วตัวเองเพื่อเรียกสติให้กลับมา
เขาทั้งเก่ง หล่อ
แถมยังมีพร้อมทุกๆอย่างเขาจะมาชอบเธอได้ยังไงกัน
เลิกเพ้อได้แล้วนะม่านแก้ว
“แค่เขามาทำดีด้วยก็อย่าไปคิดเองสิว่าเขาชอบเธอ”
นั่นสินะ คนอย่างเขาน่ะเหรอจะมาชอบเธอ
ฝันไปไกลแล้วม่านแก้ว
“อร่อยอ่ะ อยากกินแบบนี้ทุกวันเลยไม่รู้จะได้กินหรือเปล่า”
เสือส่งสายตาสื่อความหมายให้กับเธอแต่เธอเลือกที่จะหลบตาเขาเนี่ยนะ!
ให้ตายเหอะยัยตัวเล็กไม่เคยมีคนมาจีบหรือไงกัน
“ถ้าคุณหมออยากกินเดี๋ยวแก้วทำไปให้ที่โรงพยาบาลก็ได้ค่ะ
...ปกติแก้วก็ห่อข้าวไปกินอยู่แล้ว” ถ้าเขาอยากกินการที่เธอจะทำเพิ่มอีกกล่องคงปัญหาเท่าไหร่หรอก
“เธอพูดเองนะว่าจะทำให้ฉันน่ะ”
“ค่ะ ถ้าวันไหนคุณหมออยากกินเดี๋ยวแก้วทำไปให้ค่ะ”
ม่านแก้วตอบก่อนจะก้มตากินข้าวที่อยู่ในจานต่อ
“แล้วถ้าอยากกินทุกวันล่ะ อยากกินทุกมื้อ
อยากกินไปจนแก่เลย ...เธอจะทำให้ฉันกินมั้ย?” คำพูดของเขาทำเธอแทบจะสำลักข้าวที่อยู่ในปากแถมพอเงยหน้ามาเจอกับสายตาของเขาอีกก็แทบจะไปไม่เป็นเลย
“คะ? ...คุณหมออย่าล้อแก้วเล่นเลยค่ะ”
“ใครบอกว่าฉันล้อเล่น ...ฉันพูดจริงนะม่านแก้ว
แล้วต่อไปเลิกเรียกฉันว่าหมอใหญ่ให้เรียกฉันว่าเสือได้แล้ว”
เสือเป็นชื่อที่เขาอนุญาตให้ครอบครัวเรียกเขาเท่านั้นคนอื่นไม่มีสิทธิ์
...แต่สำหรับม่านแก้วแล้วคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาหรอกเพราะเขาก็อยากให้เธอเรียกเหมือนกัน
“ถ้าเธอไม่ตอบฉันจะถือว่าเธอตกลงแล้วนะและต่อให้เธอปฏิเสธฉันก็มีวิธีที่จะบังคับเธออยู่ดี”
คำถามอะไรของเขากันเนี่ยยังไงคำตอบมันก็คือต้องตกลงไม่ใช่เหรอ
“แล้วแก้วจะตอบอะไรได้ล่ะคะ ในเมื่อคุณหมอดักทางไว้ซะหมดแบบนี้”
เสือนั่งเท้าคางกินข้าวอย่างพอใจจนคนที่เขินต้องเปลี่ยนเป็นร่างบางที่นั่งตรงข้ามซะเอง
โอ๊ย หัวใจเธอจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆแล้วนะ
“เริ่มจากพรุ่งนี้เลยแล้วกันฉันจะมากินข้าวเช้าที่นี่”
“คุณหมอ! มาทำไมแต่เช้าคะเนี่ย”
เขาทำตามที่พูดจริงๆและนี่ไม่ใช่เช้าแรกที่เขามากินข้าวกับเธอแต่เป็นเช้าที่ห้าแล้ว
แถมตอนเที่ยงคุณหมอจอมดื้อคนนี้ยังไปตามป่วนเธอถึงห้องพักพยาบาลอีก
จนใครๆก็ต่างเข้าใจว่าเธอกับเขากำลังมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างต่อกัน
...แต่ความจริงมันไม่ใช่
“มากินข้าวกับเธอไง ถอยสิฉันจะเข้าไป”
ร่างสูงเบียดตัวเข้าไปในบ้านหลังเล็กโดยที่ไม่รอให้เธออนุญาตด้วยซ้ำ
นับวันเขาก็แสดงตัวตนของความเป็นเด็กออกมาให้เธอเห็นเรื่อยๆ
...จะว่าก็ว่าไม่ลง เฮ้อ ม่านแก้วเธอมันคนหัวอ่อนจริงๆ
“แล้ววันนี้ไม่มีเวรเหรอคะ ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ”
เพิ่งสังเกตุเหมือนกันว่าเขาแต่งตัวสบายๆไม่เหมือนกับต้องไปทำงาน
สงสัยวันนี้คงจะมีเดทแน่ๆ
ก็แหงล่ะคนหล่อๆอย่างเขาก็ต้องมีสาวที่คบด้วยเป็นธรรมดา
พอคิดถึงตรงนี้ทำไมจะต้องรู้สึกเคืองด้วยล่ะไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย
ส่วนเสือที่เห็นว่าคนตัวเล็กมีสีหน้าเปลี่ยนไปเหมือนจะเคืองๆเขาอยู่นิดนึงก็แอบอมยิ้มคนเดียวไม่ให้เธอเห็น
...เธอคงคิดว่าเขาจะไปกับพวกสาวๆสินะ น่ารักจริงๆเลย
“วันนี้เธอไม่มีเวรนี่ งั้นขึ้นไปแต่งตัว”
แม้ว่าเธอจะสงสัยแต่ก็ขัดคำพูดของเขาไม่ได้อยู่ดีไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ม่านแก้วลงมาในชุดเดรสสีขาวเลยเข่าขึ้นมานิดนึงทำเอาเสือหัวใจจะวายตรงนั้นให้ได้เลย
“อะ อืม ชุดนี้น่ารักดี”
แค่ได้ยินคำชมจากเขาตัวเธอก็แทบจะลอยจากพื้นเลย
ทั้งสองคนเอาแต่เขินกันและกันจนในห้องเงียบสนิทแต่รู้สึกถึงความอบอุ่นที่อยู่ในห้องนี้ได้อย่างชัดเจน
“ปะ ไปไหนคะคุณหมอ” เขาหยุดเดินแล้วเอาแขนกั้นเธอไว้กับรถก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ลมหายใจร้อนๆรดที่คอจนม่านแก้วต้องเกร็งตัวกลั้นหายใจ
แต่สิ่งที่เขาพูดมันกลับทำให้ใจเธอเต้นแรงมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก
“...ไปเดทกันไง”