EP 13

1165 คำ
ตอน 3   “ถ้าทำงานที่พี่ให้เสร็จหมดแล้ว ก็กลับเถอะนะหยา ไม่ต้องรอบอสหรอก คงจะอยู่ดึกตามเคย เดี๋ยวช่วงนี้พี่อยู่ยงให้เอง หยาต้องรีบไปดูแม่ไม่ใช่เหรอ” ทันทีที่จัดทำเอกสารส่งให้เจ้านายเสร็จ อรชรเลขาใหญ่ผู้เป็นหัวหน้างานโดยตรง ก็บอกให้มัสยารีบเก็บของกลับได้ เพราะเข้าใจว่าจะต้องไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลก่อน กว่าจะกลับถึงบ้านก็คงดึก มัสยาซาบซึ้งในน้ำใจลูกพี่ไม่น้อย เลยรีบทำตามทันที พอออกจากสถานีรถไฟฟ้าได้ก็รีบตรงดิ่งไปยังโรงพยาบาลทันที กระนั้นก็ยังถึงห้องแม่เกือบทุ่มหนึ่งอยู่ดี ทั้งสองร่วมใจกันหันมาหาแทบจะพร้อมกัน และด้วยสีหน้ากับท่าทางที่แปลกแตกต่างจากทุกครั้งที่หญิงสาวเคยเห็น พลันก็คิดถึงเรื่องที่น้องเอากุญแจให้เขาไปเมื่อวานขึ้นมาทันใด และถ้าจะให้เดาต่อไป แม่กับน้องจะต้องมาคาดคั้น หรือไม่ก็คอยจับผิดว่าเมื่อคืนนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เคราะห์ดีที่มัสยารู้ทางเป็นอย่างดี บวกกับการเป็นคนเงียบ ท่าทีสงบนิ่ง จึงใช้มันให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเดินตรงไปหาแม่ที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง “วันนี้เป็นยังไงบ้างแม่ ยังเจ็บแผลอยู่มั้ย” ปากก็ถามมือก็วางกระเป๋าไว้โต๊ะหัวเตียง ก่อนจะหันมาหาสำรับอาหารที่ยังปิดอยู่ นั่นแปลว่าแม่ยังไม่กิน เลยเปิดสำรวจดูว่ามีอะไรบ้าง “อาหารน่ากินจังแม่ แล้วทำไมไม่กินล่ะ” “แม่โทรสั่งอย่างอื่นมากินตั้งแต่หกโมงแล้ว นั่นน่ะเก็บไว้ให้หยา จะได้ไม่ต้องหิ้วท้องไปจนถึงบ้านไง เพราะถ้าให้โทรสั่งหยาก็ไม่มีทางอยู่แล้ว” ปรียาตอบหน้าตาเฉย ส่วนลูกสาวนั้นสลดใจไม่น้อยที่เดาได้ดีว่าทั้งแม่และน้องก็คงจะสั่งอาหารพิเศษราคาแพงๆ มากินเป็นแน่  แต่ไม่คิดจะแสดงใดๆ ออกมา นอกจากจ้องมองสำรับพร้อมกับจับช้อนกับส้อมมาลองตักเข้าปากเพราะความหิวไม่น้อย “เมื่อวานที่บ้านมีอะไรหรือมีใครไปหาบ้างหรือเปล่าพี่หยา” แต่คำถามจากน้องก็ทำให้อาหารคำที่สองกลืนลงท้องแทบไม่ได้ “ก็ไม่มีนี่! ถามทำไมเหรอ หรือว่ายะนัดให้ใครไปหา” แต่ก็พยายามควบคุมสติเอาไว้ แล้วตักอาหารคำต่อไปเข้าปาก โดยไม่คิดจะหันไปมองน้องหรือแม่เลย กระนั้นเธอก็รู้ว่าทั้งสองจ้องมองมาหา เหมือนอยากได้คำตอบที่เฝ้ารออยู่ก็ไม่ปาน “เปล่าหรอก! เห็นพี่นอนบ้านคนเดียว ผมกับแม่เลยเป็นห่วงน่ะ” “เหรอ! เกิดจะมาเป็นห่วงขึ้นมาเชียว มีอะไรหรือเปล่ายะ ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า” มัสยาเคี้ยวข้าวไปคิดไป ปากก็คุยไป และพยายามไม่ให้น้องกับแม่จับผิดได้ เพราะรักในศักดิ์ศรีเกินกว่าจะให้เขากับครอบครัวมาดูถูกเหยียดหยามได้อีกต่อไปแล้ว ว่าจงใจจะจับเขาทำสามีด้วยการวางแผนให้น้องส่งกุญแจบ้านใส่มือเขา “ไม่มีอะไรก็ดีแล้วล่ะ งั้นหยากินข้าวแล้วก็รีบกลับเถอะ เดี๋ยวจะถึงบ้านดึก แล้วก็รีบอาบน้ำเข้านอนเลย จะได้มีแรงไว้ไปทำงาน” ปรียาเห็นท่าทีปกติของลูกแล้ว ก็แอบถอนใจด้วยความเสียดายไม่น้อย ที่อดได้ลูกเศรษฐีอย่างเขมินท์ท์มาเป็นเขย เพราะหลังจากที่ลูกชายมาเล่าให้ฟังเรื่องที่เอากุญแจให้เขาไปแล้วก็นั่งลุ้นทั้งคืนทั้งวัน แต่สุดท้ายหมอหนุ่มก็ทำลายความหวังด้วยการเอากุญแจมาคืน “พอดีผมติดผ่าตัดเคสเกือบทั้งคืนเลยไม่มีเวลาได้ไปไหนครับ อีกอย่างลูกสาวคุณน้าคงไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าพูดด้วยอารมณ์โกรธกระมังครับ ผมเลยไม่อยากถามให้เรื่องยืดยาวขึ้น เป็นอันว่าผมเอากุญแจมาคืนแล้วนะครับ”  พร้อมกับบอกข่าวร้ายของปรียาด้วยท่าทีสุภาพ เรียบร้อย ตามแบบฉบับที่ชายหนุ่มเป็นมาตลอด ปรียาอดเสียดายโอกาสดีๆ แทนลูกสาวไม่ได้ เพราะหมอหนุ่มเรียกได้ว่าเป็นชายในฝันของผู้หญิงทุกคนที่ได้พบเห็น ถ้าได้เป็นคู่ครองรับรองทั้งลูกและตัวเองต้องสบายไปตลอดชาติแน่ “จ้ะ! แต่หยาคงยังไม่ได้นอนหรอกแม่ พอดีหอบงานมาทำต่อน่ะ งั้นหยารีบกินแล้วจะรีบกลับเลยนะ” เพราะไม่อยากจะอยู่ให้แม่กับน้องคอยจับผิด เลยรีบยกเอาเรื่องงานมาเป็นข้ออ้าง และไม่มีใครติดใจอะไร นั่นทำให้หญิงสาวค่อยคลายความตึงเครียดลงไปได้มาก   ระหว่างอยู่บนรถไฟฟ้า มัสยาก็ไม่ลืมที่จะย้ำตัวเอง ว่าเข้าบ้านแล้วให้ลงกลอนประตูเหล็กดัด อย่าได้เผลอเรอจนลืมเหมือนเมื่อคืนนี้ แม้จะไม่กล้าคิดว่าเขาจะหวนกลับมาหาอีก แต่ก็อยากจะป้องกันเอาไว้ก่อน และแม้จะพึงพอใจในตัวเขามากมาย แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาเห็นเป็นของตาย จะมาหาเมื่อไหร่ก็ได้อยู่ดี แต่พอเดินลงจากรถแล้วเดินไปได้ไม่เท่าไหร่ จู่ๆ ก็เห็นเขาเดินออกจากจากร้านสะดวกซื้อ คว้ามือเธอแล้วรั้งให้เดินตามอย่างเร่งรีบ แม้พยายามจะขืนตัวไว้ และพยายามจะสบัดมือออกจากมือเขายังไงก็ไม่สำเร็จ “คุณจะพาฉันไปไหนน่ะ” “คุณไม่กลัวหรือไง เดินกลับบ้านคนเดียวแบบนี้ ไม่เคยเห็นข่าวผู้หญิงถูกฉุดไปข่มขืนบ้างหรือไง เข้าไป!” เขาเอ่ยเสียงดุ ขณะจับร่างเล็กๆ ยัดไปในรถที่จอดอยู่ในซอยเล็กๆ จากนั้นก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว มัสยากำลังจะอ้าปากถามอีกว่าเขาจะพาไปไหน แต่พอเห็นเขาเลี้ยวเข้าหมู่บ้านก็ให้เบาใจ “ผมเหนื่อยแล้วก็หิวด้วย คุณคงช่วยผมได้นะในระหว่างที่ผมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า” แต่พอมาถึงบ้าน เขาก็จัดการเปิดประตูเองเสร็จสรรพ แล้วสำทับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะหิ้วกระเป๋าใบย่อมเดินหายเข้าไปในห้องนอนเธอหน้าตาเฉย เธอเลยไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากถอนหายใจหนักๆ ออกมา ก่อนจะวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะเล็กๆ แล้วเดินไปในครัว ดูว่าจะทำให้อะไรให้เขากินได้บ้าง มีข้าวสวยในหม้อแช่อยู่ในนั้น ผักก็มีอย่างละนิดอย่างละหน่อย เพราะแม่ป่วยก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาไว้เลย เคราะห์ดีที่ยังมีไข่เหลืออยู่เกินสิบฟอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม