EP 23

1144 คำ
อย่าถามถึงขั้นที่ว่าเรียกมาทำอะไรกินด้วยกันเหมือนตอนนี้ เพราะคงไม่มีอยู่ในความคิดของหญิงเหล่านั้นแน่ นี่คือความแตกต่างระหว่างเธอกับผู้หญิงคนอื่นๆ ของเขา และเขาก็ยิ่งเห็นความแตกต่างระหว่างเธอกับแม่และน้องของเธอมากกว่าเดิมหลายเท่า เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่เขาได้ครอบครองเธอกระทั่งวันนี้ ไม่เคยเห็นเธอคิดจะเรียกร้องอะไรจากเขาเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือสิทธิ์ต่างๆ เงินที่เขาควักกระเป๋าให้ไปจับจ่ายซื้อหามาทำอาหารการกิน เธอจะส่งเงินทอนคืนทุกครั้ง ถ้าเขาทำเป็นไม่สนใจหรือไม่มอง เธอจะกองมันไว้โต๊ะหัวเตียงฝั่งที่เขานอนเสมอๆ เขาเดาเอาว่า เธอน่าจะได้พ่อผู้จากไปในด้านไม่งกเงินกระมั้ง “อ้อมกับอ้น! อย่าดื้อนะ คุณหมอมาแล้ว” ทุกคนต่างหันมาหาเขา เมื่อป้าเนียมดุหลานทั้งสองที่วิ่งเล่นอยู่ จนแทบจะชนตอนเขาเดินออกมา มัสยาส่งยิ้มให้เขา ส่วนมือก็กำลังคีบกุ้งหอยปูปลาลงไปวางเรียงกันไว้ตะแกรงเหล็ก “คุณหิวหรือยังคะ” “นิดหน่อย สงสัยจะเหนื่อย” เขาตอบยียวนแล้วส่งสายตามีความหมายไปหา นั่นทำให้ใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีระเรื่ออีกแล้ว เขารู้ว่าเธออายเลยเดินเลี่ยงไปนั่งโต๊ะ มีประสงค์กับลุงผาดผู้เป็นสามีของป้าเนียมนั่งจิบเบียร์อยู่ “คุณหมอเลี้ยงอาหารแล้ว ลุงกับพ่อสงค์เลยขอเลี้ยงเบียร์ครับ” ลุงผาดปรายตาไปหาถังน้ำแข็ง เลยเดาว่าคงมีหลายขวดในนั้น เขาเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย หรืออาจจะเพราะมีความสุขเวลาได้เดินเกี่ยวมือบางก็เป็นได้ แม้นั่นจะเป็นตลาดสดที่มีกลิ่นคาวปลาคละคลุ้งเขาก็ไม่ได้สนใจ นอกจากเดินซื้อนั่นนี่ด้วยกันจนเหน็ดเหนื่อยถึงได้ยอมกลับ “คุณหยาไปนั่งกับคุณหมอเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าจะยกไปให้เอง” ป้าเนียมรีบเสนอด้วยความเต็มอกเต็มใจ มัสยาเลยไม่อยากขัด อีกทั้งยังอยากมาตักสลัดใส่จานไปให้เขากินรองท้อง ก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบด้วย “น่ากินจัง” เขมินท์ท์มองสลัดผักต้มที่เขาชอบกว่าผักสด การจัดจานก็น่ากิน แม้เขาจะเห็นมือบางแค่คีบฟักทอง มันฝรั่ง แครรอทและผักอื่นๆ อย่างละนิดอย่างละหน่อยวางๆ ลงไปเท่านั้น แต่พอมองรวมๆ แล้วก็สวยและบอกให้รู้ว่าเธอมีศิลปะในการจัดจานไม่น้อย คงจะได้ความรู้มาจากคนเป็นแม่ เพราะเมื่อก่อนทำขนมส่งตามร้านต่างๆ กับทำข้าวกล่องส่งตามออฟฟิศหรือตามงานอีเว้นท์ ที่มีเจ้าประจำมาจ้างเสมอๆ มาหยุดก็ตอนสามีจากไปและมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากครอบครัวเขานั่นเอง “กินสลัดก่อนค่อยดื่มเบียร์ดีกว่านะคะท้องคุณว่างมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว” “ได้! ถ้าคุณจะเป็นคนป้อน” มัสยาอายจนหน้าแดงอีกคำรบ ทุกคนในสนามต่างก็หันมามองด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ ส่วนเขาก็ยังคงไม่ยอมแตะช้อนแต่อย่างใด เป็นเหตุให้เธอต้องยอมละความอาย ตักฟักทองราดด้วยครีมสลัดคำเล็กๆ ยื่นไปจอรอตรงปากให้ เขายิ้มหวานก่อนจะรวบมือบางส่งของในมีเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย เท่านั้นยังไม่พอ เขายังสอดแขนไปหาเอวคอดรั้งให้เธอขยับมานั่งจนชิด ส่วนอีกมือก็รับแก้วเบียร์จากประสงค์ที่ส่งมาให้ด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม ชนแก้วกับลุงผาดเกลอเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นปี แม้มัสยาจะอายแต่ก็ไม่วายคอยตักสลัดใส่ปากเขาเรื่อยๆ อยู่ดี สองเด็กน้อยมองมาหาจานสลัด แล้วกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ให้เห็น นั่นค่อยทำให้มัสยามีเวลาได้คิดถึงคนอื่นขึ้นมา จากตอนแรกห่วงแต่เขาเท่านั้น “อ้อนกับอ้นเอามั้ย เดี๋ยวพี่จะตักให้” เด็กทั้งสองไม่ได้ตอบอะไร เอาแต่อายแล้วก้มหน้า มัสยาถึงกับหัวเราะด้วยความขำ แล้วตักสลัดใส่จานให้สองพี่น้องที่นั่งอยู่ม้าหินฝั่งตรงข้ามด้วยท่าทีเรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัว แถมยังมารยาทดีด้วยการยกมือไหว้เมื่อได้ของกินไปวางตรงหน้า “อย่ากินเยอะนะ เก็บท้องไว้กินกุ้งกับปูด้วย” หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เด็กทั้งสอง เพราะนึกรักและเอ็นดูขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล อาจจะเป็นเพราะกำพร้าพ่อแม่ที่ดูเหมือนจะโชคร้ายกว่าเธอกับน้องชายมากมายนักด้วย พออาหารปิ้งย่างมาวางตรงหน้า มัสยาเลยรีบแกะให้คนข้างๆ ก่อนใครเพื่อน จากนั้นก็ให้เด็กทั้งสอง ที่ต่างส่งเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยความหิว จนคนปอกแทบจะส่งให้ไม่ทันเลยก็ว่าได้ เขมินท์ท์ยิ้มอย่างอิ่มใจในท่าทีของหญิงสาวที่มีต่อสองเด็กน้อย ซึ่งเขาไม่เคยเห็นบ่อยครั้งนัก แม้แต่คนใกล้ตัวอย่างแม่กับน้องก็ตาม เวลามาบ้านนี้ทีไรครอบครัวของป้าเนียมลุงผาดไม่มีโอกาสได้มานั่งกินด้วยแบบนี้แน่ “ใจดีมีเมตตามากๆ ไม่ดีหรอก เดี๋ยวจะมาตีตัวเสมอเรา เลี้ยงไว้ใช้งาน ให้เงินใช้มากกว่าบ้านอื่นก็ดีถมไปแล้ว คนพวกนี้ยิ่งได้ยิ่งไม่รู้จักพอ พวกไม่เจียมน่ะ” แต่เขาก็ไม่เห็นครอบครัวนี้เป็นอย่างที่แม่เคยเปรยไว้ในทุกครั้งที่มาพักผ่อนเลยด้วยซ้ำ พอเด็กๆ กินอิ่มป้าเนียมก็จะพากลับบ้านไปนอน ปล่อยให้ผู้ใหญ่กินต่อ   พอดึกหน่อยทุกคนอิ่มแล้ว และเขาก็สวมกอดคนข้างๆ พร้อมหอมแก้มให้ทุกคนเห็นเท่านั้น เป็นอันว่าต่างรู้งานด้วยการแยกวงไปเก็บข้าวของเข้าไปล้างในบ้าน ทิ้งเขากับอีกสาวนั่งรับลมเย็นๆ อยู่ด้วยกันตามลำพัง ไม่นานบ้านทั้งหลังก็เงียบกริบมีเพียงเสียงเกรียวคลื่นดังมาเป็นระลอกเท่านั้น “อุ๊ย!” มัสยาตกใจไม่น้อย เมื่อจู่ๆ เขาก็ยกตัวเธอให้ขึ้นไปนั่งบนตักอย่างง่ายดาย ทั้งอายทั้งกลัวว่าคนอื่นจะมาเห็น เลยพยายามดิ้นเพื่อจะลงมานั่งที่เดิมให้ได้ “ไม่มีใครอยู่แล้วจะอายทำไมกันฮึ!” เขาว่าแล้วยื่นจมูกหอมแก้มนุ่มไปหนึ่งฟอด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม