8.ชีวิตของอีเย็น
พราวรีบตัดบทวางสายจากเพื่อนสนิท ไม่งั้นคงได้ต่อว่าคนบ้านนั้นไปอีกหลายประโยค พูดที่ไรคนที่ไม่สบายใจก็คือวีรดา แต่มันก็อดโมโหแทนไม่ได้จริงๆ ชีวิตทุกวันที่อยู่ในบ้านชินณรงค์สของสำหรับวีรดานั้น ในสายตาคนนอกว่ากันว่าวีรดานั้นโชคดี เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไร้ญาติขาดมิตรอยู่ๆ ครอบครัวชินณรงค์ก็ยื่นมือมาอุปการะ แต่ในสายตาของคนสนิทอย่างพราว กลับมองว่ามันวีรดานั้นถูกจองจำอยู่ในกรงที่ชื่อว่าบุญคุณ หายใจเพื่อต่อชีวิตให้คุณหญิงปาดวาดหากวีรดาพยามแหกกรงเมื่อไร คุณหญิงจะต้องล้มป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุ หนักเข้าก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง ถึงแม้จะไม่พูดประโยคไม่ลำเลิกบุญคุณตรงๆ แต่มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าแกล้งทำให้วีรดายอมตามใจให้ในสิ่งที่คุณหญิงต้องการ
ไหนจะการแต่งงานสาฟ้าแลบระหว่างทายาทคนเดียวของเครือชินณรงค์กับบุตรสาวบุญธรรม คุณตรีภพกลับมาเมืองไทยแค่อาทิตเดียวก็แต่งงานทันทีแถมแขกมีแค่ญาติกับคนใกล้ชิดไม่กี่คน ถึงจะลงข่าวหนังสือพิมพ์ แต่คนที่ได้รับเชิญไปงานแทบจะไม่มี มีใครรู้บ้างล่ะวีรดาโดนบังคับให้แต่งงานก็ไม่มี บ้างก็ว่าวีรดารวบหัวรวบหางทั้งตระกูล บ้างก็ว่าท้องก่อนแต่ง บางก็ว่าท้องกับคนอื่นแล้วให้พี่ชายบุญธรรมสวมรอย ไม่ว่าข่าวไหนคนที่เสียหายก็มีแค่ฝ่ายหญิงเฮ้อ…..เพื่อนฉันมันคืออีเย็นชัดๆ นางทาสยุค2022
“นั่งจ้องโทรศัพท์แล้วถอยหายใจ กลุ้มใจอะไรหนักหนาครับคุณพรนับพัน” พาทิศยืนพิงประตูมองหน้าเลขาคนสวยเขามายืนตรงนี้ได้ซักพักแล้ว แต่สาวเจ้าก็ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนของเขา
“ว้ายย บอส ตกใจหมดเลย มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง หัวใจวายตายไปทำไง ทำใช้คืนพ่อกับแม่พราวได้มั้ยค่ะ”
“โห่คุณ มันจะอะไรขนาดนั้น” เห้ยคนนะเว้ยไม่ใช่ผีพาทิส ได้แต่กลอกตามองบนส่ายหัวกับความโอเวอร์ของพรนับพันตกใจอะไรขนาดนั้นถึงขั้นจะตายเลยหรอ
“ไม่รู้ล่ะ พราวตกใจนิค่ะ” พูดไปก็เอามือลูบหน้าอก กล่อมให้ตัวเองหายตกใจ คนกำลังคิดอะไรเพลิน เล่นมาเงียบๆ ใครไม่ตกใจก็บ้าแล้ว
“ผมมายืนดูคุณนั่งมองโทรศัพท์แล้วหายใจทิ้งขว้างแทนที่จะเตรียมเอกสารให้ผมเซ็นมาซักพักแล้ว เอาล่ะๆ ถ้าหายตกใจแล้ว เอาเอกสารเข้ามาให้เซ็นด้วย อ้อ อย่าลืมให้คนไปรับของขวัญแต่งงานให้เพื่อนผมด้วย ไอ้นี้ก็อีกคนแต่งงานก็ไม่รู้จักบอกเพื่อนฝูงไม่รู้จะรีบแต่งเมียไปไหน” สั่งงานเลขาคนสวยเสร็จก็หมุนตัวหายเข้าห้องเงียบเชียบเหมือนตอนมา
“อะไรของเขาว่ะ มาๆ ไปๆ ยังกับผี” พราวได้แค่บ่นอุบอิบกับประตูห้องของประธานบริษัท แล้วก็รีบตั้งหน้าตั้งๆ เตรียมเอกสาร ถ้าโดนตามงานรอบสองพายุลงแน่นอน ไม่เงียบสงบแบบเมื่อกี้หรอก
พาทิสหลังจากทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวโปรด ก็เผยรอยยิ้มที่มุมปากหยัก สีหน้าตกใจของพรนับพัน เมื่อครู่กับท่าสะดุ้งจนสุดตัว ทำไมเขามองแล้วมันน่ารัก แล้วเธอเป็นอะไรถึงได้จดจ่อกับมือถือขนาดนั้น หรือรอโทรศัพท์ใคร คิดถึงตรงนี้มุมปากหยักก็หุบยิ้มลงทันที พาทิศถึงคติสมภารไม่กินไก่วัด มันเสียการปกครอง เขาพยายามสร้างระยะห่างกับเลขาหน้าห้องอย่างพรนับพันมาตลอด แต่พอคิดว่าพรนับพันมีคนในใจอยู่แล้ว กับรู้สึกหน่วงๆ แปลกๆ “ลูกน้อง ไอ้พานั้นลูกน้องมึง”
หลังจากพยายามไม่คิดฟุ้งซ่านเรื่องเลขหน้าห้อง ก็รีบต่อสายหาเพื่อนสนิทที่กลับมาไทยก็กลายเป็นประเด็นร้อนในกลุ่มข้ามคืน
“ไง แต่งงานไม่คิดจะบอกเพื่อนซักคน ต้องให้พวกกูเห็นข่าวกันเอง”
“แม่กูบังคับ” เสียงจากปลายสายถอนหายใจยาวเยียด
“หา! แม่มึงตามใจมึงจะตาย แล้วมาบังคับให้แต่งงานกับน้องวีเนี่ยนะ เป็นไปได้หรอว่ะ” พาทิสถึงกับขมวดคิ้ว
“เออ เป็นไปแล้ว ตอนแรกกูไม่ยอม แม่กูร้องไห้จนช๊อคเข้าไอซียู อะไรๆ ก็เตรียมหมดแล้ว กูเลยแต่งๆ ไปให้จบ”
“มึงไม่ชอบน้องวีไม่ใช่หรอว่ะ” นึกขึ้นมาได้มันไม่ค่อยชอบหน้าน้องวีนี้หว่า
“เด็กนั้นมันชอบกู คงกลัวกูกลับมาแล้วมีแฟน ถึงได้ให้แม่มาบังคับกูแต่งงานด้วย”
“แล้วมึงก็ยอม?” เขารู้จักตรีภพตั้งแต่มหาลัยด้วยกันที่อเมริกา มันไม่เคยคยใคร ไม่เคยควงสาวคนไหนเลย เคยมีคนคิดว่ามันเป็นเกย์ด้วยซ้ำ แต่ใครกลุ่มเพื่อนสนิทรู้ดีว่าไม่ใช่ ใครจะนอนกับมันถ้าไม่รับเงินมันไม่นอนด้วยเด็ดขาด ถืบคติกินแล้วจ่าย ถ้าไม่รับเงินไม่กิน
“กู… กูทำเพื่อแม่ ตอนนี้อาการแม่กูแย่มากหมอบอกถ้าช๊อคไปอีกอาจจะไปเมื่อไรก็ได้ กูก็ไม่ได้คบใครแต่งไปไม่ได้เสียหายอะไร เด็กนั้นอยากแต่งกูก็แต่ง ซักวันเด็กนั้นก็จะรู้เองชีวิตคู่ที่มันไม่มีความรักมันไม่มีความสุขหรอก เดี๋ยวทนไม่ไหวก็หย่ากับกูเชื่อดิ”
“…..” พาทิสถึงกับพูดไม่ออกต่อประโยคไม่ได้ จนเกิดเดดแอร์ “เออ คืนนี้ร้านไอ้วา เลี้ยงต้อนรับที่มึงกลับมาห้ามเบี้ยวทุกคนมากันครบ”
“เออ เจอกัน”
หลังวางสายจากตรีภพ พาทิสได้แต่จ้องโทรศัพท์ในมือ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วคุณหญิงปาดวาดที่รักแล้วก็ตามใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสุดชีวิต นึกยังไงถึงได้คลุมถุงชนลูกชาย คนที่เพื่อนๆ คาดว่าจะได้แต่งงานคนสุดท้ายในกลุ่ม ดันชิงแต่งงานคนแรกซะงั้น ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยปีแรกๆ ตรีภพเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว เงียบขรึมมากวันๆแทบจะไม่ยิ้มเลย แววตาก็เหมือนคนอมทุกข์ ด้วยความที่ช่วงนั้นยังไม่ค่อยสนิทกันเท่าไรเลยไม่ได้เลยไม่กล้าถามสาเหตุ แต่พอคบไปนานๆเหมือนตรีภพจะค่อยๆปรับตัวการใช่ชีวิตต่างบ้านต่างเมืองได้จึงไม่อมทุกข์แบบตอนปีแรกๆแล้วก็สนิทกันจนมาถึงทุกวันนี้ เขากับเพื่อนคนอื่นจบโทก็กลับเมืองไทย ส่วนตรีภพต่อปริญญาเอกและทำงานกับบริษัทต่างชาติ
นอ. ของไรท์คนนี้ยิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย
คุณหญิงรักวีรดาแบบไหนกันถึงเลี้ยงแบบไข่ในหินขนาดนี้