พ่อเลี้ยงแทนไทเดินทางมาถึงที่คาสิโนตรงชายแดนทางภาคเหนือ และคืนนี้เขาจะต้องไปกินข้าวกับคู่ค้าของเสี่ยหมี และเมื่อวานเขาบอกว่าคู่ค้าคนนั้นชื่อท่านภาคีซึ่งเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใครแต่คืนนี้รู้แน่นอน
"สวัสดีครับพ่อเลี้ยงแทนไท"
"สวัสดีครับลุงพี ไม่เจอกันนานเลยนะครับ"
เขายกมือไหว้ลุงพีอย่างนอบน้อมด้วยความที่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าและเขาเคารพเหมือนพ่อคนหนึ่งไม่ต้องแปลกใจทำไมถึงพูดจานอบน้อมขนาดนี้
"ลุงว่าจะไปหาพ่อเลี้ยงเหมือนกัน แต่มาก็ดีแล้วไหนมาเล่าให้ลุงฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วจะให้ลุงช่วยอะไรบอกมาได้เลยนะลุงยินดีช่วยเติมที่"
"วันนี้ผมนัดทานข้าวกับคู่ค้าของเสี่ยหมี เขาชวนผมเป็นหุ้นส่วนธุรกิจค้าไม้ของเขาแต่ผมให้ลูกน้องไปสืบทีหลังว่าเขาเอาชื่อผมไปแอบอ้างในการส่งไม้เถื่อน พวกตำรวจก็ปล่อยให้ผ่านตลอดเพราะคิดว่าเป็นสินค้าของผม"
เขาอธิบายให้ลุงพีฟังอย่างละเอียดถึงแม้เขาจะช่วยไม่ได้มากแต่อย่างน้อยที่นี่ก็เป็นถิ่นของเขาและจะดีมากถ้าเก็บหลักฐานให้ครบโดยไม่ต้องถูกจับได้ เขาจะรวบหัวรวบหางให้หมดกล้าดียังไงเอาชื่อเสียงดีๆที่เขาสะสมมาพังทลายแบบนี้
"อย่านี้นี่เองเราก็เลยจะหาหลักฐานมาเอาผิดคนพวกนั้นโดยที่ไม่มีความผิด"
"ใช่ครับ ผมคุยกับตำรวจที่สนิทแล้วพวกเขารับรู้และยินดีจะเป็นพยานให้กับความบริสุทธิ์ของผม"
"ดีแล้วครับที่ทำแบบนั้น ถึงแม้เราจะทำธุรกิจสีเทาแต่มันก็ไม่ได้ผิดกฎหมายเหมือนพวกค้าไม้ค้ายา เพราะฉะนั้นมีอะไรให้ลุงช่วยบอกมาได้เลยนะ"
ลุงพีเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาอยากจะช่วยนายน้อยของตระกูลเจ้านายเก่าให้มากที่สุด ทางนั้นมีบุญคุณกับเขามากและทำให้เขามีทุกอย่างเช่นวันนี้
"ผมต้องการให้ลูกน้องลุงพีเก็บหลักฐานตอนที่เราคุยกันให้มากที่สุด เอาแบบดิ้นไม่หลุดเลยนะครับ"
"ได้สิลุงจัดการให้"
ทั้งสองคนนั่งวางแผนกันอยู่ที่ห้องทำงานของลุงพีและเขายังถามหาคุณหนูใบบัวด้วย คนนั้นก็เป็นลูกสาวของคนสนิทท่านพิทักษ์และก็มีบุญคุณมากเหมือนกันแต่เสียชีวิตเร็งไปหน่อยเขาจึงรับทายาทมาดูแลพร้อมกับดูแลสมบัติให้ด้วย เห็นว่ารออายุ25ปีเขาจะมอบทุกอย่างให้กับเธอ
ช่วงค่ำพ่อเลี้ยงแทนไทเตรียมตัวเดินทางไปที่คาสิโน มีห้องอาหารระดับVVIPอยู่และนักธุรกิจส่วนใหญ่จะชอบมาคุยงานกันที่นี่เพราะปลอดภัยจากตำรวจและมีความปลอดภัยสูงมากเช่นกัน
"พร้อมแล้วครับพ่อเลี้ยง"
"ไปสิ"
เขาเดินออกไปจากห้องพักเดินทางลงไปห้องอาหารของVVIP แล้วก็เจอกับเสี่ยหมีกำลังยืนคุยอยู่กับใครคนหนึ่งอยู่ เขาเดินมาหาทั้งสองคนพร้อมกับยิ้มกว้างทักทาย
"อ้าวพ่อเลี้ยงมาแล้วเหรอครับ นี่พ่อเลี้ยงแทนไทครับท่านภาคี นี่ท่านภาคีที่ผมเล่าให้ฟังครับ"
"สวัสดีครับพ่อเลี้ยงแทนไท ผมได้ยินชื่อเสียงมานานเป็นเกียรติมากเลยนะครับที่ได้รู้จักกันและได้ร่วมทำธุรกิจกัน"
ท่านภาคียื่นมือมาตรงหน้าชายหนุ่ม เขาจับมือเขากลับก่อนจะเอ่ยทักทายเสียงเรียบ
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ผมแทนไทครับ"
"งั้นเราเข้าไปข้างในดีกว่า วันนี้เราน่าจะได้คุยธุรกิจกันยาวๆเลยนะครับพ่อเลี้ยง ผมอยากร่วมทำธุรกิจกับคุณมากเลยนะ"
"ได้สิครับ"
เขาเออออตามที่ทั้งสองคนพูดและวันนี้เขาจะปล่อยให้ทั้งสองคนพูดเยอะๆเพราะทุกอย่างมันจะเป็นหลักฐานในการจับคนร้ายของเขา ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะมาหลอกใช้เขามันต้องพบจุดจบอย่างถึงที่สุด
ทั้งสามคนนั่งดื่มไวน์คุยกันอย่างเพลิดเพลินแต่ทั้งสองคนก็ยังไม่เปิดเผยตัวตนออกมาเพราะยังไม่ไว้ใจพ่อเลี้ยงแทนไทมากพอที่จะบอกทุกสิ่ง ครั้งนี้การมากินข้าวแค่ลองเชิงเท่านั้นแต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าทุกสิ่งที่กระทำในวันนี้มีกล้องจับอยู่ตลอด
"ผมไปห้องน้ำก่อนดีกว่ายังไงคุยกันไปก่อนนะครับ"
"ได้เลยครับตามสบายนะ"
เขายิ้มออกมาก่อนจะเดินออกไปทันที คล้อยหลังจากออกมาพ่อเลี้ยงแทนไทก็เดินออกมาห้องกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าทั้งสองคนกำลังคุยอะไรกันอยู่
"เสี่ยหมีได้คุยอะไรกับพ่อเลี้ยงแทนไทบ้าง"
"คุยแค่เรื่องค้าไม้เถื่อนครับแต่เขาก็ไม่ว่าอะไรนะแถมยังยอมให้ขนของไปต่ออีก ผมว่าเขาน่าจะรับได้กับสิ่งที่เราทำนะ"
ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างคิดหนักว่าจะบอกเรื่องธุรกิจมืดอันอื่นอีกดีรึเปล่า แต่ถ้าได้เขามาร่วมมือด้วยมันจะดีมากและเขาจะสะดวกสบายมากกว่านี้อีก
"ค้ายาไม่ใช่เรื่องเล็กนะถ้าเขารู้แล้วรับไม่ได้ไม่ยอมร่วมมือกับเราจะทำยังไง พังหมดเลยนะที่ทำมาอ่ะ"
"งั้นครั้งนี้เรายังไม่พูดอะไรดีกว่า เอาให้รู้แค่เรื่องค้าไม้ก็พอแต่ถ้ารู้จักกันเยอะๆค่อยบอกแบบนี้ดีมั้ย"
"ก็ดีนะครับผมว่าแบบนี้น่าจะดีที่สุด งั้นวันนี้เราเงียบๆเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่า"
ทั้งสองคนตกลงกันได้แล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและรอให้พ่อเลี้ยงแทนไทเข้าห้องน้ำเสร็จกลับมา เขาได้ยินทุกอย่างก็ยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
"หึหึ ค้ายาเหรอ... บันทึกวิดีโอนี้ส่งให้ผมด้วยนะที่เหลือผมไปจัดการต่อเอง"
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องอาหารทันที และนั่งคุยกับพวกเขาต่อและก็เป็นอย่างที่เขาสองคนพูดไว้ไม่มีเรื่องค้ายาหลุดออกมาจากปากของเขาเลยสักนิด แต่คนอย่างเขาถ้าอยากจะให้คนพวกนั้นคลายความลับออกมาก็ต้องสร้างความเชื่อใจไปก่อน
"ถ้าท่านภาคีมีโอกาสไปที่เชียงใหม่ก็ไปหาผมที่ไร่ได้นะครับ ยินดีต้อนรับเสมอ"
"ผมจะหาโอกาสไปแน่นอนครับ ช่วงนี้ต้องอยู่ที่ชายแดนไปก่อนพอดีว่ามีธุรกิจที่ทำอยู่นะครับ แต่ถ้ามีโอกาสผมจะไปแน่นอน"
อยู่พ่อเลี้ยงแทนไทก็หยิบโทรศัพท์มากดรับสายต่อหน้าทั้งสองคน และแน่นอนว่ามันเป็นแผนที่สร้างความเชื่อใจต่อเสี่ยหมีและท่านภาคี
"ว่าไง... งั้นเหรอ ส่งไปเลยพวกตำรวจมันไม่ตรวจสอบหรอก ระดับฉันซะอย่างใครจะกล้าตรวจสอบล่ะคราวที่แล้วขนอาวุธเถื่อนยังปล่อยผ่านเลย อืม แค่นี้แหละ"
เขากดวางสายก่อนจะกันมายิ้มให้กับทั้งสองคน เสี่ยกมีหันไปมองหน้าท่านภาคีอย่างลังเลว่าควรจะบอกเรื่องนั่นกับเขาดีมั้ย เพราะดูท่าทางธุรกิจที่เขาทำก็ผิดกฎหมายไม่ได้ใสสะอาดเหมือนกัน และอีกอย่างคอนเนคชั่นเขาดีมากทำอะไรก็ไม่ผิดเพราะฉะนั้นพ่อเลี้ยงแทนไทเนี่ยแหละคือคนสนับสนุนธุรกิจที่ดีมากคนหนึ่ง
"พ่อเลี้ยงค้าอาวุธเถื่อนด้วยเหรอครับ"
ท่านภาคีเอ่ยถามเสียงเรียบ เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี
"มีมากกว่านั้นที่พวกคุณยังไม่รู้ ธุรกิจที่พวกคุณทำอ่ะเด็กๆสำหรับผมมาก อย่าลืมสิว่าผมเป็นมาเฟียของฮ่องกงนะแค่นี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก"
"จริงด้วย... ถ้างั้นผมมีธุรกิจอีกอย่างที่จะชวนพ่อเลี้ยงด้วย รับรองว่าทำเงินมหาศาลเลยครับ"
ท่านภาคีตัดสินใจที่จะชวนเขาค้ายาเสพติดด้วยกันเพราะดูท่าทางเขาจะต้องยอมร่วมมือด้วยแน่นอน พวกเขามีโรงงานผลิตอยู่แล้วและถ้าให้เขาเป็นคนส่งของเองรับรองว่าพวกตำรวจไม่ตรวจสอบแน่
"ธุรกิจอะไรเหรอครับ..."