และเมื่อมาถึงที่ร้านอาหารใบบัวก็เดินนำหน้าชายหนุ่มเลือกที่นั่งโซนที่ชอบก่อนจะกวักมือเรียกพ่อเลี้ยงแทนไทให้เดินมาหา และเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเยอะอะไรที่ตามใจได้เขาก็ยอมเพราะทะเลาะกับเด็กก็มีแต่เสียเปรียบเท่านั้น
"พ่อเลี้ยงทางนี้ค่ะ"
"ไปนั่งห้องVIPมั้ย เป็นส่วนตัวกว่าอีกนะเราจะได้นั่งสบายๆไง"
เขาเสนอให้หญิงสาวไปนั่งห้องVIPแบบส่วนตัวแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ทั้งที่เขาอำนวยความสะดวกให้แทบทุกอย่างแต่ทำไมถึงปฎิเสธ
"ไม่เอาค่ะที่นี่ก็ได้ ห้องแบบนั้นต้องเสียเงินเพิ่มอีกพ่อเลี้ยงเปลืองเงินเปล่าๆ นั่งตรงนี้ดีกว่าค่ะ"
เธอกอดแขนชายหนุ่มพาเดินไปนั่งลงที่โต๊ะจากนั้นก็รับเมนูมาเปิดดูไม่ลืมที่จะส่งให้ชายหนุ่มด้วย เธอเปิดไปมาไม่รู้จะสั่งอะไรมันเยอะจนตาลายไปหมด
"จะกินอะไร"
"พ่อเลี้ยงสั่งเลยค่ะหนูกินอะไรก็ได้"
"งั้นเอาชุดนี้้ครับแกงนี่ไม่ใส่ผักชี ส่วนอันนี้ไม่ใส่ถั่วรบกวนดูให้ดีด้วยนะครับน้องสาวผมเค้าแพ้ถั่ว"
เขากำลังพนักงานให้ระวังเรื่องถั่วเป็นพิเศษเพราะใบบัวกินไม่ได้น่าจะแพ้แต่ไม่ได้หนักหนาอะไรซึ่งถ้าอยากจะกินก็สามารถทำได้แต่ถ้าจะให้ดีเลิกกินดีกว่าจะได้ไม่เป็นปัญหาสุขภาพตามมาทีหลัง
"ได้ค่ะทางเราจะกำชับเชฟให้นะคะ"
"ดีครับ"
ใบบัวดึงมือพ่อเลี้ยงแทนไทมาจับไว้นวดมือให้ชายหนุ่มอย่างเบามือ เธอรู้ว่าเขาทำงานหนักวันๆอยู่แต่ห้องทำงานแต่แปลกงานที่ไร่ไม่สนใจเลยสักนิด แต่พ่อเลี้ยงเขามีเงินเยอะมากให้เธอแต่ละเดือนหรือแม้กระทั่งซื้อของอะไรแพงขนาดไหนเขาก็ไม่เคยบ่น เอาจริงเธอแอบสงสัยนะว่าคุณพ่อ คุณปู่และพ่อเลี้ยงเขามีงานเสริมอย่างอื่นรึเปล่าเพราะดูไม่ค่อยสนใจรายได้ของไร่กิตติภูมิเลยสักนิด
"มานวดให้คือต้องการอะไร"
ใบบัวจิ๊ปากอย่างขัดใจเธอก็แค่อยากดูแลเขาบ้างตอบแทนที่เขาดูแลเธอดีมาตลอดก็เท่านั้นเอง นี่อะไรมองว่าเธออยากได้นั่นนี่ตลอด
"หนูแค่อยากนวดให้ค่ะมองโลกในแง่ร้ายตลอด ชิ แต่ว่าขอบคุณนะคะที่จำได้ว่าหนูแพ้อะไรไม่กินอะไร"
แต่เรื่องนี้เธอดีใจนะที่เขาดูเอาใจใส่เธอบ้างทั้งที่ปกติเขาเย็นชามากไม่จำเลยเรื่องเกี่ยวกับเธอ
"กินข้าวด้วยกันบ่อยทำไมจะไม่รู้ล่ะ คนรอบตัวที่กินแบบเรื่องมากมีไม่กี่คนหรอก"
"ชิ ว่าให้หนูทำไมคนเรามันจะแพ้ห้ามได้ไงเล่า"
ใบบัวทำหน้างอง้ำใส่ชายหนุ่มก่อนจะหันไปชิมน้ำส้มคั้นไม่สนใจเขาอีก พ่อเลี้ยงแทนไทสะดุ้งเล็กน้อยควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะมองหน้าจอแล้วกดรับสายทันที
"ว่าไงครับพ่อ"
(มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยเราว่างมั้ย)
"ว่ามาสิครับมีอะไรด่วน"
เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบมองหญิงสาวข้างกายที่ตอนนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับของอร่อยตรงหน้า คุณพ่อหันไปมองคุณปู่ก่อนจะเอ่ยออกมา
(คุณปู่คิดถึงหลานสาวนะ อีกสองวันพาน้องมาด้วยนะ)
"ได้ครับผมจะพาไป"
(ให้ใบบัวเก็บของที่จำเป็นมาด้วยส่วนที่เหลือมาซื้อที่นี่เอาก็ได้ ตอนนี้คุณปู่ทำห้องให้เสร็จแล้วเดี๋ยวถ้าน้องมาพ่อจะพาไปสมัครเรียนมหาวิทยาลัย)
พ่อเลี้ยงแทนไทตะหงิดใจในคำพูดแปลกๆของพ่อตัวเอง เขาลุกขึ้นยืนจะออกไปคุยข้างนอกใบบัวดึงมือเขาไว้ก่อนจะเอ่ยถามเสียงหวาน
"พ่อเลี้ยงไปไหนคะ"
"ไปคุยโทรศัพท์เดี๋ยวมา"
เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจปล่อยมือชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาแล้วหันไปสนใจอย่างอื่นต่อ พ่อเลี้ยงแทนไทเดินออกไปนอกร้านเอ่ยถามถึงสิ่งที่คุณพ่อพูดมาให้กระจ่างมากว่านี้อีกสักหน่อย
"ว่าไงนะครับพ่อผมไม่ค่อยเข้าใจ"
(พ่อหมายถึงว่าจะพาน้องกลับมาอยู่ด้วย พ่อทิ้งไว้ให้เรานานเกินไปแล้วเดี๋ยวน้องไปรบกวนอะไรแกจะบ่นอีก เรียนที่นี่มันก็ดีนะมหาวิทยาลัยเก่งๆมีเยอะแยะพ่อว่าน้องน่าจะอยู่ได้)
"แต่ใบบัวเรียนที่นี่มา3ปีแล้วนะครับน้องเพิ่งปรับตัวได้และอีกปีเดียวก็จะจบแล้ว ให้ย้ายไปมาแบบนี้ผมว่าไม่ค่อยดีนะครับ"
(ไม่เป็นไรหรอกพ่อกลัวน้องจะไปรบกวนแกไง)
"ก็ไม่ได้กวนอะไรมากหรอกครับใบบัวก็อยู่ของเธอได้ไม่เดือดร้อนอะไร ที่ผมพูดเพราะว่าอยากให้เรียนที่นี่จนจบมันเสียเวลาเรียนซ้ำไปมาไม่จบสักที"
คุณพ่อหันไปมองคุณปู่ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ท่าทางจะหวงน้องไม่ให้กลับมาที่นี่ซะแล้วล่ะมั่ง ปกติจะไล่ตะเพิดให้ออกมาจากที่นั่นแทบไม่ทัน แสดงว่าคงมีเรื่องอะไรดีๆล่ะมั่ง
(งั้นพ่อจะลองถามใบบัวดูว่าอยากกลับมามั้ย)
"ไม่ต้องถามหรอกครับใบบัวไม่อยากกลับตอนนี้หรอก เอาเถอะผมจะดูแลให้แล้วกันแค่นี้นะครับผมกินข้าวอยู่"
เขาเอ่ยตัดบทก่อนจะกดวางสายทันที ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าอยากให้อยู่หรืออะไรหรอกแต่มันเสียเวลาเพราะเรียนมาถึงขนาดนี้แล้วอีกปีเดียวก็จะจบและไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องกลับไปตอนนี้ เพราะฉะนั้นเรียนต่อไปก่อนไม่ต้องย้ายไปย้ายกลับ
ท่านพิทักษ์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหน้าคุณปู่ เขาคงคาดเดาคำตอบจากสีหน้าได้ไม่ยากว่าคงไม่ยอมให้กลับมาที่ฮ่องกงตอนนี้ ตอนแรกเสียงแข็งไม่ยอมช่วยดูแลแต่ไหงตอนนี้เฝ้าไม่ยอมปล่อย
"ไม่ให้มาสินะ"
"ครับคุณพ่อ ตอนแรกที่ฝากใบบัวไปอยู่ด้วยค้านหัวชนฝาว่าไม่รับไปดูแลแน่นอนแต่พอถึงตอนนี้กลับไม่ยอมพามาคืน"
"ก็แกต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอไง"
คุณปู่ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่ม เหตุผลที่เขารับใบบัวมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กเพราะโตขึ้นมาจะให้มาเป็นลูกสะใภ้ของเขา และผู้หญิงที่จะขึ้นเป็นนายหญิงคนต่อไปเขายกให้หนูใบบัวคนเดียวเท่านั้น และที่ส่งเธอไปอยู่กับลูกชายก็เพราะอยากให้ทั้งสองคนอยู่ดูแลกันเรียนรู้กันและกันให้มากขึ้น
"คุณพ่อว่าแบบนี้มีโอกาสมั้ยครับ"
"ไม่รู้สิ... แต่คิดว่าแกน่าจะสมหวังนะ"
พ่อเลี้ยงแทนไทเดินมาที่โต๊ะเห็นใบบัวกำลังตักปลาใส่จานให้เขาอยู่อย่างต้้งใจ เขาชอบกินปลาแต่ไม่กินเพราะขี้เกียจแกะก้างปลาออก และทุกครั้งที่กินข้าวกับใบบัวเธอจะทำให้ตลอด
"หิวไม่ใช่เหรอทำไมไม่กินก่อน"
เธอหันมามองชายหนุ่มก่อนจะดึงมือเขามานั่งลงที่โต๊ะจากนั้นก็วางจานให้ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มหวาน
"รอพ่อเลี้ยงไงคะ ใบบัวแกะปลาให้แล้วค่ะกินได้เลยอยากกินอีกก็บอกนะคะใบบัวทำให้"
เธอยิ้มออกมาก่อนจะมองเขากินอาหารในจานของตัวเอง เอาจริงตอนที่เป็นเด็กเขาไม่ค่อยผูกพันหรือคุยกับใบบัวมากเท่าไหร่เพราะไม่ได้สนใจและเคยบอกไปแล้วว่าจะไม่ช่วยเลี้ยงพ่อกับคุณปู่จึงช่วยกันดูแลเองแต่แปลกที่กิริยามารยาทอ่อนน้อมพูดจาไพเราะมากหรือว่าเป็นแม่เขาเองรึเปล่าที่เลี้ยงเองถึงได้ออกมาแบบนี้
"กินไปเถอะเดี๋ยวมีงานต่อต้องไปทำ"
"ว่าแต่คุณพ่อโทรศัพท์มาหาพ่อเลี้ยงเหรอคะ เมื่อกี้ก็โทรมาหาหนูแต่ว่ารับไม่ทันค่ะเดี๋ยวถึงบ้านค่อยโทรกลับ"
พ่อเลี้ยงแทนไทชะงักไปก่อนจะหันไปมองหญิงสาวทันที หรือว่าจะโทรมาคุยเรื่องที่จะให้กลับฮ่องกงมีโอกาสเป็นไปได้สูงมากเลยนะ
"ถ้าพ่อให้กลับฮ่องกงจะกลับมั้ย"
"หมายถึงใบบัวเหรอคะ ยังเรียนไม่จบเลยจะกลับได้ยังไงแต่ถ้าคุณพ่อสั่งใบบัวก็ต้องไปค่ะ"
เธอไม่ดื้อกับผู้ใหญ่อยู่แล้วถ้าท่านอยากให้กลับเธอก็ต้องไป แต่ใจจริงเธออยากอยู่กับพ่อเลี้ยงมากกว่าเพราะเขาอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล
"แต่ใบบัวอยากอยู่กับพ่อเลี้ยงนะ"
"ก็อยู่สิไม่ได้ไล่สักหน่อย"
เธอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาทันทีถ้าเขาอนุญาตให้เธออยู่ได้เธอก็จะไม่กลับคงอยู่จนกว่าจะโดนไล่แหละมั่ง...
"งั้นไม่ไปค่ะจะอยู่กับพ่อเลี้ยง"
"อยู่ได้แต่ห้ามดื้อ ฉันไม่ชอบเด็กดื้อ"
"ดื้อตรงไหนใบบัวน่ารักออก ชิ"