Secretly Love12: ไปเที่ยวกัน

1342 คำ
หลายวันต่อมา... บ้านลิเคียว          วันนี้เป็นวันที่เราจะไปเชียงใหม่กันโดยการนั่งเครื่องบินและกระทิงจะมารับฉันไปเจอเพื่อนที่สนามบินเลย          ปิ๊ดๆ          น่าจะมาแล้วมั้ง? ฉันหยิบกระเป๋าและเดินออกไปหากระทิง อ๋อ ส่วนพ่อแม่ฉันพานักมวยไปแข่งที่ภูเก็ตไม่อยู่หรอก          “มอนิ่ง~” พอเปิดประตูมานั่งก็ทักทายกระทิงนิดหน่อย          “อืม ไม่ลืมอะไรนะ?”          “ไม่ลืมๆ รีบไปเถอะป่านนี้บ่นกันแล้วมั้ง” เพราะตอนนี้ใกล้เวลาแล้วด้วยแต่ว่าเราพึ่งจะออกจากบ้าน          Rrrวุ้น          “เพื่อนโทรตามแล้ว....ฮัลโหล” ฉันบอกกระทิงก่อนกดรับสายของวุ้น          “พวกมึงอยู่ไหนแล้วคะ?” เสียงแว้กๆของมันทะลุมา          “นี่ จะถึงแล้ว” ฉันบอกทั้งๆที่เราพึ่งออกบ้านขอโทรที่โกหก          “เออ รีบๆเลย”          “เหยียบเลยนาย”          บรื้นนนน          พอฉันบอกแบบนั้นกระทิงก็เพิ่มความเร็วของรถขึ้นอีก มันโคตรเร็วแต่ฉันไม่กลัวหรอกออกจะชอบซะมากกว่าเพราะฉันมันชอบความเร็วอยู่แล้วแค่นี้ จิ๊บๆ สนามบิน BKK          และแล้วเราก็มาถึงสนามบินทันเวลาโดยเพื่อนของเรากำลังยืนอยู่บูดอยู่หน้าเกรดทางเข้าเครื่องบิน          “พวกมึงช้ามากกกกค่ะ” เสียงนี้เป็นเมลเจ้าเก่าไม่รู้มันจะบ่นอะไรนักหนาประมาณว่าแม่คนที่ 2 ของพวกฉัน          “ก็มาทันไหม?”          “งั้นเราไปกันเถอะ” โอโซนบอกและจูงมือแก้วใสเดินเข้าไปด้านใน          “หวานเกิ๊นกูเลี่ยนนนน” วุ้นบ่นและเดินตามกันเข้าไป เชียงใหม่          พวกเราใช้เวลาในการนั่งเครื่องบินประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงที่หมายและต่อรถด้วยรถที่ทางบ้านชินจัดเตรียมไว้ให้เรามาถึงที่พักซึ่งเป็นรีสอร์ทของครอบครัวชิน          “ใครนอนกะใคร?” ชินถามพร้อมถือกุญแจในมือ          “กูนอนกับแก้วใส” โอโซนพูดแล้วหยิบกุญแจออกมาจากชิน ส่วนแก้วใสยืนหน้าแดงอยู่          “นี่มึงสองคน...” ไผ่พูดแล้วทำสายตาแซวๆ          “งั้นกูนอนกับลิเคียว ป่ะ!!” หมับ กระทิงพูดและหยิบกุญแจมาจากชินอีกคน และจูงมือฉันมาที่ห้องพัก ฉันไม่ได้เตรียมตัวว่าเราจะนอนด้วยกันเลยนะ เกร็งอ่ะ          “นายแน่ใจนะว่าจะนอนกับฉัน?” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ          “เออ มึงแฟนกู แหนก็ต้องนอนด้วยดิหรือมึงไม่อยากนอน?” เลิกคิ้วถาม          “อยากๆๆฉันอยากนอนกับนาย”          “หะ อยากนอน?” “ไม่ๆ หมายถึงนอนอ่ะ นอนเฉยๆ” ฉันล้นลานตอบ “กูยังไม่ได้บอกเลยว่านอนทำอะไร..หึ” “นายแกล้งฉันอ่า~”   ฉันตีเบาๆไปที่ไหล่ของเขา ก่อนที่เราจะแยกย้ายไปจัดการกับข้าวของ ของตัวเองเราใช้เวลาในการจัดกันไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย “กระทิง..หิว” ตั้งแต่มาถึงที่นี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย กินขนมบนเครื่องไปนิดหน่อยเอง “งั้นก็ไปหาอะไรกินกัน” เราเดินลงมาที่ห้องอาหารที่มีอาหารมากมายให้เลือกกินและก็มีพวกเพื่อนๆเราที่มาก่อนหน้าแล้ว “มาๆแดกข้าวไอ้กระทิง” ไผ่กวักมือเรียก “เออ รู้แล้วก็ลงมาแดกข้าวนี่แหละไม่ได้มานอน” “มึงกวนตีนอ่า~” ไผ่ดิ้นงอแงจนพวกเราขำออกมา “ปัญญาอ่อนฉิบหายอย่าบอกใครนะว่าเป็นเพื่อนกู” กระทิงอย่างขำๆใส่ไผ่ “แงง ไอ้คนนี้เพื่อนผมครับบบบบบ” ไผ่ตะโกนชี้มาที่กระทิงที่ตอนนี้หน้าเหวอไปแล้ว ฮ่าๆ “หุบปากไอ้สัส ลูกค้ากูหายหมดแล้ว” ป้าบ! ชินด่าและตบหัวไผ่ไปทีนึง “พวกแกล้งกูลิเคียวช่วยไผด้วยยยย~” เขามากอดแขนฉันและเอาหน้ามาถูๆฉันทำอะไรไม่ถูกแล้วนะ “ปล่อยเมียกูไอ้สัส” กระทิงมาดึงออกไป “โอ๊ยยย เจ็บ แต่แหมเรียกเมียได้กันแล้วเหรอ?” ไผ่ถามอะไรออกมาเนี่ย-///- “เสือกสัสๆเลยมึงเนี่ยยยย” ฉันที่มองพวกเขาตีกันอยู่ก็เดินไปหาอะไรกินก่อนเพราะหิวมากจริงๆ “กินไรดีว้า?” ฉันยืนเลือก “ผมแนะนำให้ไหมครับ?” จู่ๆก็มีผู้ชายเดินเข้ามมาหาฉันและบอกจะแนะนำอาหารให้ “เอ่อ มะไม่เป็นไรค่ะ” ฉันตอบปฏิเสธไปและพยายามเดินเลี่ยงออกมาแต่เขาก็ตามฉันอยู่นั่นแหละ “ผมเป็นผู้จัดการที่นี่ถ้ามีอะไรสงสัยถามได้เลยนะครับ” แต่เพื่อนฉันเป็นเจ้าของนะ “มะ...” “เป็นแค่ผู้จัดการแต่เสือกมาหน้าหม้อใส่ลูกค้า เพื่อนกูเป็นเจ้าของกูยังไม่พูดเลย” กระทิงที่มาตอนไหนไม่รู้ตอบแทนฉันออกไป แต่จะเรียกว่าก็ไม่ได้เรียกว่าด่าดีกว่า “เอ่อ แล้วคุณเป็นใครครับ?” ผู้จัดการมองหน้าถามแต่มองแบบนี้เป็นฉันต่อยร่วงไปแล้ว “ผัวยัยนี่มึงคล่องอะไรไหม?” กระทิงถามอย่างหาเรื่อง “หะ?” “พอเถอะ กระทิงฉันหิวแล้วไปหาอะไรกินกันนะๆ” ฉันพยายามดึงแขนกระทิงแต่ตัวเขาไม่ขยับเลย “ไอ้ชิน!!!!” นอกจากไม่สนใจยังไปเรียกคนอื่นอีก “อะไรว่ะ?” ชินที่ได้ยินเพื่อนเรียกก็เดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว “บอกผู้จัดการของมึงซะว่าอย่ามายุ่งกับผู้หญิงของกูถ้าไม่อยากตกงาน” กระทิงพูดและมองหน้าผู้จัดการไม่หยุด “เห้อ คุณจิมครับกรุณาหยุดพฤติกรรมแบบนี้สักทีนะครับ” นี่คงไม่ใช้ครั้งแรกสินะ “ขะขอโทษครับ” คุณผู้จัดการจิมก้มคนขอโทษ “ครับ ครั้งผมจะปล่อยไปแต่ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีกผมต้องให้คุณออก” ชินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่เคยเจอหมวดนี้ของชินเลยแหะ “คะครับ ขอโทษทุกคนด้วยนะครับ” “เอ่อ ไม่เป็นระ..” “เป็น!!! อย่าโพล่งหน้ามึงมาอีกนะ” กระทิงบอกและกระชากฉันออกมา “เจ็บเบาๆ” เพราะเขาดึงฉันจนเจ็บข้อมือหมดแล้ว “ขอโทษจะกินอะไร?” “อืมมม..อันนั้น” ฉันชี้ไปที่ร้านๆนึงและกระทิงก็พาไปซื้อข้าวซื้อน้ำทั้งของฉันและของเขาด้วย เรามานั่งที่โต๊ะที่ตอนนี้คนอื่นกินอิ่มและออกไปเดินย่อยแล้ว เหลือแค่ฉันกับกระทิงแต่..มันมีเรื่องติดใจอยู่นิดหน่อยไอ้คำว่า... “ผู้หญิงของกู..” “นี่..” ฉันเรียกเขาเบาๆ “อะไร?” “เมื่อกี้นี้ขอบใจนะที่...” “ไม่เป็นไรเพราะมึงอยู่ในสถานะแฟนของกู” เขามองหน้าฉันและพูดมันทำให้ใจฉันเต้นโคตรแรงเลย “อ๋อออ หึงอ่ะดิ?” ฉันแกล้งถามไม่รู้ว่าเอาความกล้าแบบนี้มาจากไหน?? “ไม่ได้หึง... แต่การที่มึงเป็นแฟนกูและมีคนอื่นยุ่งกับมึงกูไม่ชอบเพราะฉะนั้นอย่าทำ และถ้ากูเห็นว่ามึงอยู่กับผู้ชายคนอื่นมึงเจ็บ...” “เอ่อ...” ไปไม่ถูเลยแหะ “ฉะนั้นจะทำอะไรก็ไว้หน้ากูด้วยคนอื่นเขาจะว่าเอาว่าเลี้ยงแฟนตัวเองไม่ดี” เจ็บว่ะ “อะอืมเข้าใจแล้ว..” “และอย่าหลงตังเองว่ากูหึงมึงมันไร้สาระ” เขาจ้องหน้าฉันอย่างกดดัน “เข้าใจแล้ว..งั้นนายก็อย่าไปยุ่งกับคนอื่นเหมือนกันเพราะฉันไม่ชอบ ไม่ได้หึงนะ แต่ไว้น่ากันด้วย โดยเฉพาะยัยข้าวสวยนั่น” “จะพูดถึงเพื่อ?” “ไม่รู้โว้ย! ไปหาเพื่อนๆกันเถอะ” ฉันจับมือเขาทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อยากให้บรรยากาศมันเสียไปมากกว่านี้... แค่คิดไปเองก็โคตรเจ็บแล้ว ฉัน..ทำไมต้องถามอะไรแบบนั้นไปด้วยนะ? ต้องการคำตอบแบบไหนกัน... ? ต้องไม่เป็นคำตอบที่ฉันต้องเจ็บสิ แต่นี้มันโคตรเจ็บเลย... เจ็บก็ตรงที่เผลอใจไปรักเธอ... “ทีหลังอย่าคิดไปเองอีก...” เขาบอกฉันและเดินนำไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม