บทที่ 8
เด็กตาดำ ๆ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
ภายในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเหล่านักศึกษานับร้อยชีวิต วันนี้เป็นวันที่อาจารย์ได้เชิญคนสำคัญมาให้ความรู้แก่นักศึกษา ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาการเรียนที่ทุกคนจะต้องมาสรุปใจความสำหรับการเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ด้วย
ปิ่นเดินเข้ามาในห้องพลางชะเง้อมองหาที่นั่งที่ตอนนี้เกือบเต็มทั้งหมด พอเห็นที่ว่างก็ต้องชะงักเพราะที่ข้าง ๆ ตรงนั้นมีคนคนหนึ่งนั่งอยู่
หญิงสาวหมุนตัวหวังจะเดินไปหาที่นั่งตรงอื่น แต่ทว่ากลับได้ยินเสียงเรียกรั้งตะโกนตามมา พานทำให้คนอื่น ๆ ภายในห้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว
"ปิ่น! จะไปไหน ฉันจองที่ไว้ให้แล้ว" เสียงเข้มเอ่ยเรียกทำให้ปิ่นหยุดชะงัก เธอหันกลับไปมองเพื่อนร่วมเซคที่ไม่อยากอยู่ใกล้มากที่สุด แต่พอถูกสายตาของคนอื่นจ้องมองก็ทำให้ไปไม่เป็นเหมือนกัน
"ลุคจองที่ไว้ให้ปิ่นเหรอ"
"ทำไมลุคถึงจองที่ให้ปิ่นด้วยอะ สองคนนั้นสนิทกันเหรอ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลย"
"ลุคต้องจีบปิ่นอยู่แน่ ๆ เลยอะ"
เสียงซุบซิบดังเข้ามาทำให้ปิ่นได้ยินอย่างชัดเจน เธอเม้มปากแน่นด้วยความประหม่า ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนตัวโตที่ตอนนี้กำลังมองมายังเธออย่างไม่สะทกสะท้าน
"ทำไมต้องจองที่ให้ฉันด้วย" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก ทั้งที่เธอและเขาก็ไม่ได้รู้จักสนิทสนมกัน แต่อยู่ ๆ มาจองที่ให้กันแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ตกเป็นเป้าสายตา
"เอ้า ก็เห็นว่าไม่มีเพื่อนคบ ฉันเลยจะคบเธอเป็นเพื่อนให้นี่ไง" อีกฝ่ายยิ้มกริ่มก่อนจะดึงกระเป๋าของตัวเองออกจากที่นั่งที่เขาได้จองไว้ให้กับหญิงสาวมาอยู่กับตัว พอเห็นหน้าแดง ๆ ที่แสดงออกว่าไม่พอใจกลับทำให้เขาชอบใจอย่างบอกไม่ถูก
"งั้นก็ไม่เป็นไร ฉันไม่มีเพื่อนก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย"
"นั่งลงเถอะน่า จะดื้อให้มันได้อะไร แค่ที่นั่งที่เดียวไม่เห็นต้องเรื่องมากเลย"
"ก็..."
"นั่งลง โน่นอาจารย์เข้ามาแล้ว!"
ปิ่นถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เธอได้แต่ยอมจำนนนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกายของเขา เพราะอาจารย์ได้เข้ามาในห้องเป็นที่เรียบร้อย
"สวัสดีค่ะทุกคน หืมวันนี้มากันเยอะเลยนะคะเนี่ย ปกติแทบจะนับคนได้เลย...เอาล่ะค่ะ อย่างที่ทราบว่าวันนี้อาจารย์ได้เชิญนักธุรกิจมาให้ความรู้กับทุกคน แล้วอาจารย์ก็จะให้ทุกคนส่งบทสรุปมาให้อาจารย์ด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นตั้งใจฟังให้ดีค่ะ มันมีผลต่อเกรดของพวกคุณมาก ๆ"
ปิ่นหยิบสมุดและปากกาออกมาหวังจะจดตามสิ่งที่อาจารย์บอก เธอไม่มีอุปกรณ์หรือแท็ปเล็ตเหมือนคนอื่น ๆ แต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเธอเลยสักนิด
"เธอเห็นหรือยังว่าใครจะมาพูดให้ความรู้"
"ยัง" หญิงสาวส่ายหน้า แต่สายตากลับไม่ได้หันไปมองกับคนข้างกายที่กำลังเอ่ยถาม
"ฉันรู้จักมัน เอ่อ...รู้จักเขาด้วยนะ แม่งโคตรขี้แอ็ก!"
"นี่! ไปว่าเขาอย่างนั้นได้ยังไง"
"เหอะ ก็มันขี้แอ็กจริง ๆ เธอรู้จักป้ะ ไอ้อิฐที่เป็นทายาทของบริษัทจิลเวอรี่อะ"
ปิ่นนิ่งไปสักพักแต่ก็ต้องส่ายหน้ากลับไปเพราะเธอแทบจะไม่รู้จักนักธุรกิจเลยสักคน ในวงการแบบนี้เธอรู้ดีว่าคนอย่างเธอคงไม่มีทางเข้าไปอยู่ในโลกแบบนั้นได้ อย่างมากก็ทำได้แค่นั่งค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตก็เท่านั้น
แต่ชื่อที่ลุคบอกก็ทำให้ปิ่นเอะใจอยู่เล็กน้อย อิฐที่เธอรู้จักในชีวิตนี้มีแค่คนคนเดียวนั้นก็คือผู้มีพระคุณที่ให้ที่อยู่อาศัยกับเธอ แต่พอลองคิดไปมากลับทำให้ต้องสะบัดหัวรัว ๆ เพราะไม่คิดว่าความบังเอิญจะเกิดขึ้น
จนกระทั่ง...
"เอาล่ะค่ะนักศึกษา หากมีอะไรจะสอบถามให้ยกมือขึ้นนะคะ อาจารย์ขอความกรุณาให้ถามเฉพาะคำถามที่เกี่ยวกับงานเท่านั้นนะ ขอเชิญคุณอิฐได้เลยค่ะ เป็นเกียรติมาก ๆ เลยที่คุณอิฐให้ความกรุณามาให้ความรู้กับเด็ก ๆ ที่นี่"
สิ้นเสียงของอาจารย์ก็ทำให้ทุกคนภายในห้องต่างปรบมือต้อนรับกันยกใหญ่ รวมไปถึงหลาย ๆ คนที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้เพราะอยากเห็นหน้ากับบุคคลสำคัญอย่างเต็มตา เช่นเดียวกับปิ่นที่อยากรู้อยากเห็นไม่แพ้กัน
แต่ทว่า...
"นั่นมัน...!" ปิ่นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ราวกับถูกของแข็งทุบกลางศีรษะทำให้มึนตึงจนพูดอะไรไม่ออก
คนที่เธอเห็นอยู่ด้านหน้าห้องคืออิฐ!
อิฐที่เป็นผู้มีพระคุณของเธอจริง ๆ!
นี่มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว!
"เฮ้ย! อึ้งขนาดนั้นเลยเหรอ ตกใจความหล่อของมันหรือไง" ลุคเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดก่อนที่เขาจะกระตุกแขนของปิ่นให้ได้สติ
"ฮะ? อะ...เอ่อ มะ...ไม่ใช่นะ ไม่ใช่แบบนั้น!" หญิงสาวส่ายหน้าหวือ ก่อนจะตั้งสติกับตัวเองและนั่งลงที่เก้าอี้ดังเดิม
หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ ตอนนี้เธอกำลังตกใจอยู่ไม่หายแต่ก็ต้องกักเก็บเอาไว้ในส่วนลึก
ที่เธอตกใจไม่ใช่เพราะเป็นที่ความหล่อเหลาของเขา แต่เป็นเพราะเขามาอยู่ในที่แห่งนี้ต่างหาก เขาอยู่ในฐานะนักธุรกิจและผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับรายวิชานี้ แถมยังเป็นที่สนใจของคนอื่น ๆ ภายในห้องอีกต่างหาก!
"ไม่เห็นจะหล่อ ฉันหล่อกว่าตั้งเยอะ"
"นายนี่มัน..." ปิ่นขมวดคิ้วยุ่งแต่เลือกที่จะเงียบไม่ต่อความอะไรกับคนข้างกาย
เอาอะไรมาไม่หล่อกัน เขาน่ะโคตรจะหล่อเลย แถมเขายังเป็นต้นเหตุที่ทำให้หัวใจของเธอสั่นระริกหวั่นไหวไม่หายตั้งแต่วันนั้น!
ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงนิด ๆ คลาสเรียนในวันนี้ก็จบลง อิฐให้ความรู้และพูดถึงธุรกิจของตัวเองตามหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ผิดกับปิ่นที่ตอนนี้กำลังเลื่อนลอยสติหาย ไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่อิฐพูดล้วนแต่มีส่วนสำคัญกับงานของเธอทั้งนั้น
"ขอรบกวนถ่ายรูปรวมกับคุณอิฐหน่อยนะคะ เอาล่ะค่ะนักศึกษาเดินมาข้างหน้าเลยค่ะ อาจารย์จะถ่ายรูปเก็บไว้"
เสียงของอาจารย์ทำให้เหล่านักศึกษาเดินไปยังด้านหน้าห้องเพื่อจัดเรียงแถวสำหรับถ่ายรูป แต่ทว่าในตอนนั้นปิ่นเองยังคงเหม่อลอยโดยที่ไม่รู้เลยว่าอาจารย์กำลังสั่งให้ทำอะไร
"นี่! นี่ยัยบื้อ ลุกสักที!"
"ฮะ!? อะ...อะไรนะ นายว่าไงนะ"
"อาจารย์ให้ไปถ่ายรูปข้างหน้า"
"งะ...งั้นเหรอ" ปิ่นลุกขึ้นและรีบเดินไปยังหน้าห้องโดยมีลุคเดินตามมาติด ๆ
ซึ่งจังหวะนั้นสายตาของอิฐก็จดจ้องมองมายังที่ปิ่นพอดิบพอดี แต่หญิงสาวกลับหันหนีและเลือกที่จะไปยืนอยู่ขอบแถวให้ห่างจากเขามากที่สุด
"มานี่ มายืนข้างฉันนี่"
"อ๊ะ...นี่นาย!"
"ขี้บ่น!"
ทว่าร่างบางถูกดึงรั้งโดยฝีมือของลุค ปิ่นตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปตามแรงดึงของเขา จนกระทั่งทุกคนภายในห้องได้ยืนจัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
การถ่ายภาพจบลงหลังจากนั้นอาจารย์ก็กล่าวของคุณกับแขกสำคัญที่ให้เกียรติมาให้ความรู้ภายในคลาส อิฐโค้งศีรษะลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเดินออกไป แต่ทว่าก่อนหน้านั้นสายตาคมกลับจดจ้องไปยังหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังทำท่าฟึดฟัดอยู่กับชายหนุ่มรุ่นเดียวกันกับเธอ ที่เขาเองก็พอรู้จักและคุ้นหน้าอยู่เหมือนกัน
ร่างสูงสง่าเดินตรงไปตามทาง หลังจากที่มาทำหน้าที่แทนผู้เป็นพ่อในฐานะนักธุรกิจที่ทางคณะได้ต่อติดไปนั้น เขาก็ตรงปรี่ไปยังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้เป็นอย่างดี
จนกระทั่งนั่งประจำที่เบาะรถ มือหนาหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะส่งข้อความไปให้กับปิ่นด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
MESSAGE - PIN
: กลับพร้อมฉัน
: ฉันจะจอดรออยู่ที่ตึกข้าง ๆ
: รีบมา ฉันให้เวลาสิบนาที
หญิงสาววิ่งตรงปรี่ไปยังจุดหมายหลังจากที่ได้รับข้อความจากผู้มีพระคุณ ใบหน้าแดงซ่านเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เวลาเที่ยง ๆ แบบนี้แดดร้อนจนแสบระคาย แต่พอจินตนาการถึงน้ำเสียงผ่านตัวอักษรของอิฐเท่านั้น กลับทำให้ความรู้สึกทุกอย่างหายไป หลงเหลือเพียงความเร่งรีบที่จะต้องทำเวลาไปหาเขาภายในสิบนาที
ขาเล็กก้าวฉับกึ่งวิ่งไปยังตึกข้าง ๆ ของคณะตัวเอง เธอหันมองซ้ายขวาจนกระทั่งเห็นรถยนต์คันหรูสะดุดตาของเขาก็ทำให้รีบเดินเข้าไปหาในทันที
"สิบสองนาที ช้า"
เมื่อเปิดประตูออกเสียงเข้มก็เอ่ยขึ้นพานทำให้คนตัวเล็กชะงักงัน แววตาหวานสั่นไหวพลางหลบเลี่ยงไปอีกทางเพราะกลัวว่าจะถูกดุที่ไม่ตรงต่อเวลา
"ขะ...ขอโทษค่ะ"
อิฐหันหน้าออกและหันไปสนใจกับหนทางตรงหน้า เขาขับตรงไปตามทางซึ่งจุดหมายก็คือคอนโดฯ ที่ยกให้เธออยู่อาศัย เพียงแต่ว่าการที่เขารับเธอกลับด้วยกันในครั้งนี้นั้นก็เพราะว่าเขาอยากจะถามอะไรกับเธอบางอย่าง
ภายในรถตกอยู่ภายใต้ความเงียบ หญิงสาวทำใจกล้ากดสายตามองคนข้างกาย ที่ตอนนี้กำลังจดจ่อกับหนทางตรงหน้าโดยไม่มีคำใดเอ่ยออกมา จะว่าเขาหงุดหงิดหรือโมโหที่เธอมาช้าสองนาทีก็ไม่น่าใช่ คนอย่างเขาไม่น่าจะใช่คนคิดเล็กคิดน้อยแบบนั้น
"ทำไมพี่อิฐถึงให้ปิ่นกลับด้วยล่ะค่ะ" ปิ่นเปิดประโยคและยกยิ้มบาง ๆ หวังให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น
"รู้จักไอ้ลุคด้วยเหรอ"
ทว่าอิฐไม่ได้ตอบคำถาม แต่เขาเลือกที่จะถามเธอกลับไป อีกทั้งใบหน้าหล่อเหลายังหันมองคนตัวเล็กอย่างเอาคำตอบ
"คะ? อ้อ...ลุคเป็นเพื่อนที่คณะน่ะค่ะ"
"สนิทกับมันด้วย?" อิฐเลิกคิ้วถาม
"ไม่สนิทหรอกค่ะ ความจริงปิ่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเรียนคณะเดียวกันด้วย คือ...จริง ๆ ปิ่นไม่ค่อยสุงสิงกับใครหรอกค่ะ ทำแต่งาน เลิกเรียนก็ไปทำพาร์ทไทม์เลยไม่ได้สนิทกับใครที่ไหน แต่กับลุคปิ่นเองก็เพิ่งคุยกันครั้งแรกเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง"
"อ้อ งั้นก็แปลว่าไม่สนิท" คราวนี้เธอเห็นรอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากของคนตัวโต
"เรียกว่าแทบจะไม่รู้จักเลยดีกว่า ลุคเขาเป็นหนุ่มฮอตของคณะด้วยนะคะ ปิ่นเห็นคนมองแต่เขาทั้งนั้น แต่ก็อย่างว่า ปิ่นไม่ได้สุงสิงกับใครก็เลยไม่รู้จักใครเลย"
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายเธอก็เลยพูดพร่ำไปถึงเพื่อนร่วมคณะคนนั้นให้กับอิฐฟัง เธอสังเกตตอนที่ลุคจองที่ไว้ให้ ทุกคนถึงกับมองเธอเป็นตาเดียว นั่นเลยทำให้เธอรู้ว่าลุคคงจะเป็นหนุ่มฮอตในหมู่ของสาว ๆ เลยทีเดียว
"เหอะ! ไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั่นอะนะ"
"พี่อิฐรู้จักลุคด้วยเหรอคะ"
"มันเป็นลูกเพื่อนพ่อฉัน เคยเห็นตามงานอยู่บ่อย ๆ แม่งเกรียนโคตร เด็กเวร..."
คำว่า 'เด็กเวร' อิฐเอ่ยออกมาเบา ๆ เขาไม่ได้พูดเพราะหมั่นไส้แต่มันคือความจริงในความคิดของเขา อิฐเห็นลูกเพื่อนพ่อมาหลายครั้ง พูดคุยกันก็หลายหน มองดูเพียงนิดเดียวก็รู้ว่าไอ้คนนี้แม่งไม่น่าอยู่ใกล้ด้วยสุด ๆ!
"อย่างนี้นี่เอง..."
"ตอนแรกก็นึกว่าแฟน แต่ดีแล้วแหละที่ไม่ได้สนิทกับมัน อย่าไปยุ่งกับมันเลยไอ้คนแบบนั้น"
"โห! ปิ่นไม่มีแฟนง่าย ๆ หรอกค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่เปิดใจนะคะ แต่ปิ่นไม่มีเวลา แหะ...ทำแต่งาน" ปิ่นหัวเราะเบา ๆ ลองคำนวณเวลาดูแล้วส่วนใหญ่เธอจะอยู่ที่ทำงานมากกว่าห้องนอนซะอีก
"ฮึ ทำงานหนักขนาดนี้ระวังเถอะจะน็อคเอา"
"ปิ่นทำจนชินแล้วล่ะค่ะ ท่องในใจตลอดว่าเพื่อเงิน เพื่อเงิน!"
ติ๊ง!
ติ๊ง!
ปิ่นหัวเราะกับอุดมการณ์เพื่อเงินของตัวเอง แต่ไม่นานเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้มือเล็กหยิบมันออกมาดูในทันที
MESSAGE - AC Sec2
: อาจารย์กำหนดวันส่งงานพฤหัสนี้ ก่อนเวลา 17.00 น. นะคะ
: ส่งผ่านเมลเท่านั้น
: กรุณาส่งให้ตรงเวลา ส่งช้า ส่งเลทอาจารย์ตัดสิทธิ์ทันทีค่ะ
ปิ่นมองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ก็ถึงกับหน้าซีดตัวสั่น อาจารย์คนนี้ไม่ได้น่ากลัวหรือดุเลยแต่เวลาส่งงานกลับกลายเป็นคนละคน ที่เธอมองว่าโหดติดอันดับท็อปสาม
แถมสิ่งที่อิฐได้อธิบายให้ความรู้ เธอเองก็ไม่ได้สนใจเพราะมัวแต่เหม่อลอยอยู่ด้วย!
"เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น" อิฐเอ่ยถามเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าของคนข้างกายที่เปลี่ยนไป
"เอ่อ...คืออาจารย์กำหนดเวลาส่งงานน่ะค่ะ"
"งานที่ฉันไปวันนี้อะนะ"
"ใช่ค่ะ..." หญิงสาวพยักหน้ารับหงึก ๆ แต่สายตาและน้ำเสียงกลับสั่นไหวบ่งบอกเธอกำลังรู้สึกบางอย่าง
"ทำไมล่ะ มีอะไรหรือเปล่า"
"พี่อิฐคะ...ปิ่นอยากขอความช่วยเหลือจากพี่ ช่วยเหลือเด็กตาดำ ๆ คนนี้อีกครั้งนะคะ" เสียงหวานเอ่ยอย่างขอร้อง ทั้งแววตาและท่าทางของเธอทำให้อิฐชะงักไปในทันที
ให้ตาย...ตอนนี้ยัยนี่กำลังอ้อนเขาอยู่งั้นเหรอ...?
อิฐนึกคิดในใจและลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
"อะไรของเธอ"
"คือว่า..."