บทที่ 3 เด็ก

1918 คำ
บทที่ 3 เด็ก ประตูห้องของคอนโดฯ หรูหราใจกลางเมืองถูกเปิดออก ตามด้วยร่างสูงของอิฐที่เดินนำเข้ามาในฐานะเจ้าของห้องแห่งนี้ ซึ่งปิ่นเองก็เดินตามเขาไปด้วยท่าทางประหม่า โดยไม่มีคำใดเอ่ยออกมาเลยแม้แต่น้อย ปิ่นตอบรับความช่วยเหลือจากอิฐอย่างหมดหนทาง เธอไม่มีญาติหรือเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้สักคน ตอนนี้อิฐก็คือที่พักพิงที่เดียวและที่สุดท้ายของเธอแล้ว "นี่คอนโดฯ ฉันเอง ปกติฉันจะมานอนที่นี่ตอนที่เลิกงานดึก ๆ หรือไม่ก็วันที่ปาร์ตี้หนัก ๆ แต่ปกติแล้วฉันจะอยู่บ้านส่วนใหญ่ เธอก็อยู่ที่นี่ไปแล้วกัน" ในฐานะเจ้าของห้องก็ต้องแนะนำให้ผู้อาศัยเข้าใจ ที่แห่งนี้เคยเป็นที่หลับนอนส่วนตัวของเขา แต่ในเมื่อมีคนมาอยู่แล้วเขาก็จะไม่เข้ามาก้าวก่าย ถือซะว่ายกห้องนี้ให้เธอพักพิงในยามไร้หนทาง "จริง ๆ คุณให้ฉันเช่าอยู่ก็ได้ค่ะ ฉันจะขอจ่ายรายเดือนให้คุณเป็นค่าตอบแทน" ปิ่นมองคนตรงหน้าด้วยความเกรงใจ แม้ว่าจะยังคงประหม่าและหวั่นกลัวเขาอยู่บ้าง แต่ในเมื่อเขายื่นมือช่วยเหลือเธอแบบนี้ก็ควรจะตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เขาบ้าง "ไม่ต้อง เด็กอย่างเธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย" อิฐขมวดคิ้วยุ่งราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังติเตียนเด็ก เห็นสภาพเธอแบบนี้ใครบ้างจะไม่สงสาร ให้เธอนำเงินเหล่านั้นไปเล่าเรียนหรือกินอยู่มันคงจะดีและมีประโยชน์เสียกว่า "คุณอายุเท่าไหร่คะ ทำไมถึงมาบอกว่าฉันเด็ก" ประโยคนั้นทำให้อิฐถึงกับหัวเราะออกมา สายตาคมกดมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้กำลังถือดีไม่เกรงกลัวเช่นเดิมอีกแล้ว ดูท่าแล้วเธอคนนี้คงจะดื้อรั้นไม่เบา "แล้วเธอล่ะอายุเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เดาก็คงยังเรียนอยู่สินะ อยู่ปีไหน มหา'ลัยอะไร" "คะ...คุณ!" "ว่าไง ตอบสิ" อิฐไม่ตอบคำถามของหญิงสาวแต่เขาเลือกที่จะถามกลับไปแทน กล้ายืนยันได้เลยว่าคนอย่างเธอน่ะจะต้องเด็กกว่าเขามากกว่าสามปีเป็นแน่ "ฉะ...ฉันอายุยี่สิบปีค่ะ เรียนอยู่ปีสองแล้ว..." คนตัวเล็กตอบทั้งที่ยังโมโหอยู่ในใจ อยากต่อต้านแต่พอเห็นดวงตาคมกริบที่กดมองก็ทำให้เธอเลี่ยงไม่ได้ "ฉันชื่ออิฐ อายุยี่สิบหกปี ตอนนี้ไม่ใช่เด็กมหา'ลัยแล้ว เรียนจบมาหลายปีแล้ว กำลังทำงานอยู่ แล้วที่สำคัญฉันอายุมากกว่าเธอ!" อิฐถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะร่ายประวัติให้หญิงสาวตรงหน้าได้รับรู้ พอพูดจบก็เห็นว่าเธอกำลังเม้มปากและก้มหน้าลง อยากหัวเราะเย้ยอยู่เหมือนกันแต่ก็คิดว่าเวลานี้เขาควรพูดคุยเรื่องอื่นมากกว่า "เรียกฉันว่าพี่ก็ได้ ไหน ๆ เราก็รู้จักกันแล้ว ส่วนชื่อเธอน่ะฉันรู้แล้วเหมือนกัน" อิฐอ่อนลงก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟาตัวบาง พร้อมกับเอนหลังพาดแขนด้วยท่าทางสบาย "ค่ะ..." ปิ่นตอบแผ่วเบาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้เธอไม่มีอำนาจมากนัก คนตรงหน้าถือว่าเป็นผู้มีพระคุณ ให้ที่ซุกหัวนอนหรูหราใหญ่โตเกินกว่าที่คิดไว้มากหลายร้อยเท่า "แล้วมีเงินใช้หรือเปล่า โดนไล่ออกมาจากบ้านแบบนั้นแล้วเรื่องเรียนเรื่องเงินจะทำยังไงต่อ" อิฐถามต่อถึงอนาคตของเธอ ตอนนี้เธออยู่ตัวคนเดียว แล้วเรื่องการเรียนของเธอล่ะจะทำยังไง "ฉัน...เอ๊ย! ปิ่นทำงานพิเศษค่ะ ปกติแล้วเรื่องค่าเทอมปิ่นไม่เคยรบกวนใครอยู่แล้ว รวมถึงค่ากินค่าอยู่ด้วย" ปิ่นแก้สรรพนามเพราะเห็นว่าเขาให้เธอเรียกว่าพี่ การที่เธอแทนตัวเองว่าฉัน มันก็ดูห่างเหินและห้วนเกินไป หญิงสาวอธิบายสั้น ๆ แต่ทุกอย่างกลับได้ใจความโดยไม่ต้องถามต่อ เธอทำงานพิเศษเลี้ยงดูตัวเอง มีเงินจ่ายค่าเทอมและมีเงินใช้กินอยู่ เพียงแค่อยู่บ้านหลังนั้นเป็นที่อาศัยเท่านั้น "ทำงานอะไร" "ปิ่นต้องตอบด้วยเหรอคะ" ปิ่นขมวดคิ้วมอง เธอคิดว่าแค่นี้เขาก็น่าจะเข้าใจแล้วไม่ควรจะถามลงลึกรายละเอียดถึงลักษณะของงานขนาดนั้น "ก็..." "ปิ่นทำงานสุจริตค่ะ" เธอตอบเพียงเท่านั้นเพื่อให้เขาวางใจ ถึงจะลำบากยากแค้นแต่เธอก็ไม่มีวันที่จะคิดทำงานสกปรกสีเทาเด็ดขาด "ที่ถามน่ะไม่ได้อยากเซ้าซี้อะไรหรอก ฉันแค่อยากรู้ว่างานที่เธอทำน่ะเงินมันจะพอใช้จ่ายในแต่ละวันรึเปล่า ถ้าไม่พอฉันก็จะให้รายเดือนเพิ่ม" "คะ? คุณ...เอ่อ พี่อิฐไม่ต้องให้เงินปิ่นหรอกค่ะ แค่ให้ที่ซุกหัวนอนก็มากพอแล้ว" "แล้วแต่ ถ้าไม่พอใช้ก็บอกแล้วกัน" อิฐเลิกคิ้วก่อนจะลุกขึ้นเหยียดตามความสูง ในเมื่อเธอไม่ต้องการเงินของเขาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากขาดเหลือเมื่อไหร่เขาก็พร้อมช่วยเป็นคนแรก "ค่ะ ขอบคุณนะคะ" "มีโทรศัพท์ใช้รึเปล่า เอาโทรศัพท์เธอมา ปลดล็อกให้ด้วย" อิฐยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อขอโทรศัพท์จากเธอ หญิงสาวยืนงงแต่ก็ยอมทำตามที่เขาบอก กระทั่งนิ้วเรียวยาวกดตัวเลขสิบหลักซึ่งเป็นเบอร์ของเขา หลังจากนั้นก็ส่งคืนเจ้าของที่ตอนนี้ทำหน้าเหลอหลาชวนหัวเราะเป็นที่สุด "นั่นเบอร์ฉัน ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมา" "อ้อค่ะ..." ปิ่นพยักหน้ารับรัว ๆ กว่าจะรู้ตัวก็ช้ากว่าเขาไปหลายวินาที "ไปละ" ร่างสูงเดินผ่านคนตัวเล็กไปยังประตูห้อง หวังให้เธอใช้เวลาอยู่ในห้องนี้สำหรับการเก็บข้าวของและทำความคุ้นชินกับสถานที่นอนใหม่เสียก่อน "เอ่อ...เดี๋ยวค่ะพี่อิฐ คะ...คือปิ่นจะสามารถตอบแทนอะไรพี่ได้บ้างคะ" ขาเล็กก้าวฉับเดินตามคนตัวโตไปยังประตู แถมดวงตากลมโตยังมองเขาด้วยความใสแจ๋วจนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ "ไม่รู้สิ" อิฐไหวไหล่เล็กน้อย เขาไม่ได้คิดว่าการช่วยเหลือคนคนหนึ่งจะต้องมีการตอบแทนอะไรด้วย "ถ้าคิดออกเมื่อไหร่ก็บอกนะคะ อิฐทำได้ทุกอย่างเลย ทำอาหาร ทำความสะอาด สามารถเรียกใช้ได้เลยค่ะ" ทว่าประโยคนั้นทำเอาอิฐถึงกับหลุดหัวเราะ คนอย่าเขาจะต้องการแม่บ้านแม่ครัวไปทำไมกัน ทั้ง ๆ ที่บ้านหลังใหญ่ของเขามีทุกอย่างครบครันเพียงดีดนิ้วเรียก "เหอะ เด็กอย่างเธอตั้งใจเรียนก็พอ!" หลังจากถูกให้ตั้งใจเรียนจากผู้มีพระคุณ ปิ่นก็จัดการเก็บข้าวของอันน้อยนิดของตัวเอง พร้อมกับปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดภายในห้องที่ไม่มีแม้แต่ฝุ่นให้เห็น เธอยืนทึ่งกับความสวยงามของคอนโดฯ สูงใหญ่ใจกลางเมือง เพียงชะโงกหน้าดูกระจกก็เห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบเมืองหลวง รู้เลยว่าทั้งชีวิตนี้เธอคงไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อที่อยู่แบบนี้ได้เป็นแน่ "คนรวยก็รวยเอารวยเอา ส่วนคนจนก็จ๊นจน! เฮ้อ..." ปิ่นถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ประเมินราคาห้องนี้ไม่ถูกเลยว่าจะต้องควักเงินจ่ายกี่สิบล้าน การเติบโตอยู่บนโลกใบนี้ได้ยี่สิบปีของปิ่นเรียกได้ว่าไม่เคยได้แตะคำว่าร่ำรวยมีฐานะเลยด้วยซ้ำ เธอเป็นลูกของเมียน้อยที่พ่อแอบมีบ้านเล็กลับหลังเมียใหญ่ พอแม่ตายพ่อก็พาเธอไปอยู่ที่บ้านรวมกับแม่เลี้ยงและพี่สาวใจมารทั้งสองคน จนกระทั่งพ่อตายไป ชีวิตของเธอไม่ได้พบเจอกับความสุขอีกเลย "ห้องตั้งใหญ่จะมีผีหรือเปล่าเนี่ย โหวง ๆ ยังไงก็ไม่รู้" ครืด...ครืด... ก่อนจะคิดไปถึงเรื่องผีสาง แรงสั่นของโทรศัพท์ทำให้หญิงสาวหยุดชะงักไปเสียก่อน มือเล็กหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะกดรับสาย และกรอกเสียงหวาน ๆ กลับไปยังปลายสายในทันที "ขาพี่แยม" (แหม เสียงหวานเชียวนะ ถ้าพี่เป็นผู้ชายคงเคลิ้มไปกับเสียงหวาน ๆ ของปิ่นแล้วนะจะบอกให้) "ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แล้วพี่แยมโทรมามีอะไรเหรอคะ" ปิ่นยิ้มเขิน ๆ ไม่ชินชาสักทีกับการถูกชม (ปิ่นว่างหรือเปล่า คือไอ้ป้องมันรถล้มน่ะสิ เลยมาทำงานไม่ได้ พี่เลยอยากให้ปิ่นมาทำแทนมันหน่อยตอนเย็น) แยมเป็นเจ้าของร้านขนมที่เธอทำงานพิเศษอยู่ และที่แห่งนั้นก็เป็นที่หารายได้สำหรับคนที่ส่งตัวเองเรียนและหาค่ากินอยู่อย่างเธอ "พี่ป้องรถล้มเหรอคะ วันนี้ปิ่นว่างพอดีเลยค่ะ เดี๋ยวปิ่นเข้าไปช่วยนะคะพี่แยม" (โอ๊ยขอบคุณนะปิ่น นางฟ้านางสวรรค์ของพี่แท้ ๆ เลย วันนี้ก็ยุ่งทั้งวัน พี่เองก็ต้องมาช่วยทำกาแฟชงชานะเนี่ย เห็นเด็ก ๆ นักศึกษาพูดกันว่าใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วก็คงมาหาคาเฟ่นั่งอ่านหนังสือแหละมั้ง) "ใช่ค่ะ เดือนหน้าก็จะเข้าสู่ช่วงสอบมิดเทอมแล้ว งั้นเดี๋ยวปิ่นเข้าไปที่ร้านนะคะพี่แยม ไม่ต้องห่วงน้า เจอกันค่ะ" ปิ่นเอ่ยเสียงหวานและย้ำไปอีกครั้งว่าเธอจะเข้าไปช่วยงานที่ร้านในช่วงเย็น ปิ่นทำงานที่ร้านนี้มาได้หนึ่งปีแล้ว กลายเป็นว่าเธอสนิทสนมกับเจ้าของร้านพอสมควร แถมบางครั้งที่ว่าง ๆ เธอก็อาสาไปช่วยงานโดยไม่รับเงินสักบาท แม้ว่าแยมจะออกปากและยัดเงินใส่มือทีหลังก็ตาม มือเล็กวางโทรลงบนโต๊ะเมื่อวางสาย ก่อนจะเดินไปจัดเตรียมชุดสำหรับการทำงาน เพราะเหลือเวลาอีกเกือบสองชั่วโมงที่จะต้องเข้าร้าน หากบวกลบเวลาการเดินทางแล้วก็เกือบครึ่งชั่วโมง นั่นเลยทำให้เธอต้องคำนวณเวลาและเตรียมตัวเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ "อืม...ถ้าวันนี้ไปทำงานก็จะได้เงินเพิ่มอีกสี่ร้อยแหนะ! อย่างน้อยก็ได้เงินจ่ายค่าชีทเรียนแล้วไอ้ปิ่นเอ๊ย!" ปิ่นหัวเราะร่าเมื่อลองนึกถึงจำนวนเงินที่จะได้จากการทำงาน แม้ว่าจะเป็นจำนวนเงินเพียงไม่กี่ร้อยแต่มันกลับมีค่าสำหรับเธอเอามาก ๆ การเรียนต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นค่าอุปกรณ์หรือค่าชีทเรียน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเลือกหางานพิเศษทำเพื่อประทังชีวิตไปวัน ๆ แบบนี้ และแน่นอนว่าการทำงานร้านขนมไม่ได้ทำให้เธอมีเงินใช้จ่ายเพียงพอ ปิ่นทำงานหลายที่สลับกับตารางงานของแต่ละร้าน จนกลายเป็นว่าเธอมีอีกหนึ่งหน้าที่นอกจากร่ำเรียนนั่นก็คือ...นักสะสมงานมือระวิง!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม