วันจันทร์ เวลา 08.40 นาที
ณ.มหาวิทยาลัยเอกชน A
“บอย”
“ว่า”
ฉันละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วก็หันไปมองคนตัวสูงพร้อมทำตาปริบๆ แล้วก็เอ่ยขอของที่อยากได้จากเขาทันที คือเงินของฉันมันก็มีแหละ แต่มีแฟนแล้วอะ อยากมีโมเมนต์ขอแฟนแล้วแฟนเปย์บ้างอะค่ะแม่ขา แล้วปกติจะเสียงสองใช่ปะ รอบนี้เสียงที่สามไปเลย
“อยากได้กระเป๋าอะ กระเป๋าเข้า พี่วิส่งมาให้มาให้ดู เนี่ยดูดิ ค่าตัวน้อง 320,000 บาทเอง นะๆ”
“เธอเป็นตะขาบเหรอวะ แขนก็มีแค่สองข้างแต่กระเป๋ามีเป็นกอง”
“เอ้า ก็ของมันต้องมีปะ แล้ว”
“แล้วกระเป๋าที่ฉันซื้อราคาก็ขึ้นนะ ฉันขายฉันก็ได้กำไรหลายเท่าตัว เธอพูดตั้งแต่เธอทักเปียสองข้างแล้วปะ”
ใช่ครับ เมียผมแม่งเป็นทาสทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ของแต่งบ้าน แล้วก็อีกมากมายหลากหลายอย่าง แล้วพอผมพูดจบยัยตัวแสบก็เปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงเดิมแทบจะทันที
“โอ๊ะ ถ้าไม่ซื้อให้ก็ไม่ต้องบ่นปะ ฉันซื้อเองได้”
พอสิ่งที่คิดกับความเป็นจริงมันไม่ตรงกันฉันก็หาสนใจไม่ แล้วบางคนบอกว่า ถ้าผัวมาพูดแบบนี้เป็นพี่ พี่โกรธไปแล้วนะ แต่คู่ฉันสวนทางจ่ะ ฉันกับเขาเป็นแบบนี้กันมานานแล้ว อีกอย่างฉันก็อยากได้อยู่แล้ว ผัวไม่ซื้อให้แล้วไง แม่ซื้อเองก็ได้จ่ะ เพราะแม่มันตัวมัม ตัวมารดา ตัวคลอดบุตรอยู่ละ ไม่มีใครมาหยุดแม่ได้แม้แต่ผัว คิกๆ
“เลิกเรียนแล้วก็โทรไปแล้วกัน ถ้าฉันเลิกก่อนจะรีบมารับ”
ผมขับรถเข้ามาจอดที่หน้าคณะของยัยตัวแสบ ซึ่งคณะของผมกับเมียห่างกันมาก ของเมียผมแม่งอยู่หน้าสุด ส่วนของผมอยู่หลังสุด เหมือนเรียนคนละมออะ ผมเลยบอกกับยังตัวแสบที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่าถ้าเลิกเรียนก็ให้โทรหา
“เค อย่าลืมนะ นายต้องรีบมานะ”
“หึหึ เอออ ฉันไม่ลืมหรอก เธอย้ำตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้วปะ”
“งั้นฉันไปละ”
“อืม”
ฉันลงจากรถก่อนจะหายใจออกมาเบาๆ คือทำใจนั่นแหละ ก่อนจะเดินตรงไปหาเพื่อน แต่ยังไม่ทันได้เดินไปไหนหรอก เสียงไอ้บ้านั่นดังขึ้นมาก่อน พอหันกลับไปก็เห็นว่าเขาลดกระจกฝั่งฉันลงแล้วก็โวยวายออกมาเหมือนเด็กโดนขัดใจอะ
“เฮ้ย!”
“เชี้ย อะไร นายจะเสียงดังทำบ้าอะไร”
“เธอต้องหันมาบ๊ายบายฉันก่อนสิ สนใจผัวหน่อยดิวะ”
“เออ ไปๆ ไปได้แล้วนายอะ”
ผมมองยัยตัวแสบที่ไม่ได้บ๊ายบายหรอก แม่งยกมือขึ้นมาแล้วทำท่าไล่ผมแทนการบ๊ายบาย ถ้าอยู่บ้านจะกดแม่งให้จบเตียงเลย ผมเลยพูดกับยัยนี่ออกไป
“เดี๋ยวเลิกเรียนเธอเจอฉันแน่ จะเอาแม่งให้ขาสั่นเลย”
“ไอ้บ้า”
ฉันแลบลิ้นใส่เขาแล้วก็ทำปากขมุบขมิบส่งให้เขาแบบกวนๆ ก่อนจะหันกลับมาและเดินมาหากลุ่มเพื่อนที่ยืนรอฉันอยู่ แล้วพอฉันเดินมาถึงกลุ่มปุ๊บ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งที่คิดเอาไว้จริงๆ
“งู้ยยยยยย องค์หญิงแยมมาแล้วจ้า”
“แหม่ๆ ออร่าคนมีความรักพุ่งมาเลยนะคะ”
“เออ ปุ๊บปั๊บก็ขึ้นสถานะไปเลยค่ะสาว”
“แล้วบ่ใช่แค่เป็นแฟนนะสาว สถานะขึ้นว่าแต่งงานกับพี่บอยวิศวะด้วยอะค่ะ แล้วจะไปจดทะเบียนสมรสกันกี่โมงเหรอคะ”
“มันเป็นคนเอาไปตั้ง แล้วมึงก็รู้นิสัยมันอยู่ บอยมันเอาแต่ใจจะตาย”
“เหรออออออออออ”
“แล้วเปลี่ยนจากเฟื่อนมาเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการแล้วเหรอคะ”
“งื้อออก พวกมึงอะ หยุดล้อเลย”
“คิกๆ จากคู่จิ้นสู่คู่จริงในวันนี้ค่ะสาว”
ฉันทำหน้าพองๆ ส่งให้เพื่อน เพราะตอนนี้มันรู้สึกเหมือนแก้มจะแตกเลยอะ ใช่ค่ะ ฉันกำลังรู้สึกเขินๆ หลังถูกเพื่อนล้อ แต่ถามว่าเพื่อนฉันหยุดไหม ไม่จ่ะ พวกมันไปต่อ
“แล้วตั้งแต่มีเมียพี่บอยเขาคลั่งรักเมียเขามากนะคะ โพสต์รูปของเมียพร้อมอวยยศเมียตัวเองตลอด กูนี่กดถูกใจให้เกือบจะไม่ทัน เพราะพี่เขาโพสต์รูปเมียเขาเต็มหน้าฟีดไปหมด”
“เออ กูอิจฉาค่ะ เมื่อวานที่โพสต์พี่บอยเขาโพสต์ว่าอะไรนะแม่”
“ใต้รูปพี่บอยเขาโพสต์ว่า ทำไมชอบน่ารัก ยัง ยังไม่จบ รูปต่อมาคือถ่ายรูปตอนเมียทำอาหารพร้อมกับแคปชั่นที่ว่า คนหรือถนนทำให้หลงตลอดเวลา และรูปตอนนอนกอดเมียเขาถ่ายรูปอวดคนอื่นยังไม่พอ แคปชั่นที่ลงก็คือ ตุ๊กตาตัวโปรด”
“โอโหห พวกกูที่เห็นอยากจะบอกพี่บอยเขาว่า พี่คะ พี่ได้โปรดหยุดคลั่งรักเมียพี่บ้างค่ะ พวกฉันอิจฉาตาร้อนไปหมดแล้ว คลั่งเมียเหมือนรัวปืน สงสารคนโสดแบบพวกกูที่นอนกอดขวดเหล้าบ้างค่ะพ่อ”
“ฮ่าๆ เออ อันนี้แม่งเห็นภาพ ตอนกูอ่านแคปชั่นของพี่เขากูจะเครซี่ เพราะกูอิจฉา”
อืม ใช่ค่ะ นายนั่นแอบถ่ายรูปมุมต่างๆ ของฉัน แม้กระทั่งตอนที่นอนแล้วกอดเขานายนั่นก็ถ่ายแล้วโพสต์ลง ตอนนี้ทุกช่องทางของนายนั่นมีแต่รูปฉันเต็มไปหมด ฉันเลยเม้มปากก่อนจะตอบเพื่อนออกไปแบบไม่เต็มเสียง เพราะฉันเองก็เขินอะ แต่ถ้าถามว่าชอบในสิ่งที่เขาทำไหม แน่นอนว่าชอบมากๆ เพราะเขาชัดเจนแล้วก็ไม่ได้ปิดบังความสัมพันธ์ แล้วใครบ้างจะไม่ชอบให้แฟนตัวเองชมแล้วก็อวยยศ ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
“ตัวจริงมันปากหมาจะตาย พวกมึงก็รู้”
“จ้าาา ปากหมามาก ปากหมาสุดๆ ปากหมาที่สุด แต่พอมึงบอกว่า บอย เยอะไปละ หยุด พี่บอยกูทำไงนะแม่”
“ก็หยุดดิคะ”
ฉันกำลังบอกให้เพื่อนหยุดล้อก่อนจะได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของข้อความในโทรศัพท์ที่ฉันถืออยู่ แล้วพอเห็นว่ามันมีเงินโอนเข้ามาในบัญชี 600,000 บาท พร้อมข้อความของคนตัวสูงที่ส่งมาทางไลน์ ฉันกดหนึ่งครั้งข้อความก็ขยับลงมาจนเห็นว่าเขาส่งมาว่า [ค่ากระเป๋า เอาไปซื้อซะ แล้วถ้าคิดจะงอลผัวก็ให้เธอรีบหายซะ] ฉันอ่านข้อความที่เขาส่งมาพร้อมกับหลุดหัวเราะ นี่ไงที่บอกว่าไม่งอลมันหรอก เพราะนายนั่นเหมือนจะบ่นเหมือนจะห้ามนะ แต่สุดท้ายก็ซื้อให้ฉันอยู่ดี แล้วในขณะที่ฉันกำลังกดปิดหน้าจอคนตัวสูงก็โทรผ่านไลน์เข้ามาพอดี
“เป็นไรไม่อ่านไม่ตอบข้อความกลับหาผัววะ”
ผมที่กำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้นสองพอโอนเงินแล้วก็ส่งข้อความไปหายัยนั่นสิ่งที่ได้มาคือความเงียบ แล้วผมดูเวลาแล้วว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้เรียนหรอกเลยรีบกดโทรหาร่างบาง พอยัยตัวแสบกดรับแล้วก็คุยกับผมด้วยเสียงสองที่เอาไว้ใช้เวลาอ้อนผมเลยยกยิ้มที่มุมปาก
“ก็เพิ่งเปิดอ่านแล้วกำลังจะตอบ แต่สงสัยฉันต้องโพสต์อวยยศแฟนบ้างแล้วแหละ เมื่อขอเงินค่ากระเป๋าจากแฟนเล่นๆ”
“หึหึ เออ ไปโพสต์ซะ โพสต์แล้วแท็กฉันด้วย ไม่งั้นใบต่อไปไม่มี”
“จ้า ว่าแต่นายมีอะไรหรือเปล่าทำไมถึงโทรมา”
“เมียไม่ตอบไลน์เลยโทรหา”
“คิกๆ นายนี่มันบ้าจริงๆ งั้นแค่นี้นะเดี๋ยวขึ้นตึกก่อน”
“เครๆ เจอกันตอนเลิกเรียน”
“โอเค”
พอฉันวางสายจากคนตัวสูงก็กดส่งสติ๊กเกอร์ขอบคุณแฟนส่งให้เขาทางไลน์ ซึ่งเขาก็อ่านแล้วก็ส่งสติกเกอร์ประมาณว่าไม่เป็นไรส่งมาให้ต่อด้วยสติกเกอร์บอกรักพร้อมหัวใจฉันเลยส่งสติกเกอร์กลับไปแล้วก็กดปิดหน้าจอโทรศัพท์จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น แล้วตอนนี้ดวงตาทุกคู่ของเพื่อนฉันจ้องมาทางฉันเป็นตาเดียว ฉันเลยขมวดคิ้วก่อนจะถามพวกมันออกไป
“พวกมึงมีอะไรกันวะ”
“มึงขอเงินไอ้บอยซื้อกระเป๋า”
“อือ ขอเมื่อเช้าตอนที่นางขับรถมาส่ง”
“แล้วนางให้ไหม“
”ให้ค่ะแม่“
“ให้เท่าไหร่เหรอสาว จะว่าเสือกก็ใช่ค่ะ แต่แม่อยากรู้ บอกบุญแม่ทีค่ะ”
“นางโอนมาให้หกแสน”
“กระเป๋าราคาหกแสน รุ่นลิมิเต็ดเหรอ”
“เปล่า แต่ของใหม่เพิ่งเข้า ค่ากระเป๋า 320,000 แต่บอยมันโอนมาให้ 600,000”
“OMG! สายเปย์ของแทร่! พี่บอยโอนเร็ว”
“ตอนแรกมันก็บ่นแล้วก็ทำท่าว่าไม่ให้ซื้อนั่นแหละ แต่อยู่ๆ ก็โอนเงินมา”
“โอโหห ถ้าได้ขนาดนี้มึงให้ผัวบ่นมึงทุกวันเลยค่ะ ว่าแล้วทำไมองค์หญิงแยมของกูถึงใช้เสียงสองคุยกับพี่บอย”
“ว่าแต่ แล้วบอยมันโทรมาทำไมวะ”
“กูไม่ได้อ่านแล้วก็ตอบไลน์นางเลยโทรมาบอกว่าโอนค่ากระเป๋าให้แล้ว คงคิดว่ากูจะงอลแหละมั้ง”
“กูขอร้องงงงงงงง”
“เออ แยกย้ายค่ะ กูจะไม่ทนอีกต่อไป มึงมูอะไรยังไงที่ไหนบอกกูมานะ”
“แต่ไอ้บอยแม่งเหมาะกับประโยคนี้ดีนะเว้ย”
“ว่า”
“อย่าล้อเล่นกับระบบ นี่แค่เริ่มคบกันนะ ถ้านานกว่านี้กูคงได้ตัดแขนตัดขาทิ้งอะ เป็นเบาหวานเพราะความคลั่งรักเมียของไอ้บอย”
“ก็ขนาดตอนเป็นเฟื่อนนางยังเกินเบอร์มากมาตลอดแล้วพอขยับสถานะมึงว่าพี่เขาจะมาน้อยๆ ได้เหรอวะ”
“พระแม่เจ้าขา หนูอยากได้ผัวที่โอนไวและโอนหนักเหมือนผัวของเพื่อนเจ้าค่ะ เอาแบบนี้เลยค่ะพระแม่ โอนหนักไม่พอแถมเบ้าหน้าก็ยังเหมือนถูกตั้งใจปั้นมากๆ ขอให้หนูได้ในเร็ววันนี้เลยนะคะ”
“พระแม่คงบอกว่า ถ้าเป็นหนูแม่คงทรงงานหนักพอสมควรเลยนะลูก”
“ช็อตฟีลกูหนักมาก จ้า ก็กูไม่ใช่เจ้าหญิงแยมของพี่บอยเขาอะค่ะ กูเลยต้องขอกับพระแม่”
“พวกมึงก็”
“มึงจะบอกว่าไม่ชอบ”
“ชอบมากค่ะแม่ โมเมนต์เวลาโดนแฟนเปย์มันดีแบบนี้นีี่เองเนาะ มันรู้สึกกระชุ่มกระชวยมากเลยค่ะแม่”
ฉันยิ้มแล้วก็ตอบเพื่อนกลับไปโดยที่เพื่อนของฉันก็พากันทำสีหน้าเหม็นความรัก แต่ก็นะ มันก็รู้สึกดีจริงๆ อะ คิกๆ
“อร้ายยย ไปเรียนค่ะ อย่าให้กูต้องอิจฉามันไปมากกว่านี้เลยเถอะ แค่นี้ความในใจกูที่มีก็พูดออกมาไม่หมดละ”
“ทำไมพวกเราดูอิจฉาไอ้คู่นี้จังวะ”
“ก็ขนาดนี้ไม่อิจฉาอยู่ได้เหรอแม่”
“เออ ที่มึงพูดมันก็คือเรื่องจริง”
เพื่อนฉันพากันพูดด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ก่อนจะพากันหัวเราะแล้วก็เดินขึ้นตึกเพื่อไปเรียน
“ไอ้บอย”
ผมกดวางสายจากยัยตัวแสบพร้อมกับส่งสติกเกอร์ตอบกลับไปทางไลน์จากนั้นผมก็เก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อช็อปแล้วก็ได้ยินพวกเพื่อนของผมที่ถามขึ้นมา
“ว่า”
“มึงโทรหาแยม”
“อืม”
“มึงทะเลาะกันเหรอวะ”
“เปล่า เมียกูมันขอเงินซื้อกระเป๋าตอนที่กูขับรถมาส่งแต่กูก็บ่นมันแล้วพอโอนเงินไปมันไม่ตอบไลน์กูก็คิดว่ามันงอลกูก็เลยรีบโทรหา”
“แล้วแยมมันงอลมึงไหม”
“ไม่ มันกำลังอ่านข้อความ ตอนนี้เมียกูมันตอบข้อความกูกลับมาละ”
แปะ แปะ แปะ
“มึงเป็นผู้ชายปากหมาที่รักเมียมาก พวกกูขอมอบโล่ให้มึง”
“พวกชั่ว”
“แล้วมึงไม่เอา”
“ทำพิธีให้สมเกียรติของกูด้วย”
“ฮ่าๆ”