บทที่ 12พี่สาวรองกลับบ้าน

2097 คำ
เรื่องที่สะใภ้สี่บ้านเฉินเอ่ยตัดขาดบ้านเดิมแพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว อย่างที่รู้กันว่าผู้หญิงที่แต่งงานออกจากบ้านก็จะเป็นคนในครอบครัวของสามี ไม่ใช่คนของบ้านเดิม แต่ถ้าไม่มีเรื่องร้ายแรงหรือบ้านเดิมตัดขาดกับคนที่แต่งออกจากบ้าน ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลูกสาวเอ่ยตัดขาดจากบ้านเดิมมาก่อน แต่เมื่อวานนี้สะใภ้สี่บ้านเฉินได้ทำลงไปแล้ว และเรื่องต่อมาที่จะพูดไม่ได้เลยก็คือหมิงหลานฮุ่ยยังไม่ได้มาหมั้นหมายอี้เหม่ยเฟิ่ง ทั้งๆ ที่สะใภ้ใหญ่บ้านอี้ป่าวประกาศไปทั่วหมู่บ้าน เฉินเฟิ่นอี้กำลังต้มข้าวใส่ไข่ให้แม่ของเธอที่นอนป่วยอยู่ในห้องนอนได้รับประทาน บ้านเฉินลงความเห็นกันว่าให้สะใภ้สี่พักจิตใจก่อน ส่วนเรื่องแปลงนาย่าเฉินจะลงไปทำแทน อีกทั้งสามพี่น้องบ้านอี้ยังไปช่วยผู้ใหญ่ทำงานอีก ที่บ้านตอนนี้จึงเหลือแค่สะใภ้สี่ เฉินเฟิ่นอี้ เฉินเหม่ยเย่และเฉินชิงชิงที่รับหน้าที่ดูแลน้องชาย ยังเป็นเฉินเฟิ่นอี้ที่รับหน้าที่ทำอาหารมื้อกลางวันให้ทุกคนเช่นเคย วันนี้มีตุ๋นไก่ในเล้าหนึ่งตัว ที่เฉินเฟิ่นอี้ขอพ่อของเธอฆ่าให้เพราะมันเกินจำนวนสมาชิกในบ้านที่ตอนนี้เหลือเพียงสิบหกคนแต่มีไก่เก้าตัว “พี่ทำข้าวต้มให้แม่เหรอคะ” เฉินเหม่ยเย่เดินเข้ามาในครัว หล่อนจูงน้องชายเข้ามาด้วย “พี่ฉาว” “อืม ชิงชิงน้อยมานี่เร็ว” เฉินเฟิ่นอี้อ้าแขนออกให้น้องชายเดินมาหา ตั้งแต่โรงเรียนปิดเทอมเฉินเหม่ยเย่ก็รับหน้าที่ช่วยย่าเฉินดูแลน้องชาย เฉินชิงชิงหัวเราะคิกคักพร้อมเดินเตาะแตะมาหาพี่สาว เฉินเฟิ่นอี้หยิบถ้วยแอปเปิลที่ปอกเปลือกและบดพร้อมรับประทานใกล้มือขึ้นมาถือ มันเป็นของที่จะนำไปให้เฉินชิงชิงพอดี “เดี๋ยวอีกสักพักเธอตักข้าวต้มเข้าไปให้แม่ด้วยนะ ไม่ต้องเยอะมากแต่ก็ให้อิ่ม พี่จะพาน้องไปอาบน้ำเอง” เฉินเฟิ่นอี้เงยหน้าบอกน้องสาว “ค่ะ” “อ้อ อาหารกลางวันพี่ทำเสร็จแล้ว ถ้าเธอหิวก็รับประทานก่อนเลย พี่ยังไม่หิว” เพราะระหว่างทำอาหารและปรุงรสชาติ เฉินเฟิ่นอี้ชิมน้ำไปหลายรอบมากจนรู้สึกได้ว่าอิ่ม เฉินเหม่ยเย่พยักหน้ามองพี่สาวป้อนแอปเปิลน้องชายคนเล็กอย่างมีความสุข เฉินชิงชิงเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านเฉินและเป็นน้องชายของพวกหล่อน ตุ้บ! “เหม่ยเย่ พาน้องรออยู่ตรงนี้นะอย่าเพิ่งออกไป พี่จะออกไปดูด้านนอกก่อน ลงกุญแจข้างในด้วยเข้าใจไหม” เฉินเฟิ่นอี้ยื่นถ้วยแอปเปิลให้น้องสาวเมื่อได้ยินเสียงจากหน้าบ้าน ครัวสามารถล็อกจากด้านในได้ เฉินเฟิ่นอี้จึงต้องออกไปดูคนเดียว “ระวังตัวด้วยนะคะ” เฉินเหม่ยเย่บอกพี่สาวด้วยความเป็นห่วง เมื่อเฉินเฟิ่นอี้ออกจากครัว หล่อนก็ทำการล็อกกุญแจทันที ก่อนพาร่างเล็กๆ ของน้องชายไปอยู่มุมซ่อนตัวในครัว เผื่อมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้นบ้านเฉินจึงทำที่ซ่อนตัวเอาไว้ และมีเพียงคนในบ้านเฉินเท่านั้นที่รู้ เฉินเฟิ่นอี้เมื่อเห็นว่าน้องสาวล็อกประตูแล้วก็รีบออกมาหน้าบ้าน แม่ของเธอนอนอยู่ในบ้านและไม่มีคนเฝ้า เกรงว่าจะเกิดอันตรายเอาได้ แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับเป็นผู้หญิงที่คุ้นหน้าคุ้นตา “พี่สาวรอง?” ใช่ เป็นพี่สาวรองเฉินพี่สาวแท้ๆ ของเฉินตง ลูกสาวของลุงใหญ่ เฉินเฟิ่นอี้มองใบหน้าอ่อนล้าของอีกฝ่ายอย่างตกใจ ก่อนที่จะวิ่งไปประคองตัวไว้ ไม่อย่างนั้นหล่อนล้มแน่ “เฟิ่นอี้” เฉินเยี่ยนฉิงมองน้องสาวพร้อมเผยยิ้มเล็กน้อย หล่อนมีท่าทีว่าจะเป็นลมอีกครั้ง “พี่มาเหนื่อยๆ นั่งพักก่อนค่ะ! ฉันจะไปเอาน้ำกับของว่างมาให้ ทำไมไม่ให้คนอื่นมาแทนคะ แล้วสามีของพี่ล่ะทำไมถึงปล่อยให้พี่มาคนเดียว” เฉินเฟิ่นอี้ถามอย่างสงสัย พี่สาวรองคนนี้แต่งงานออกไปกับคนในหมู่บ้านข้างๆ แต่ก็อยู่ไกลจากที่นี่พอสมควรเพราะการเดินทางที่ลำบาก “ไม่ต้องจ้ะ ไม่ต้อง พี่ได้ยินว่าเธอหายป่วยเลยมาหาน่ะ” เฉินเยี่ยนฉิงรีบห้ามน้องสาว “อ้อ แล้วทำไมพี่ถึงดำคล้ำแบบนี้ล่ะคะ? ฉันจำได้ว่าพี่ทำงานในอำเภอนี่ จริงสิ วันนั้นฉันไปสหกรณ์ในอำเภอก็ไม่เจอพี่” เฉินเฟิ่นอี้ถามระหว่างนั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ดีที่หน้าบ้านมีโอ่งน้ำดื่มเธอจึงตักให้หล่อน พี่สาวรองคนนี้เป็นลูกสาวของลุงใหญ่ แน่นอนว่าต้องได้เรียนหนังสือ หล่อนจบมัธยมปลายก็แต่งงานกับคนในหมู่บ้านข้างๆ ที่เห็นว่าคบหากันมาสามปี ซึ่งก็เพิ่งแต่งไปปีก่อนยังไม่มีลูก และลุงสามฝากให้ทำงานในสหกรณ์อำเภอ “ฉันไม่ได้ทำงานแล้ว” เฉินเยี่ยนฉิงถอนหายใจ เพราะยอมเชื่อแม่สามี งานที่หล่อนต้องได้ทำตอนนี้ถูกน้องสาวสามีแย่งไปทำแล้ว ยังดีที่บ้านสามีของหล่อนยังเกรงกลัวบ้านเดิมของหล่อน จึงไม่ได้ให้ลงทำงานในแปลงนาแต่ก็ต้องทำงานในบ้าน ส่วนสามีก็ตามอาของหล่อนไปทำงานในกองทัพเช่นเดียวกัน “ได้ยังไงคะ? ฉันจำได้ว่ากว่าลุงสามจะฝากพี่เข้าที่นั่นได้ก็ใช้เวลาหลายวัน แต่พี่กลับบอกว่าไม่ได้ทำงานแล้ว” ใครเป็นพนักงานเงินเดือนหรือมีเงินเดือนมันก็เป็นเหมือนชามข้าวเหล็ก ใครๆ ก็อยากมีเงินเดือนทั้งนั้น อีกอย่างพี่สาวรองก็เคยได้เงินเดือนสิบหยวน พร้อมคูปองอีกสองใบ “เธอไม่ต้องห่วงหรอกพี่สบายดี ได้ยินว่าเธอหายป่วยนานแล้วแต่เพิ่งมีเวลาว่างมาหา แล้วชิงชิงน้อยกันเหม่ยเย่ล่ะ” คราวนี้เฉินเยี่ยนฉิงเป็นคนถามบ้าง “ฉันให้ทั้งสองรออยู่ในครัวค่ะ กลัวว่าจะเป็นคนอื่นมาเลยออกมาดูก่อน ถ้าอย่างนั้นพี่รอก่อนนะคะ ฉันจะไปตามสองคนนั้นมาให้” เฉินเฟิ่นอี้บอกเมื่อนึกขึ้นได้ เฉินเยี่ยนฉิงมองน้องสาวสามที่เดินผ่านไปหลังบ้าน พร้อมหันกลับมามองรอบๆ บ้านอย่างคิดถึง จะว่าไปแล้วตั้งแต่หล่อนแต่งออกจากบ้านเฉินก็ยังไม่ได้กลับมาที่นี่เลย เฉินเฟิ่นอี้เดินไปหลังบ้านไม่นานก็อุ้มเฉินชิงชิงกลับมาด้วย ด้านหลังมีเฉินเหม่ยเย่ที่ถือถาดข้าวต้มร้อนๆ หล่อนต้องนำไปให้แม่ที่นอนพักอยู่ “อาสะใภ้สี่ป่วยเหรอ” “ใช่ค่ะ วันนี้ย่าเลยต้องออกไปทำงานแทน” เฉินเฟิ่นอี้ต้องทำอาหารและทุกคนก็กลัวว่าเธอจะป่วยอีก เฉินชิงชิงติดเฉินเหม่ยเย่จึงไม่ได้ไปทำงานในแปลงนา ย่าเฉินจึงเป็นคนไปเอง “อ้อ” เฉินเฟิ่นอี้ฝากเฉินชิงชิงไว้กับพี่สาวรอง จากนั้นก็เข้าห้องครัวหั่นผลไม้และตักอาหารบางส่วนออกมา เฉินเหม่ยเย่คงหิวแล้วจะได้รับประทานพร้อมกับพี่สาวรองเลย อีกสักพักป้าสะใภ้คงมาเอาอาหาร เพราะวันนี้ที่บ้านต้องดูแลคนป่วยและเด็ก พี่สาวรองไม่ได้กลับบ้านช่วงบ่าย วันนี้หล่อนบอกจะนอนพักที่บ้านพรุ่งนี้จึงจะกลับ และได้บอกแม่สามีไว้แล้วด้วย เฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่ได้ว่าอะไร วันนี้หล่อนจึงมีลูกมือทำอาหารเพิ่ม อาหารมื้อเย็นจัดการเสร็จก่อนที่ทุกคนจะเลิกงาน “เอ๊ะ! เยี่ยนฉิงยังไม่กลับเหรอ” สะใภ้ใหญ่ถามลูกสาวที่ยกน้ำออกมาให้ดื่ม “วันนี้ฉันจะนอนที่นี่สักคืนค่ะ พรุ่งนี้ค่อยกลับ” เฉินเยี่ยนฉิงกล่าวยิ้มๆ ตอบแม่ของหล่อน “ดีๆ ไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว” สะใภ้ใหญ่พยักหน้า เฉินเฟิ่นอี้เดินถือจานแอปเปิลที่โรยเกลือออกจากครัว เป็นของว่างรองท้องและช่วยให้ทุกคนหายเหนื่อย โดยเฉพาะปู่เฉินและย่าเฉินที่เฉินเฟิ่นอี้เพิ่มพุทราให้ด้วย “แอปเปิลในบ้านเหลืออยู่เยอะเลยค่ะ พรุ่งนี้พี่กลับก็เอาไปด้วยสิคะ ที่บ้านได้รับประทานบ่อยๆ มันช่วยบำรุงร่างกายด้วยค่ะ” เฉินเฟิ่นอี้บอก แต่สำหรับเธอนั้นชอบรับประทานพุทรามากกว่า “ทุกวันเลยเหรอ” เฉินเยี่ยนฉิงถามด้วยความตกใจ เพราะแต่ก่อนบ้านเฉินไม่ได้สิ้นเปลืองแบบนี้ “ใช่ค่ะ ย่าให้ไปซื้อผลไม้มา น่าเสียดายที่พี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นคงได้รับประทานทุกวัน” เธอไม่ได้พูดเล่น ถ้าพี่สาวรองอยู่ในหมู่บ้านนี้ก็คงได้รับประทานผลไม้ตลอด แต่ถ้านำกลับไปที่บ้านสามีเฉินเฟิ่นอี้ไม่แน่ใจว่าหล่อนจะได้รับประทานหรือเปล่า ยิ่งตำแหน่งพนักงานที่หลายคนต่างเกาะแน่นและลุงสามพยายามจนได้มันมา ก็ยังหลุดไปอยู่ในมือของคนอื่นง่ายๆ ทั้งที่พี่สาวรองสามารถให้พี่สาวใหญ่หรือเธอไปทำงานแทนก็ได้ “ช่างเถอะ” “แม่ได้ยินอาสะใภ้รองของลูกบอกว่าลูกออกจากงานแล้วเหรอ” สะใภ้ใหญ่ถามลูกสาว เงินเดือนเป็นสิบหยวนไม่ได้หาง่ายๆ นะ แต่ลูกสาวของหล่อนกลับไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้ว “เฮ้อ แม่คะ แม่สามีของฉันบอกว่าฉันไม่ควรไปทำงานหนักค่ะเพราะต้องรอตั้งท้องลูกของฉางโจวฮ่าว ตอนแรกฉันก็ยังไม่หยุดทำงานหรอกค่ะแต่รำคาญน้องสาวสามีที่มาเกาะแกะอยากทำงาน ฉันเลยให้หล่อนไปทำแทน” ส่วนตัวเองก็มาทำงานบ้านงกๆ แต่ถึงอย่างนั้นถ้าหล่อนไม่ทำใครจะห้ามได้ “เยี่ยนฉิง! งานไม่ได้หาง่ายๆ แบบนั้นนะ ทำไมไม่มาปรึกษาครอบครัวเราก่อน” พี่ใหญ่เฉินบ่นลูก งานนั้นสามารถให้เจ้าสี่เข้าไปทำได้ “น้องสาวสามีของฉันจะทำงานได้กี่เดือนกันเชียว พ่อไม่ต้องห่วงค่ะหล่อนเป็นคนขี้เกียจ ตอนฉันทำงานอยู่ก็แบ่งให้แม่สามีไปตั้งครึ่งหนึ่ง พอลูกสาวของนางได้ทำงานแทนฉัน ต่อหน้าหล่อนก็ให้เงินเดือนทั้งหมดเข้าบ้าน แต่ลับหลังก็แอบเอาให้กันอยู่ดี” ไม่ใช่ไม่รู้ แต่หล่อนได้ปรึกษากับสามีแล้ว ตอนนี้เขายังมีตำแหน่งงานไม่มั่นคงจึงส่งเงินมาบ้านแค่ครึ่งหนึ่ง และให้หล่อนยอมๆ ไปก่อน ถ้าครอบครัวของเขาทำอะไรก็ให้เอาเขาหรือครอบครัวของของหล่อนอ้างได้ “ไม่ได้ๆ บ้านฉางเอาเปรียบกันเกินไปแล้ว” ย่าเฉินบ่น หลานเขยเป็นคนใช้ได้แต่ครอบครัวของเขานั้นล้วนใช้ไม่ได้ ยังดีที่หลานสาวคนโตแต่งงานกับคนมีเงินจึงอยู่เลี้ยงลูกสาวที่บ้านได้ ไม่เหมือนหลานสาวคนรองที่ตอนนี้อยู่กับครอบครัวสามี ส่วนสามีก็ไปทำงานตั้งไกล “ย่าไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก อีกอย่างนะคะ อาสามก็เป็นถึงทหาร แถมยังพาสามีของฉันไปทำงานด้วยอีก พวกเขาต้องการเกาะชามข้าวเหล็กจะตาย” บ้านสามีหล่อนมีสมาชิกหลายคน แต่หล่อนและสามีก็ได้ต่อเติมห้องออกมาจากเงินที่ลุงสามให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน “ถ้าไม่ใช่เพราะหลานรักเด็กนั่น ย่าก็ไม่ให้แต่งหรอก” บ้านเฉินรักหลานเท่ากัน เฉินเยี่ยนฉิงก็จบตั้งมัธยมปลายและมีงานทำ ต่างจากหลานเขยที่ไม่มีอะไร “ฮ่าๆ”  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม