เจ้าหมียักษ์บ้าหน้าไม่อาย

1460 คำ
สายลม  สายน้ำ  ขุนเขา  และแสงแดดในยามเช้าทำให้ดรุณีน้อยผู้หนึ่งที่กำลังแบกตะกร้าขึ้นเขาฮึมฮัมบทเพลงในลำคอออกมาด้วยความสบายอารมณ์ แต่อยู่ๆตะกร้าที่แบกมาด้วยนั้นกลับรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาอย่างน่าประหลาด  ร่างเล็กจึงรีบหันขวับไปมองด้วยความสงสัยก่อนจะเบิกตาโตขึ้นอย่างไม่ชอบใจนัก  เมื่อพบว่าหมียักษ์ประจำหมู่บ้าน  ซ่งเว่ยหยาง  กำลังหยิบผลไม้บ้าง  หน่อไม้ป่าบ้างใส่ลงในตะกร้าของนางจนเกือบเต็ม "หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าหมียักษ์ชั่ว"  เพ่ยเจินพูดพร้อมส่งสายตาไม่พอใจให้คนตัวโตตรงหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ  แต่บุรุษตรงหน้าดูเหมือนจะหูตึงหรือแกล้งทำหูทวนลมก็มิอาจทราบได้  หลังจากวางผลไม้และหน่อไม้ป่าใส่ลงในตะกร้าของนางแล้ว  ยังวางดอกไม้ป่าช่อโตใส่ลงไปในตะกร้าของนางด้วย "ข้าบอกให้หยุดได้ยินมั้ยเล่า?"  เพ่ยเจินพูดพร้อมกับหยิกหมับเข้าที่หน้าท้องของซ่งเว่ยหยางเข้าไปในทันที  อีกทั้งยังยกกำปั้นน้อยๆขึ้นทุบเข้าที่แผงอกแกร่งเพื่อระบายความโมโห "เจ้าไม่พอใจที่ข้าให้ของกับเจ้าหรือ?"  ซ่งเว่ยหยางเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบ "ข้าหนักจะตายอยู่แล้ว  ยังมีหน้ามายิ้มร่าได้อยู่อีก?"  เพ่ยเจิน กระแทกเสียงตอบ "เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้าแบกตะกร้ากลับบ้านดีหรือไม่?"  โดยไม่รอฟังคำตอบซ่งเว่ยหยางได้ปลดสายตะกร้าออกมาจากหลังของเพ่ยเจินอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งแบกตะกร้าขึ้นหลังของตนด้วยความคล่องแคล่วว่องไว "อย่ามายุ่งกับของของข้านะ"  เพ่ยเจินพูดขึ้นอย่างเหลืออดพร้อมทั้งพยายามยื้อยุดฉุดกระชากเอาตะกร้าของตนกลับคืนมาให้จงได้ "เอ้าๆ  พวกเจ้าสองคนพากันมาพลอดรักที่ตีนเขาลูกนี้ตั้งแต่เช้าเลยเชียวหรือ?"  หลี่หมิงชายวัยกลางคนที่เดินผ่านทางมาพอดีกล่าวเย้าน้ำเสียงสนุก 'ท่านมันบ้าไปแล้วลุงหลี่  มิทราบว่าท่านเอานัยน์ตาที่ตรงไหนมอง  ข้ากำลังจะฆ่าไอ้หมียักษ์หน้าไม่อายคนนี้รอมร่ออยู่แล้ว  ท่านกลับมองว่ามันเป็นการพลอดรักไปได้อย่างไร?'  เพ่ยเจินกรีดร้องอยู่ภายในใจด้วยความคาดไม่ถึง "พอดีก่อนข้าจะเดินทางมายังเขาลูกนี้  ได้เดินทางผ่านบ้านของนางมาก่อน  บิดามารดาของนางบอกว่านางกำลังจะขึ้นเขามาหาผลไม้  ข้าจึงได้รีบตามมาและแบ่งผลไม้กับหน่อไม้ป่าให้กับนางขอรับ"  ซ่งเว่ยหยางเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปากกระชากใจขึ้นมาหนึ่งที เพ่ยเจินกัดริมฝีปากจนห้อเลือดไปหมด  ก่อนจะเดินกระแทกส้นเท้าหลีกไปอีกทางหนึ่งอย่างนึกหัวเสีย "หมดกันวันอากาศดีที่แสนสบายของข้า  เจ้าหมียักษ์บ้านั่นทำลายอารมณ์สุนทรีย์ของข้าไปจนหมดสิ้นแล้ว!"  เพ่ยเจินบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้งด้วยความอารมณ์เสีย  ก่อนจะหวีดร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อโดนซ่งเว่ยหยางอุ้มตนขึ้นมาพาดบ่าได้ในเสี้ยววินาที "ปล่อยข้าลงไปเดี๋ยวนี้นะเจ้าหมียักษ์"  เพ่ยเจินพูดพลางทุบกำปั้นรัวไปที่แผ่นหลังของซ่งเว่ยหยางโดยไม่ยอมออมแรงเลยแม้แต่น้อย "เจ้าไม่หนักหรืออย่างไรกันนะคนบ้า?"  เพ่ยเจินทั้งดิ้นไปมาทั้งทุบหลังของซ่งเว่ยหยางจนเจ็บมือไปหมดแต่คนตัวโตดั่งยักษ์ปักหลั่นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย  ยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ "เจ้าจะพาข้าไป ณ ที่ใดกัน?"  เพ่ยเจินถามขึ้นอย่างเหลืออด "น้ำตก" "ข้าไม่ไป  ปล่อยข้านะ  ปล่อยข้าลงไปเดี๋ยวนี้!"   "เรามีเรื่องต้องคุยกัน"  ซ่งเว่ยหยางตอบออกมาด้วยความสงบนิ่ง "ข้าไม่คุย"  เพ่ยเจินกล่าวเน้นย้ำทีละคำอย่างไม่เกรงกลัว "เทศกาลอ้ายเสินของหมู่บ้านเราในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้านี้  เจ้าจะไปหรือไม่?”  ซ่งเว่ยหยางพูดพลางวางเพ่ยเจินให้นั่งลงบนโขดหินอย่างระมัดระวังและวางตะกร้าไว้ข้างตัวเพ่ยเจินตามมาติดๆ "ข้าไม่ไป"  เพ่ยเจินตอบออกมาทันทีโดยมิต้องคิด "ข้าจะรอให้เจ้ามาคล้องมาลัยให้กับข้า  ส่วนข้าจะมอบส้มผลที่งดงามที่สุดให้กับเจ้า  ข้าหวังว่าเจ้าจะปักถุงผ้ารอ"  ซ่งเว่ยหยางเอ่ยออกมาน้ำเสียงหนักแน่น "เจ้าพูดพอหรือยัง?"  เพ่ยเจินเลิกคิ้วถาม  "ข้ามิได้มีอารมณ์มาฟังเจ้ากล่าววาจาไร้สาระนานหรอกนะ"  เพ่ยเจินพูดพร้อมทั้งยกตะกร้าขึ้นมาไว้บนหลัง  แต่ด้วยต้องเดินผ่านโขดหินที่ทั้งก้อนใหญ่และลื่น  เพ่ยเจินจึงพลัดตก ลงไปในสายน้ำ ซ่งเว่ยหยางเห็นดังนั้นจึงรีบร้อนกระโดดน้ำลงไปช่วยในทันที  ใช้เวลาเพียงไม่นานนักก็พาเพ่ยเจินขึ้นฝั่งมาได้สำเร็จ "เป็นเพราะเจ้าแท้ๆ ที่ใส่ของเข้ามาในตะกร้าข้าจนเต็ม  ทำให้ข้าหนักจนแทบจะเดินไม่ไหว"  เพ่ยเจินพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว  หายใจเข้าออกแรงขึ้นจนหน้าอกสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ซ่งเว่ยหยางมองภาพความสวยงามตรงหน้าตาปรอย  ในใจคิดอยากจะเข้าไปละเลียดชิมความงามนั้นนัก  แต่ก็ทำได้แค่เพียงลอบกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลำบาก  และเดินไปหยิบเสื้อคลุมของตนมาส่งให้กับเพ่ยเจินด้วยความเป็นห่วง   "ข้าจะไม่ยอมใส่เสื้อผ้าของเจ้าเป็นอันขาด"  เพ่ยเจินพูดพร้อมทั้งโยนเสื้อคลุมของซ่งเว่ยหยางลงไปในสายน้ำด้วยความโกรธจัด ซ่งเว่ยหยางเห็นดังนั้นจึงได้กระโดดน้ำลงไปเอาเสื้อคลุมของตนกลับคืนมาได้ในชั่วขณะ  เป็นจังหวะเดียวกับที่เพ่ยเจินรีบร้อนแบกตะกร้าขึ้นหลังเดินจากไปในทันที "เพ่ยเจินอย่าไป"  ซ่งเว่ยหยางพูดพลางยื่นมือใหญ่ของตนขึ้นมาจับกับมือเล็กของเพ่ยเจินเอาไว้  ทำให้ทั้งคู่ตกน้ำตกท่าไปด้วยกันแล้วในยามนี้ "กรี๊ดดด"  เพ่ยเจินกรีดร้องขึ้นอย่างตกใจพร้อมกับกอดคอของ ซ่งเว่ยหยางเอาไว้แน่น "เจ้าหมียักษ์ชั่ว  น้ำตรงนี้ลึกนัก  ข้าว่ายน้ำไม่เป็น  เจ้าแกล้งข้าจะให้ข้าจมน้ำตายใช่หรือไม่?"  เพ่ยเจินตะเกียกตะกายพยายามเอื้อมมือไปจับโขดหินเอาไว้ด้วยหมายจะได้ปล่อยคอของซ่งเว่ยหยางเสียที  แต่ดูเหมือนบุรุษตรงหน้าจะรู้ทันจึงได้ลอยตัวให้ไหลไปตามสายน้ำลึกยิ่งขึ้นอีก "เจ้าหมียักษ์  เจ้าแกล้งข้า!"  เพ่ยเจินพูดพลางรัวกำปั้นทุบเข้าไปที่ไหล่ของซ่งเว่ยหยางไม่ยั้ง  ก่อนจะรู้สึกตกใจแทบสิ้นสติเมื่อซ่งเว่ยหยางฉกริมฝีปากร้อนๆเข้ามาจุมพิตตนเอาไว้ในทันที  เนิ่นนานราวชั่วกัปชั่วกัลป์ซ่งเว่ยหยางจึงยอมถอนจุมพิตของตนออกมาได้ "เอ้านั่น  พวกเจ้าดูจะรักใคร่กันดูดดื่มเสียจริงนะ  แม้แต่ การพลอดรักกันในสายน้ำพวกเจ้าก็ยังกล้าทำกันด้วยหรือ?"  ลุงหลี่เจ้าเก่าเจ้าเดิมตะโกนเย้าขึ้นมาด้วยความเอ็นดู "เทศกาลอ้ายเสินที่จะมาถึงนี้  พวกเจ้าก็อย่าลืมคล้องมาลัยดอกไม้และมอบผลส้มให้กันด้วยเล่าจะได้เข้าพิธีแต่งงานกันเสียที"  หลังกล่าวจบหลี่หมิงก็ก้าวขาเดินจากไปในทันที "ท่านลุงหลี่ห้ามไปบอกใครนะเจ้าคะ  ว่าพบเจอกันกับข้าอยู่กับเจ้าหมียักษ์นี่"  เพ่ยเจินร้องตะโกนตามหลังไปด้วยความหวั่นใจ "เจ้าวางใจได้เลยเพ่ยเจิน"  หลี่หมิงตอบกลับมาเสียงดังฟังชัดไปทั่วทั้งสายน้ำ 'ระดับข้าหลี่หมิงแล้ว  ข้ารู้เท่ากับโลกรู้แน่นอน’  หลี่หมิงคิดขึ้นมาในใจพร้อมกับหัวเราะกับตนเองขึ้นมาอย่างเบิกบานใจ         เทศกาลอ้ายเสิน  แปลตรงตัวว่ากามเทพ  เป็นเทศกาลการจับคู่กันของหนุ่มสาวที่ยังไม่แต่งงาน  (ผู้เขียนคิดขึ้นมาเองไม่ได้อ้างอิงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ใด)  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม