หลังจากที่ฉายตอบกลับด้วยข้อความประโยคนั้น ฉันก็เลือกที่จะดับหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะนำมันไปชาร์จแบตทิ้งไว้ เก็บอาหารที่ฉันทำเผื่อเขา ไม่ว่าดึกแค่ไหน สุดท้ายฉายก็คงจะกลับมาทาน
เป็นคืนแรกที่ฉันเหมือนจะนอนไม่หลับ ตะวันฉายไม่เคยหายออกไปจากห้องแบบนี้ ต่อให้เขาจะกินเหล้า หากจะกินที่อื่น เขาก็ไม่เคยกลับดึก หรือหากจะกินกันดึก เขาก็มักจะชวนเพื่อนมากินที่นี่มากกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหายไปโดยไม่ยอมบอกฉันว่าไปที่ไหน ลึกๆ ฉันก็อยากรู้ว่า เขาจะรู้หรือเปล่าว่าฉันห่วงใย แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน ฉันก็ไม่เคยเซ้าซี้อะไรเขาอยู่ดี
ฉันรู้สึกตัวตื่น เพราะเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือที่ส่งเสียงแจ้งเตือนสำหรับทุกๆ เช้า ฉันเลื่อนมือไปคว้าโทรศัพท์ทั้งที่ยังหลับตา ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อกดปิดเสียง และตวัดสายตามองไปยังข้างกาย
ว่างเปล่า?
อยู่ดีๆ ก็รู้สึกใจหาย จริงๆ ฉันเป็นคนรู้สึกตัวตื่นง่าย หากฉายกลับมา ฉันต้องรู้แน่ๆ ว่าเขากลับมา แต่เมื่อคืนฉันกลับไม่รู้สึกว่ามีความผิดปกติใดๆ ในห้องทั้งนั้น หมายความว่า เมื่อคืนฉายไม่ได้กลับมาอย่างนั้นน่ะเหรอ
ฉันก้มหน้ามองโทรศัพท์ที่อยู่ในมืออีกครั้ง ก่อนจะสะบัดผ้าห่มหนาออกจากร่าง แล้วลุกเดินออกไปจากห้องนอน
ภายในห้องนั่งเล่นก็ว่างเปล่า ห้องน้ำว่างเปล่า ระเบียงหรือแม้กระทั่งโซนห้องครัวก็ว่างเปล่า แม้กระทั่งรองเท้าที่คิดว่าเขาน่าจะใส่ไป มันก็ไม่อยู่ หมายความว่าเมื่อคืนตะวันฉายไม่ได้กลับมาที่ห้องจริงๆ
ความรู้สึกหลายๆ อย่างมันประเดประดังเข้ามาใส่ ต่อให้ทะเลาะกันหรือต่อให้ไม่เข้าใจกัน เขาก็ไม่ควรหายออกไปทั้งคืนแบบนี้ไหม แค่เขามาส่งฉันไว้แล้วหายออกไป แค่นั้นมันก็มากพอแล้ว
ฉันก้มหน้ามองโทรศัพท์ที่อยู่ในมืออีกครั้ง พร้อมกับการกดเบอร์โทรศัพท์ของฉาย แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้โทรออก ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา
แกร๊กก~
ฉันตวัดสายตามองเจ้าของการกระทำนั้นทันที สิ่งที่ฉันเห็น แม้จะเป็นภาพที่ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ครั้งนี้มันก็รู้สึกแปลกกว่าทุกครั้งอยู่ดี
"ไปไหนมา"
ฉันตั้งคำถามขึ้นทันทีที่ประตูห้องปิดลง คนถูกถามมองมาที่ฉันเพียงนิด ก่อนที่ดวงตาคมเฉียบคู่นั้นจะหลบสายตาฉันทันที ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ตะวันฉายไม่เคยทำ
"กินเหล้าทั้งคืนงั้นเหรอฉาย"
"..." ไม่มีการตอบรับ เขาโยนกุญแจรถวางไว้บนโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ พร้อมกับการถอดรองเท้าแล้วเดินผ่านหน้าฉันไป กลิ่นเหล้าที่ฉุนจัด ทำให้อารมณ์ของฉันที่เหมือนจะโกรธในตอนนี้ มันเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่า ฉันต้องคว้าท่อนแขนแกร่งเอาไว้ ส่งผลให้อีกคนหันกลับมายืนเผชิญหน้ากับฉันแบบเดิม
"ฉันถามว่าเมื่อคืนหายไปไหนมา ทำไมถึงไม่กลับห้อง"
"เมา นอนห้องเพื่อนมา" คำตอบที่ได้ฟัง ส่งผลให้น้ำตาของฉันคลอออกมาทันที
ต่อให้เมื่อคืนเขาจะค้างที่ห้องเพื่อนจริงๆ ิแต่การที่เขาไม่ยอมกลับ มันก็ทำให้ฉันรู้สึกแย่อยู่ดี คนเรา ต่อให้จะไปที่ไหน พอถึงเวลากลับก็ควรกลับดิ ไม่ใช่ทำตัวแบบนี้ ไม่ใช่คิดจะไปที่ไหน ค้างคืนห้องใครก็ได้ แบบที่ตะวันฉายเพิ่งทำ
"ถ้าสิ่งที่ทำให้นายเมา สิ่งที่ทำให้นายไม่ยอมกลับห้อง สาเหตุมันเป็นเพราะนายโกรธฉันที่เมื่อวานฉันปล่อยให้นายคอย เพราะเลิกงานช้า ฉันก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดกับนายแล้วเหมือนกัน"
จบคำนั้น ฉันก็ปล่อยมือจากท่านแขนแกร่งทันที หางตาเหลือบไปเห็นจานอาหาร ที่ถูกคุมเก็บเอาไว้อย่างดี แต่ไม่ได้มีการถูกทาน ทั้งที่ผ่านมาฉันทำเพื่อเขาตั้งมากมาย ฉันไม่เคยบกพร่องตรงจุดไหนด้วยซ้ำ เพียงแต่ข้อผิดพลาดเล็กๆ ที่มันส่งผลเสียแค่เล็กน้อย มันทำให้เขาทำในสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีแบบนั้นได้ หมดคำจะพูดแล้วจริงๆ
ฉันเดินตรงไปที่ห้องน้ำ คว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป อารมณ์ในตอนนี้ยิ่งเผชิญหน้ากัน มันก็ยิ่งจะทำให้อารมณ์ของฉันมันรุนแรง
นานเหมือนกันที่ฉันเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ แล้วกลับออกมาแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกลับเข้าไปยังห้องนอนเพื่อเอากระเป๋าของฉันที่อยู่ในนั้นโดยที่รู้อยู่แก่ใจว่า อีกคนอยู่ในห้องนั้นเหมือนกัน
แกร๊กก~
ฉันผลักประตูห้องนอนเข้าไป และเห็นตะวันฉายนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นกางเกงบ๊อกเซอร์ขาสั้นไม่ได้สวมเสื้อ และนั่น มันทำให้ฉันมองเห็นร่องรอยบนแผ่นหลังแกร่ง เป็นรอยคล้ายรอยขีดข่วน ซึ่งฉันไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลยว่า ร่องรอยนั้นมันเกิดจากอะไร
เพียงไม่นานฉันก็ละสายตาออกจากแผ่นหลังของตะวันฉาย แล้วเดินไปคว้ากระเป๋าของฉัน จากนั้นก็หมุนกายกลับ เดินออกมาจากห้องนั้นเงียบๆ โดยที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเช่นกัน
หากเป็นทุกครั้ง ต่อให้ค่ำคืนที่ผ่านมา ตะวันฉายจะดื่มหนักแค่ไหน หากเวลาเรียนของเราไม่ตรงกัน แล้วฉันมีเรียนเช้า เขาจะเป็นฝ่ายบอกว่า จะมาส่งฉันในทุกๆ วัน ต่อให้ฉันจะบอกว่าฉันไปเองได้ เขาก็ไม่เคยปล่อยให้ฉันไปเอง
แม้ลึกๆ ฉันจะรู้สึกแย่ แต่ฉันก็คิดเพียงว่า เหตุผลที่ทำให้ในตอนนี้เขาทำตัวไม่เหมือนเดิม อาจจะเป็นเพราะความไม่เข้าใจกันที่เรากำลังเผชิญ
@มหาวิทยาลัย
"ปาย..." ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในเขตรั้วของมหา'ลัย เมยี่ก็วิ่งเข้ามาหาฉันทันที
"มาไงอ่ะ ฉายมาส่งเหรอ?"
"เปล่า วันนี้มาเอง"
"ทำไมตาแดงๆ อ่ะ มีอะไรหรือเปล่า" สุดท้ายคนช่างสังเกตแบบเมยี่ก็มองเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับฉันจนได้
"ไม่มีอะไรหรอก" ฉันส่งยิ้มกลับไป แล้วเดินตรงไปยังคณะพร้อมกับเม
"มีอะไรหรือเปล่า?" ท่าทางที่แปลกไป และผิดสังเกตของเม ทำให้ฉันมองเพื่อนอย่างห่วงใย
เมหันกลับมามองฉันด้วยสีหน้าแปลกๆ มันทำให้ฉันเข้าใจว่า เมต้องมีอะไรในใจจริงๆ
"มีอะไรเหรอเม คุยกับฉันได้นะ" สิ้นคำที่ฉันพูดออกไป เมก็เลื่อนมือมาจับมือของฉัน การกระทำแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีเลย
"เมื่อคืนเพื่อนฉันไปเที่ยวร้านเหล้ามา แล้วบังเอิญว่า..." เมหยุดคำพูดลง และทำหน้าเหมือนหนักใจ ทำไมฉันมีความรู้สึกว่า คนที่กำลังมีปัญหาไม่ใช่เพื่อนฉัน แต่เหมือนเพื่อนของฉันกำลังจะบอกอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับฉันมากกว่า
"พูดมาเถอะ" ฉันบอกเสียงเบา ทั้งที่ในตอนนี้หัวใจของฉันมันกำลังเต้นแรง
"เมื่อคืนเพื่อนฉันเห็นฉาย ...อยู่กับผู้หญิงคนอื่น"