“อืม~” เสียงครางในลำคอด้วยความงัวเงียของเขาที่หลับบนตักฉันมาชั่วโมงกว่า ๆ เรียกให้ฉันที่กำลังจะหลับลืมตาตื่นเหมือนกัน
“ตื่นสักที” ที่จะหลับเพราะขยับไปไหนไม่ได้แต่ถ้าเขาตื่นแล้วฉันก็ไม่หลับแล้วล่ะค่ะ ขาชาเป็นบ้าเลย ให้ตายเหอะจะขยับตัวออกทีไรเขาก็รั้งไว้ทั้งที่หลับอยู่จนสุดท้ายก็บอกตัวเองว่า ช่างแม่ง ขาจะปวดจะล้าจะชาก็ช่างแม่งเหอะนั่งมันอย่างนี้แหละ!
-_-!
“อืม~” ลูคัสครางอีกนิดหน่อยแล้วพลิกตัวหันมาอีกด้านเอาหน้ามาซุกลงที่หน้าท้องของฉันแถมยังเอามือมากอดที่เอวด้วย เออให้มันได้อย่างนี้สิ ขนลุกเป็นบ้าเลย
“ลูคัสฉันปวดขา”
“อืม~ กำลังสบาย” เสียงงัวเงียพูดจบเขาก็ขยับหน้าถูไปมากับหน้าท้องของฉัน เฮ้อ! สบายมากเกินไปมั้งทางนี้จะไม่ไหวอยู่แล้วนะ!
“แต่ฉันไม่สบายกับนาย ขาฉันทั้งปวดทั้งชาแล้วนะลูคัส!” ฉันวีนออกไปเขาก็ขยับหัวออกช้า ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองฉันพร้อมกับหรี่ตามองเพราะยังงัวเงีย
“อะไรนักหนาวะ”
“ปวดขา!”
“...อ่าส์~” เขาจ้องก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วขยับตัวออกดันตัวนิดหน่อยแล้วฟุบหน้าลงตรงพื้นที่ว่างข้างสะโพกฉัน
สักที! ขาซาเนียร์เป็นอิสระสักที!
“โอ๊ะ!” แต่แค่ขยับขาฉันก็เป็นตะคริว มันเจ็บแปล็บขึ้นมาภายในเสี้ยววินาทีแล้วก็เจ็บมากจนต้องร้องออกมา
“...เป็นอะไร?” ลูคัสเงยหน้าขึ้นมามองฉันแล้วก็ขมวดคิ้วเป็นปมแล้วกค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง หน้าตาเขาดูไม่สบอารมณ์เลยสักนิด เหอะ! ก็ไม่อยากรบกวนการนอนของนายหรอกนะแต่ฉันเป็นตะคริวจะให้ทำยังไงล่ะ!
“เป็นตะคริว” ฉันตอบแต่ไม่ได้สนใจเขาหรอก สนใจตัวเองดีกว่าเยอะโดยเฉพาะช่วงขา T^T
“อ่อนแอ”
“ฮะ?” ฉันโดนผู้ชายตัวเท่าควายนอนหนุนตักนานเกือบชั่วโมงเลยเป็นตะคริวนี่คือฉันอ่อนแอเหรอ? ทุเรศสิ้น...
หมับ~
“ทำอะไรของนาย” กำลังด่าในใจแต่ยังไม่ทันไม่จบเขาก็ก้มลงไปจับเท้าฉันขึ้นมา เขาทำฉันตกใจพอสมควรเลยนะ
“จะจับเธอยกขาแล้วเอามั้ง”
“ลูคัส!” ฉันร้ว่าเขาพูดประชดแต่คำพูดมันน่าฟังที่ไหนกัน!
“เงียบ ๆ จะพูดอะไรนักหนาวะคนยิ่งง่วง” เสียงดุมาพร้อมกับมือทั้งสองข้างของเขาที่กำลังเริ่มนวดเท้าให้ฉัน
เขา...เขานวดเท้าให้ฉันจริง ๆ เหรอคะ นี่ฉันฝันรึเปล่า?
“อ๊ะ!” ไม่ฝันแล้วค่ะ ปวดมาก อาการตะคริวทำฉันปวดทั้งขาเลย ตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงโคนขาเลยด้วยซ้ำ
“ทนหน่อย” เขาเอ่ยออกมาสั้น ๆ สายตาก็เอาแต่มองเท้าของฉันที่มีมือเขากำลังนวดคลึงให้
“พะ พอแล้ว นายไม่ต้องนวดให้หรอก”
“ฉันไม่นวดแล้วใครจะนวดให้เธอ มีกันอยู่แค่สองคน”
“...”
“มีกันอยู่แค่สองคน”
บะ บ้า ไม่มีอะไรลึกซึ้งในคำพูดของเขาหรอกซาเนียร์เขาก็แค่พูดไปเรื่อย แกก็ช่วยฟังหูไว้หูไม่ก็ฟังผ่าน ๆ บ้างเถอะ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่เขาที่แปลกนะแต่แกเองก็เริ่มจะคิดอะไรแปลก ๆ แล้วเหมือนกัน
...น่ากลัวเป็นบ้าเลยค่ะที่สมองของฉันกำลังคิดอะไรก็ไม่รู้
“ดีขึ้นไหม” หลังจากที่นั่งนวดให้ฉันเงียบ ๆ พร้อมกับใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกอะไรไม่ว่าจะเป็นใจดี ดีใจ หงุดหงิด รำคาญ บลา ๆ มาเกือบ 10 นาทีเขาก็ถามขึ้น
...กำลังสบายเลย~ ^_^
“ก็...หายแล้วมั้ง” ฉันตอบเสียงอ้อมแอ้มเพราะกำลังสบาย อีตาลูคัสนวดดีเป็นบ้าเลย
“หึ! ตะคริวมันหายไปจากตัวเธอตั้งนานแล้วคิดว่าฉันไม่รู้รึไง”
“เอ้า! ฉันไม่ได้สั่งให้นวดนี่นายนวดของนายเอง รู้แล้วทำไมไม่หยุดนวดล่ะ”
“อืม” ลูคัสพยักหน้ารับแต่มือก็ยังนวดขาให้ฉันต่อ
...อะไรของเขาเนี่ย ทำแบบนี้เพื่ออะไร
“พอได้แล้ว”
“ไม่เป็นไร นวดได้”
“...” ฉันไม่พูดอะไร ไหน ๆ ก็สบายตัวถ้างั้นก็ให้เขานวดต่อไปเถอะถึงแม้ว่ามันจะสบายตัวแต่ไม่สบายใจก็ตาม...
-เวลาต่อมา-
...คายัค
อยากพายเรือคายัคจัง
หลังจากที่ลูคัสนวดขาให้เกือบ 20 นาทีฉันก็ออกมาเดินเล่นโดยที่ไม่ได้ชวนเขา ก็ไม่รู้จะให้ชวนทำไมในเมื่อที่เดินเล่นมันคือหาดตรงหน้าวิลล่าที่เราพักเลย ถัดออกไปนิดหน่อยหน้าหาดของโรงแรมมีนักท่องเที่ยวกำลังพายคายัคกันอยู่ อยากเล่นจังเลยค่ะ อยากแล้วต้องทำไงยืนมองแล้วบอกตัวเองว่าอยากอยู่ตรงนี้มันก็ไม่มีประโยชน์ใช่ไหมล่ะถ้างั้นไปเปลี่ยนชุดแซ่บ ๆ ให้เข้ากับบรรยากาศแล้วไปพายเรือเล่นกันดีกว่า ^o^
“ลูคัส” เดินกลับเข้ามาข้างในวิลล่าเห็นเขากำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ฉันก็เลยจะรายงานตามมารยาท บอกจะพามาเที่ยวสุดท้ายก็คือมานอนโง่ ๆ อยู่ในวิลล่านี่นะ แต่ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวหากิจกรรมทำเอง
“อืม”
“ฉันออกไปพายคายัคนะ” พอฉันบอกเขาก็ละสายตาจากโทรศัพท์มองมาที่ฉัน
“ตอนนี้?”
“อือ”
“แดดมันร้อน เย็น ๆ ค่อยไป”
“ไม่เอาอ่ะ อยากไปพายตอนนี้ ไม่มีอะไรทำ”
“เบื่อ?”
“อืม” ฉันพยักหน้ารับแล้วก็เริ่มหาบิกินี่ที่ดูโป๊น้อยที่สุด
“มานั่งโยกบนตักฉันสิ”
ขวับ!
“ทุเรศ” ฉันรีบหันไปด่าเบา ๆ ทันทีแต่อีตานี่ก็ยิ้มมุมปาก ดูมีความสุขจังเลยนะเวลาได้พูดเรื่องบนเตียงเนี่ย!
“หึ ๆๆ สี่โมงเย็นค่อยพายเดี๋ยวไปพายเป็นเพื่อน”
“แต่... / แดดมันร้อนเดี๋ยวไม่สบาย”
“...อืม” ก็...เอาตามนั้นก็ได้ไม่อยากมีปัญหาเดี๋ยวโดนด่า เพราะเหตุผลนี้เหตุผลเดียวเลยนะ มีแค่เหตุผลนี้จริง ๆ ไม่ได้มีเหตุผลอื่น...
“ถ้างั้นก็เปลี่ยนชุดซะ”
“เปลี่ยนชุดไปไหน?”
“ไปล่องเรือ เพิ่งจองเรือเสร็จ อีก 20 นาทีเขาจะมารับ” ลูคัสพูดจบก็ดีดตัวลุกขึ้น เห็นนอนจ้องหน้าจอก็นึกว่านอนเล่นโทรศัพท์แต่นี่เขาจองเรือหรอกเหรอ
...ลูคัสแปลกไปมากจริง ๆ
“ล่องเรือก็ร้อนเหมือนกันไหมล่ะ”
“เรือมีหลังคา...อย่าโง่”
“...” ไอ้! #)@$&!%#$!
“เปลี่ยนชุดซะเดี๋ยวไม่ทันไปดูอะไรสวย ๆ นะ”
“...”
“มองอะไร?”
“...เปล่า” เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังมองเขาพอถูกถามเลยรีบหันหน้ากลับมาสนใจเสื้อผ้าของตัวเองต่อ
ไปล่องเรือต้องแต่งตัวแบบไหนกันนะ แบบไหนดีถึงจะสวย
“อย่าลืมทากันแดดล่ะ” เสียงที่ดังขึ้นมาทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ น้ำเสียงธรรมดาแต่การบอกให้ทำอะไรบางอย่างมันไม่เหมือนเดิมเพราะเขากำลังเตือนไม่ใช่ออกคำสั่งอย่างที่ผ่านมา
-เวลาต่อมา-
...^o^
เขาเช่าเรือหัวโทงแบบที่ฉันอยากนั่งเลย~ นึกว่ารวยระดับทายาทมหาเศรษฐีของเมืองไทยอย่างเขาจะไม่คิดนั่งเรือแบบนี้ซะอีก
“ตาวาวอะไรขนาดนั้น” เสียงจากคนข้าง ๆ ขัดจังหวะความสุขฉันเช่นเคยฉันเลยหันไปมองจิก
“ยุ่ง”
“หึ ๆๆ ขึ้นเรือได้แล้ว” เขาพูดจบก็เดินนำหน้าไปที่เรือ เขาขึ้นไปก่อนโดยที่มีพี่ลูกเรือรอรับพอเขาขึ้นเรียบร้อยก็ถึงตาฉันบ้างแต่ไม่ใช่มือพี่ลูกเรือแล้วค่ะเป็นมือของเขาที่ยื่นมาให้จับแทน
“ระวัง” ฉันจับมือเขาแล้วรีบก้าวเลยได้รับเสียงดุจากเขา
“รู้น่า” ฉันพูดด้วยความรำคาญแล้วก็รีบก้าวเหมือนเดิม
ครืด~
“ว๊าย!” พอข้ามเรือเข้ามาได้กำลังก้าวลงบันไดขาซ้ายมันสไลด์ไปกับพื้นเรือค่ะ มันสไลด์แล้ว!กรี๊ด!!!
หมับ!
“ก็บอกว่าให้ระวัง!” โชคดีที่เขากอดเอวเอาไว้ทันหัวเลยไม่ไปฟาดกับพื้นเรือ แต่โชคร้ายนิดหน่อยที่โดนเขาตะคอกใส่
“ก็... / แม่ง บอกก็ฟังบ้างสิวะกอดไว้ไม่ทันจะทำยังไง”
“...ขอโทษ” เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันรู้สึกสลดต่อผู้ชายคนนี้ แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ใจฉันเริ่มเต้นผิดจังหวะเพราะการกระทำที่แปลกไปของผู้ชายคนนี้
“...ช่างเถอะ ไปนั่งได้แล้ว” เขาพยายามข่มอารมณ์โมโหไว้ฉันดูออกพอเขาบอกก็เลยว่านอนสอนง่ายด้วยการเดินไปนั่งแล้วปล่อยให้เขาคุยกับพี่คนขับกับพี่ลูกเรือ ไม่นานเขาก็เดิมมานั่งข้าง ๆ แล้วเรือก็ออกพาเราสองคนล่องออกไปกลางทะเล
...สวยจัง
“เอาไป”
“อะไร?”
“ใส่ไว้” เขาเอ่ยออกมาสั้น ๆ แล้วหันหน้ากลับไปมองวิวต่อส่วนฉันก็รับเสื้อเชิ๊ตฮาวายที่เห็นเขาถือตั้งแต่เดินออกจากวิลล่า
นึกว่าเขาจะเอามาใส่ทับเสื้อกล้ามของเขาซะอีก แต่ก็น่าจะเอามาใส่เองนั่นล่ะค่ะ อาจจะแค่ขี้เกียจถือเลยยื่นมาให้ฉันแค่นั้นล่ะถ้างั้นจะถือให้ก็ได้ไม่ได้ลำบากอะไรถ้าลำบากเดี๋ยวเอาตูด เอ๊ย! เดี๋ยวเอาก้นนั่งทับเอง
“ทำไมไม่ใส่?” เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีลูคัสก็หันกลับมาถามแถมน้ำเสียงยังไม่ดีอีกต่างหาก
“มันเกะกะ เดี๋ยวถือให้”
“ฉันไม่ได้เอาให้เธอถือ บอกให้ใส่ก็คือใส่ เธอจะนั่งโชว์นมทำห่าอะไร”
“ฮะ?” ฉันฟังคำพูดเขาแล้วก้มลงมองหน้าอกของตัวเองซึ่งมันก็ปกตินะ ไม่ได้โป๊อะไร...มั้ง ^_^!อันที่จริงก็โป๊นั่นล่ะ แปดชุดแปดสีของอีโก้มันโป๊ทุกชุดแต่ชุดนี้โป๊น้อยที่สุด...มั้ง
“ใส่สิวะจะให้พูดอะไรซ้ำ ๆ นักหนา” เขาดุอีกครั้งคราวนี้ฉันทนไม่ไหวกับพฤติกรรมที่เริ่มแปลกเยอะเกินไปของเขาเลยมองเขาแล้วอ้าปากพูดให้มันจบ ๆ ไม่เลย
“พูดอย่างกับหวง” โอเคค่ะฉันพูดออกไปแล้ว ถามว่ารู้สึกอายไหมที่มั่นหน้าพูดประโยคนี้ออกไปต้องบอกเลยค่ะว่าไม่ ฉันไม่อายเพราะฉันกำลังรู้สึกโล่งที่ได้พูดมากกว่า
“หึ!” พอได้ยินคำพูดฉันลูคัสก็แค่นเสียงออกมาเสร็จแล้วก็หันหน้าหนีเฉยเลย เอ้า! จะไม่พูดอะไรเลยรึไง โอเคค่ะไม่เป็นไร ไม่พูดอะไรฉันก็ไม่ใส่เสื้อตามที่เขาสั่งก็แค่นั้นแหละ
ฉันถือเสื้อของเขาไว้ในมือพร้อมกับนับเลขในใจ
...หนึ่ง
...สอง
...สะ
“อย่าลองดีกับฉัน บอกให้ใส่” เยส! พลังความมั่นของฉันไม่ทำให้ฉันหน้าแตกเพราะเขาหันกลับมาดุก่อนที่ฉันจะนับจบ อีโก้เอ๊ย~ ถ้ามึงได้ฟังกูเม้าท์พฤติกรรมทั้งหมดของคุณขาของมึงมึงไม่กรี๊ดแค่สามบ้านแปดบ้านหรอกแต่มึงต้องกรี๊ดตั้งแต่เจริญนครถึงรังสิตกูมั่นใจ
“ฉันไม่ใส่ ไม่อยากใส่ เสื้อนายนายก็ใส่สิ ถ้าฉันอยากใส่เสื้อคลุมฉันหยิบมาตั้งแต่แรกแล้ว”ฉันบอกพร้อมกับยื่นเสื้อคืนให้เขา ดูสายตาลูคัสตอนนี้สิคะ หวงเหรอ? ไม่น่าเลย...ไม่น่าใส่ชุดนี้มา น่าจะใส่ชุดที่มันโป๊กว่านี้เผื่อจะได้ยั่วเขามากขึ้น จะว่าไปพอเห็นเหยื่อเริ่มมีท่าทีติดกับก็ชักจะสนุกแล้วสิคะ
“ใส่”
“ไม่... / ถ้าไม่ใส่ฉันจับจูบเธอโชว์ไอ้เด็กเรือที่มันจ้องนมเธออยู่แน่ แล้วสาบานว่าฉันจะไม่แค่จูบแต่ฉันจะบีบนมเธอโชว์ความเป็นผัวให้มันดูให้จบ ๆ ไปเลย”