“อยู่ที่ไหน”
“บ้าน”
“บ้าน?”
“อือ”
“เปิดผับที่บ้านเหรอวะ”
“ยุ่ง!” ยุ่งเท่ากับเสือก!
“เดินมา”
“อะไร?” ฉันแกล้งถามเหมือนไม่เข้าใจแต่ใจกำลังเต้น ไม่ได้เต้นเพราะดีใจแต่มัน...เซ็ง
“เดินมา”
“เดินไปไหนอะไรของนาย”
“โต๊ะเดิม”
“โต๊ะเดิมบ้าอะไรประสาท”
“หรือจะให้เดินไป”
“...”
“ถ้าฉันไปเอง...ฉันจูบเธอโชว์คนทั้งผับ”
“นายไม่กล้าหรอก” ฉันตอบออกไปทันควันเพราะคนอย่างเขาไม่มีทางกล้าทำเรื่องแบบนั้นหรอก ไอ้จูบผู้หญิงโชว์คนน่ะใช่แต่ให้เดินมาจูบผู้หญิงเองไม่มีทาง
“หึ ๆๆ”
ติ๊ด!
“ฮัลโหล ฮัลโหล ลูคัส ลู...”
หมับ!
ว้าย!
ฉันโดนจับมือที่จับโทรศัพท์แนบหูเลยตกใจแล้วพอหันไปก็ตกใจยิ่งกว่าเพราะคนที่ท้าทายกันเมื่อกี้มาถึงตัวแล้ว
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย!” ฉันแหวใส่แต่สิ่งที่ได้คือรอยยิ้มชั่วร้ายจากเขาและมือที่ล็อกคอฉันในเวลารวดเร็ว
“อยู่บ้านเหรอ?”
“...”
“ท้าทายเหรอ?”
“ยะ อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะลูคัส” ฉันบอกเขาเสียงสั่นแล้วก็เอนตัวไปข้างหลังถึงมันจะยากลำบากและเอนได้นิดเดียวก็ตามระหว่างนี้ก็รู้ดีว่ามีสาตาหลายสิบคู่มองมาที่เราสองคน
“หึ!”
“อื้อ!!!” ฉันห้ามใจก็แอบหวังว่าเขาแค่แกล้งให้กลัว พยายามคิดว่าเขาจะไม่ทำอย่างที่ขู่หรอกแต่สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์ตอนนี้ฉันกำลังโดนผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกชายของเจ้าสัวที่รวยติดหนึ่งในห้าของเมืองไทยจูบในผับที่อัดคนไว้ในนี้หลายร้อยคน
เขาสอดลิ้นเข้ามาในปากแล้วจูบด้วยความเร่าร้อน ฉันอยากขัดขืนนะแต่สมองตอนนี้บอกให้ยอม ไม่ว่ายังไงก็ต้องยอมเพราะถ้าไม่ยอมเขาจะยิ่งทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะให้ได้
ฉันปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเอง อายก็อายแต่ก็ต้องปล่อยให้เขาจูบเพราะมันเป็นทางเดียวที่เขาจะยอมปล่อยง่าย ๆ
“อืม~” เสียงเพลงในผับดังแต่ฉันกลับได้ยินเสียงจากเขาแล้วไม่นานแต่จะว่าไปก็นานอยู่พักหนึ่งเลยล่ะคนที่ทำให้ฉันอายคนก็ถอนจูบออก
“...” ฉันสบตากับเขาด้วยความโกรธ โกรธจนอยากคว้าขวดเหล้ามาทุบให้เป็นปากฉลามแล้วแทงเข้าไปกระซวกไส้เขาให้ได้
“กลับ” เขาพูดแค่นั้นแล้วจับข้อมือฉันให้ลุกขึ้นเดินตามซึ่งฉันก็ต้องเดินตามไง แต่ถึงเขาไม่ลากกลับฉันก็จะกลับอยู่แล้วล่ะ ไม่อยู่ต่อแล้วอยู่ไปก็ไม่สนุก!
“ปล่อยสักที” เดินมาถึงรถฉันก็สะบัดมือออกซึ่งเขาก็ยอมปล่อยแล้วก็เดินไปขึ้นรถ ไม่ต้องให้นายนี่บอกฉันก็เดินไปขึ้นรถของเขาด้วยตัวเอง
บรื๊น~
เสียงดังของรถหรูที่ขับไปทางไหนใครก็มองแต่ฉันกลับรำคาญดังขึ้นแล้วรถก็ขับออกมาจากผับด้วยความเร็วทันที
“ใครสั่งให้มา” เสียงเขาดังขึ้นระหว่างที่กำลังขับรถ น้ำเสียงหาเรื่องที่ทำฉันแอบกรอกตามองบน
“แล้วทำไมจะมาไม่ได้”
“มาได้สิ แต่มาแล้วโกหกมันหมายความว่ายังไง”
“ก็ไม่อยากให้ยุ่งไง มีสิทธิ์อะไรมายุ่ง?” ฉันหันไปถามเขาที่กำลังขับรถอยู่ก็หันมามองหน้าฉันทันที
“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์อย่าลืมว่าพ่อเธอโกงเงิน... / พ่อเลี้ยง” ฉันพูดแทรกเพื่อให้ไอ้บ้านี่พูดให้ตรง พูดผิดความหมายผิดฉันไม่ชอบ
“นั่นมันเรื่องของเธอ” หึ! มันก็จริง เรื่องของฉันเขาก็เลยไม่แคร์ไง เขาจะแคร์อะไรล่ะถ้าเขาแคร์เขาแยกแยะไปนานแล้วว่าไอ้แก่หัวงูที่โกงเงินเขาไม่ได้เป็นอะไรกับฉันเลยนอกจากเป็นผัวใหม่ของแม่
“ถ้างั้นมันก็เรื่องของนายกับผัวแม่ฉันเหมือนกัน” เขาหันมามองหน้าฉันทันทีที่ได้ยินคำพูดของฉัน
“จะเบี้ยว?”
“...”
“ว่าไง เธอพูดแบบนี้คิดจะเบี้ยวรึไง”
“แล้วได้ไหมล่ะ”
“หึ ๆๆ ได้สิ แต่ถ้าเป็นฉันฉันคงไม่โง่เบี้ยวว่ะ ตัดดอกให้พ่อเลี้ยงกับแม่มาตั้งขนาดนี้แล้วถ้าเบี้ยวก็เท่ากับ เธอโดนเอาฟรี”