ทันทีที่ประตูบานกว้างถูกเปิดออกดวงตาของหญิงสาวก็เบิกโพลงขึ้นอย่างตื่นเต้น ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นบ้านพักของผู้ชาย มันเป็นระเบียบเรียบร้อยมากเสียจนทำให้เธอเริ่มไขว้เขวอีกครั้ง คล้อยตามว่าเขาอาจจะเป็นเกย์ตามที่ในข่าวเสนอออกมา
“คุณอยู่คนเดียวเหรอ”
“พูดกับผู้ใหญ่ให้มีหางเสียง คะ ขา บ้าง” ชายหนุ่มบอกอย่างตำหนิ
หญิงสาวยกมือไหว้ย่อตัวลงอย่างนอบน้อม แต่ตั้งอยู่ในอาการประชดประชัน “ค่ะเจ้าคุณพ่อ ต่อไปหญิงจะพูดมีหางเสียงทุกคำเจ้าค่ะ”
ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างระอา “ฉันเหนื่อยใจแทนพ่อแม่ของเธอจริงๆ”
“เชื่อเถอะว่าพ่อกับแม่ฉันไม่ได้เหนื่อยหรอก” หญิงสาวตอบกลับทันควัน แต่ก็เจอสายตาดุของคนตัวโตที่มองอยู่ก่อน หญิงสาวจึงลงท้ายคำเสียงเบา “ค่ะ”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง หยิบเสื้อยืดของตัวเองเดินออกมาและยื่นให้หญิงสาว “สวมทับของเธอเสียก่อน”
“ไหนบอกว่าไม่มีอะไรจะเห็นมากกว่าที่เคยเห็นแล้วไง”
ชายหนุ่มมองดุอีกครั้ง คราวนี้อีกคนจำยอมรับเสื้อในมือของเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากห้องรับแขก พอจะสวมทับมันก็ดูพองแปลกๆ หญิงสาวจึงถอดชุดเดิมของตัวเอง และใส่เสื้อของชายหนุ่มเอาไว้ เธอเดินกลับออกมาอีกครั้งก็เห็นเจ้าของบ้านอยู่ในห้องครัว เขากำลังจัดแจงเตรียมอาหารออกมาทำอย่างคล่องแคล่ว
“คุณจะทำอะไรคะ” คราวนี้หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน จนอีกคนหันกลับมามองอย่างแปลกใจ
“พูดเพราะเป็นนิ”
หญิงสาวค้อนให้เขาพองาม “พูดไม่เพราะก็ว่า พอพูดเพราะก็แซว ผู้ชายวัยทองมักเป็นอย่างนี้แหละ เอาใจยาก เข้าถึงยาก อารมณ์แปรปรวน”
“พูดประโยคเดียวตอบกลับมาเป็นชุดเลย” ชายหนุ่มบอกเสียงอ้อมแอ้ม หันกลับไปสนใจของสดตรงหน้าของตัวเองเหมือนเดิม
หญิงสาวยืดคอข้ามไหล่ของเขามองสิ่งที่ชายหนุ่มทำตรงหน้า เธอนึกอะไรออกบางอย่าง ต้องรักอมยิ้มออกมาพร้อมกับล้วงมือเข้าไปในกางเกงขาสั้นของตัวเอง หยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับตั้งเซลฟี่ถ่ายภาพเขาด้านข้างกับใบหน้าของตัวเองไว้หลายภาพ ก่อนจะกดปุ่มบางอย่างบนหน้าจอและตั้งเอาไว้เหมือนเดิม เรียกถามชายหนุ่มเสียงหวาน
“วันนี้นายหัวทำเมนูอะไรให้ชิมค่ะ” สาวบอกเสียงหวานเป็นครั้งแรก
เสียงหวานทำให้นายหัวหนุ่มหันกลับมามองอย่างแปลกใจ พร้อมกับตอบคำถามของเธอโดยที่ไม่รู้ว่าหญิงสาวตั้งถ่ายเผยแพร่ภาพสดเอาไว้
“ก็เห็นบอกว่าชอบอาหารอิตาเลี่ยน ก็เลยจะทำสปาเกตตี้ให้ลองชิม”
เมื่อได้ภาพตามที่ต้องการหญิงสาวก็รีบเลื่อนส่งและปิดโปรแกรมลงทันที เพราะเชื่อแน่ว่าประโยคถัดมาคงไม่โรแมนติกอย่างที่เธอตั้งใจเอาไว้
“เล่นอะไร” ชายหนุ่มดุเสียงเข้ม
นั่นไง! เป็นไปตามในสิ่งที่ต้องรักคิดเอาไว้ตั้งแต่ต้น แต่เพียงประโยคเดียวของเขากับรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งผ่านวีดีโอคอลไปเมื่อครู่ ก็ทำให้ลูกกวางดีดดิ้นได้สมใจเธอ
“ก็นานๆ จะมีผู้ชายทำอาหารให้ชิมสักที ฉันก็อยากเก็บภาพเอาไว้บ้าง เพราะคนที่กำลังทำอาหารให้ฉันมื้อนี้เป็นถึงเจ้าของเกาะมาหยามันตราที่ใครๆ ต่างไปฝันว่าจะได้ไปเหยียบสักครั้ง”
“เธอรู้ได้ยังไง!”
“คงจะเป็นเพราะแรงดึงดูดของคุณ ทำให้ฉันคลั่งไคล้ อยากรู้จนไปตามสืบมา” หญิงสาวเฉไฉสอบ
ชายหนุ่มส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายกับความโยกโย้เลี่ยงตอบไม่ตรงคำถามของเธอ
“ฉันเหลืออดกับเธอจริงๆ ปกติใช้ชีวิตอย่างนี้เสมอหรือไง” เขาตอบกลับเสียงเบาก่อนจะหันกลับไปสนใจอาหารของเขาต่อ
“ก็ไม่บ่อย เพราะฉันดันทำกับคุณเป็นคนแรก” คำตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มหันหน้ากลับสบตาคนพูดอีกครั้ง หัวใจของเขาสว่างวาบพองตัวอย่างไม่รู้สาเหตุ อาการที่เกิดขึ้นมันเรียกว่าอะไรเขาก็ยังบอกตัวเองไม่ได้
แต่พอหันมามองและได้เห็นแววตาจริงจังของเธอเขากลับทำหน้าไม่ถูกดื้อๆ ในที่สุดเขาก็เปลี่ยนเรื่อง ถามเรื่องอาหารของเธอแทน “เธอชอบพาสต้าเมนูอะไร”
“ปกติฉันเป็นคนชอบอาหารประเภทเส้นทุกชนิด กินได้หมด ฉันให้คุณเลือกเมนูที่คุณคิดว่าอร่อยที่สุด อยากออกแขกมากที่สุดก็แล้วกัน”
“งั้นก็เป็นเมนูอิตาเลี่ยนประยุกต์สูตรของฉันก็แล้วกัน”
“ขอให้ไม่ท้องเสียเป็นพอ”
“ไหนบอกจะช่วย ก็เข้ามาช่วยสิ” ชายหนุ่มขยับหลีกทางให้หญิงสาวเข้ามายืนข้างๆ ในขณะที่อีกคนยิ้มแหยส่ายหน้าหวือเหมือนบังคับให้กินยาขม ตอนแรกที่เธอบอกจะช่วยเพียงแค่อยากได้ภาพใกล้ชิดกับเขาเท่านั้น หญิงสาวยกมือขึ้นแตะท้ายทอยของตัวเองและเกาเบาๆ
“ฉันทำอาหารไม่เป็น”
“ผู้หญิงประเภทไหนกันทำอาหารไม่เป็น” ชายหนุ่มต่อว่าแบบไม่จริงจังนัก ในขณะที่ตาและมือของเขาสนใจอยู่กับหม้อตรงหน้า เขาหย่อนเส้นสปาเก็ตตี้ลงในน้ำเดือด จากนั้นก็หยดน้ำมันมะกอกกับเกลือลงในหม้อเล็กน้อย
“ก็ประเภทที่ว่าเจียวไข่ผสมเปลือก ด้านล่างมีสีน้ำตาลเข้มส่วนด้านบนยังเป็นน้ำเยิ้มๆ หุงข้าวนิ่มกว่าข้าวสารนิดหย่อย ต้มจืดรสชาติคล้ายๆน้ำทะเล แล้วก็...” หญิงสาวกำลังจะสาธยายต่อ แต่ชายหนุ่มก็รีบยกมือขึ้นกางห้ามให้เธอหยุดเอาไว้ก่อน
“ถ้าอย่างนั้นเธอไปนั่งรอที่โต๊ะดีกว่า” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวเสียงนุ่ม วัดจาก สกิลการทำอาหารของเธอ ขืนให้ช่วยทำคงจะได้วุ่นวายและใช้เวลานานมากกว่าจะทำเสร็จด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
“จริงๆ ฉันก็อยากช่วยนะ” หญิงสาวบอกย้ำ
คนตัวโตส่ายหน้าแรงๆ พร้อมกับใช้สองมือหนาดันแผ่นหลังของหญิงสาวให้เดินไปที่โซฟา ในขณะที่คนถูกดันหลบหน้าลอบยิ้มพอใจ
หลังจากส่งตัวหญิงสาวนั่งเรียบร้อย ชายหนุ่มก็กลับไปทำอาหารของเขาเหมือนเดิม ต้องรักใช้เวลาและโอกาสนี้ถ่ายภาพบรรยากาศในบ้านของเขาพร้อมกับโพสต์ลงไปในอินสตราแกรมของตัวเอง ไม่ลืมติดแฮชแท็กหวานชื่นให้เพื่อนสาวร่วมช่องอย่างลูกกวางได้เจ็บปวดเล่น คราวนี้เป็นตาของเธอที่จะได้เอาคืนบ้าง
#เติมไอทะเลให้เต็มปอดสำหรับวันพักร้อนแสนหวาน
#ขอบคุณนายหัวปัณณ์สุดที่รักที่ดูแลเป็นอย่างดีตลอดทริปการพักผ่อน
ต้องรักกดโพสต์และวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะด้านหน้า เธอยิ้มให้กับความสำเร็จของตัวเอง ถึงตอนนี้หญิงสาวเริ่มนับเวลาถอยหลังที่จะได้กลับไปเจอหน้าเพื่อนรุ่นพี่อย่างลูกกวาง และเธอก็ยังอยากเห็นหน้าป๋าดันอย่างนัตตี้ ถึงตอนนั้นเขาจะทำหน้าอย่างไรหากต้องส่งมอบงานโปรเจกต์ชิ้นโบว์แดงให้เธอ เพราะข้อมูลของเธอมีเพียบพร้อมจนเขาปฏิเสธไม่ลง
“ยิ้มอะไร” เสียงนุ่มของเจ้าของบ้านร้องทักขึ้นมา หญิงสาวสะดุ้งเหมือนคนทำอะไรผิด
ในมือของชายหนุ่มมีจานสปาเก็ตตี้ส่งกลิ่นหอมฉุย เขาใช้เวลาจัดการกับมันไม่นาน เพราะหลังจากที่เธอเดินออกมาจากในครัว สิ่งที่เธอที่ทำได้ในช่วงเวลาของชายหนุ่มทำอาหารก็คือแอบถ่ายรูปมุมต่างๆ ในบ้านของเขาและโพสต์อินสตาแกรมเท่านั้น
หญิงสาวส่งยิ้มให้ชายหนุ่มกลบเกลื่อน “ก็ยิ้มที่มีคนเลี้ยงข้าว ประหยัดไปอีกมื้อ” หญิงสาวบอกเสียงใส ยื่นมือไปรับจานจากชายหนุ่มพร้อมกับส่งสายตาอ้อน ย่นจมูกเล็กน้อย
ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงรับรู้ “กินไปก่อนได้เลย” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับส่งจานให้หญิงสาวแล้วเดินหันหลังกลับไปในครัวอีกครั้ง คราวนี้เขาออกมาพร้อมกับน้ำในแก้วสีขาวใบใหญ่สองใบ
“สปาเก็ตตี้หอยลายฝีมือฉันคงพอกินได้นะ” เสียงของเจ้าของบ้านร้องถามออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินกลับมาถึงโต๊ะที่หญิงสาวนั่งอยู่ เขาวางแก้วน้ำลงตรงหน้าเธอและถือแก้วโดยอ้อมไปอีกฝั่ง
“ยังไม่ได้ชิม ฉันรอคุณอยู่”
“รอทำไมล่ะ”
“ก็คำว่าพามาดินเนอร์มันต้องกินร่วมกันสองคนไม่ใช่หรือ อีกอย่างคุณก็ตั้งใจทำเลี้ยงฉันขนาดนั้น ฉันก็ควรจะรักษามารยาทโดยการรอคุณก่อน”
“งั้นก็ลงมือสิ” ชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญ
หญิงสาวส่ายหน้า “ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย”
ชายหนุ่มย่นหัวคิ้วขมวดเป็นปมอยู่ระหว่างแนวสันจมูก หันกลับไปมองหน้าหญิงสาวเรื่องมาก “ถ่ายรูปอะไรอีก”