ลูกป่วย

1124 คำ
02:30น. “ญีน่าเป็นอะไรลูก” ญาดาที่กำลังจะหลับ ถามคนที่ ดิ้นไปมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง จับตัวลูกน้อยด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นลูกที่หลับสนิทดิ้นไปมา เหมือนเป็นอะไรสักอย่าง ขนาดเธอจับตัวอยู่ก็ยังไม่หยุดดิ้น “ญีน่า!” ญาดาจับตัวลูกสาวมาสำรวจ เมื่ออาการของลูกดูเหมือยจะยิ่งรุนแรงขึ้น เด็กน้อยชักกระตุกไปในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ ที่อุ้มเธอมาอยู่ในอ้อมกอด “พี่กรอง! ช่วยด้วยค่ะ” ญาดาตะโกนเรียกพี่เลี้ยงเสียงดัง ในอ้อมกอดมีลูกสาวที่ตัวร้อนจี๋รวมทั้งผื่นขึ้นทั่วทั้งตัว “เกิดอะไรขึ้นคะ??” กรุณาวิ่งออกมาด้วยความตื่นตระหนก มองดวงใจทั้งสองที่อุ้มกันอยู่ แล้วรู้สึกจุกขึ้นมาในอก แต่รีบตั้งสติ แล้ววิ่งนำออกไปเรียกรถแท็กซี่ แต่รอเกือบสิบนาทีก็ไม่มีรถผ่านมาสักคัน “พี่กรองฝากปิดบ้านด้วย” เท้าเล็กๆเปลือยเปล่าวิ่งผ่านหน้าพี่เลี้ยงไปด้วยความเร็ว ในอ้อมกอดเธอมีลูกสาวตัวน้อยที่หมดสติ ในมือไม่มีอะไรเลย มีเพียงดวงใจดวงน้อยในอ้อมกอด ที่เธอแสนจะหวงแหน จุดมุ่งหมายคือโรงพยาบาลที่อยู่ห่างออกไปสองกิโลเมตรในเมืองใหญ่แห่งนี้ กรุณาที่คิดจะวิ่งตามไปเป็นต้องกลับเข้าไปในบ้าน เมื่อเห็นคุณหนูของตัวเองไม่ได้หยิบอะไรไปเลย คงจะไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดนั่นแหละ ญาดาวิ่งออกจากบ้านด้วยแรงทั้งหมดที่มี ตอนนี้ดึกมากๆ แล้วก็ไม่คิดจะหวังพึ่งรถแท็กซี่ หรือรถสาธารณะอื่นๆ เธอเช่าอยู่ที่นี่มาตลอด 6 ปี ตั้งแต่ยังอุ้มท้องลูกสาวอยู่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องวิ่งพาคนตัวเล็กมาโรงพยาบาล เธอจึงไม่ลังเลเลย แม้จะต้องอุ้มลูกวิ่งไปโรงพยาบาลด้วยเท้าเปล่าแบบนี้ก็ตาม ญาดาวิ่งมาเกือบครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงโรงพยาบาลด้วยสภาพเหนื่อยหอบ วางลูกสาวลงบนเปลที่บุรุษพยาบาลวิ่งมารับ ไม่มีเวลาให้พักหายใจ มือเล็กก็เกาะเตียงวิ่งไปพร้อมกับพยาบาล แล้วไปยืนหอบหายใจอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ในขณะที่ลูกสาวถูกเข็นเข้าไปด้านในห้อง “คุณแม่ใช่ไหมคะ รบกวนมาทางนี้ด้วยค่ะ” พยาบาลเดินมาเรียกญาดาที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เธอจึงรีบเดินตามไปทันที แม้จะห่วงลูกสาวที่อยู่ในห้อง แต่ตัวเธอเองก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว “น้องเป็นอะไรมาคะ” พยาบาลประจำตำแหน่งหน้าที่ซักประวัติถามญาดาที่ยังหายใจเหนื่อยหอบอยู่ “ตัวร้อนค่ะ ก่อนจะออกมาน้องชักกระตุกแล้วก็หลับไป ตามตัวมีผื่นแดง” ญาดาพูดออกไปเท่าที่ตัวเองเห็น “ค่ะ ช่วงนี้น้องได้ไปที่ไหนไหมคะ” พยาบาลยังคงถามต่อ “น้องเรียนอยู่อนุบาลค่ะ แต่หยุดเสาร์ อาทิตย์ และอยู่บ้านตลอด แต่วันนี้มีไปข้างนอกกับพี่เลี้ยงค่ะ” เป็นอีกครั้งที่ญาดาตอบคำถามพยาบาลได้ไม่ดีนัก พยาบาลพยักหน้าเพียงนิดเดียว จากนั้นก็เดินหายเข้าไปในห้องฉุกเฉินที่อยู่ข้างๆ ญาดารออยู่นาน หมอกับพยาบาลที่เข้าไปข้างในไม่มีใครออกมาเลย จนพี่กรองที่ตามมาทีหลังเดินมานั่งข้างๆ เธอถึงได้ละสายตาจากห้องฉุกเฉินมามอง “หมอยังไม่ออกมาค่ะ” “พี่ขอโทษถ้าพี่สังเกตุญีน่าดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องวิ่งมาแบบนี้” กรุณาวางรองเท้าแตะลงบนพื้น นั่งยองๆ พลางจับเท้าเล็กๆ ที่มีคราบเลือดติดอยู่ ขึ้นมาใส่รองเท้าที่เธอวางลง จากนั้นก็บีบมือคุณหนูของเธอไว้แน่น อย่างให้กำลังใจและรู้สึกผิด “หนูผิดเองค่ะ หยีต่างหากที่ไม่สนใจลูกเลย มาถึงก็ทำเพียงสิ่งที่อยากทำกับลูก ไม่ได้มองเลยว่าวันๆ หนึ่ง น้องญีน่าเป็นยังไงบ้าง” ญาดายกมือปิดหน้า เธอโชคดีแค่ไหนที่ได้พี่กรองช่วยเลี้ยงลูก ถ้าเป็นพี่เลี้ยงแบบที่ออกข่าว ป่านนี้ลูกเธออาจจะไม่ได้แค่เจ็บป่วย แต่ลูกเธออาจจะถูกพี่เลี้ยงทำร้ายก็ได้ เพราะว่าลูกของเธอก็ไม่ได้น่ารักสำหรับคนทุกคนอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนอื่นใครจะมาใจดีกับลูกของเธอได้ขนาดนี้ “หมอออกมาแล้วค่ะ” “หมอค่ะลูกสาวดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ” ญาดารีบถลาเข้าไปใกล้หมอ ถามอาการลูกสาวด้วยความร้อนใจ “น้องเป็นโรคมือ เท้า ปากนะครับ สาเหตุก็มาจากไปคลุกคลีกับเด็กที่เป็นโรคนี้ ส่วนการรักษา หมอให้อยู่ดูอาการที่โรงบาลสักสองสามวันนะครับ เพราะน้องเป็นหนักมาก ก่อนหน้านั้นน้องไม่มีอาการอะไรเลยเหรอครับ ทำไมถึงเพิ่งมา” หมออธิบายก่อนจะถามอย่างสงสัย “ดิฉัน…” “ก่อนหน้านั้นน้องมีไข้นิดๆ ค่ะ และผื่นนิดหน่อย นึกว่ายุงกัด เลยทายาแล้วก็ให้กินยาลดไข้ไปค่ะ” กรุณาเป็นคนตอบคำถามหมอ เพราะคนเป็นแม่ได้แต่ยืนนิ่ง “หมอให้นอนโรงพยาบาลนะครับ โรคนี้เป็นโรคติดต่อของเด็ก เดี๋ยวหมอจะให้ใบรับรองแพทย์ไป คุณแม่นำไปแจ้งที่โรงเรียนด้วยนะครับ ทางโรงเรียนจะได้กันเด็กที่คลุกคลีกับน้องออกจากเพื่อนคนอื่นๆ” ญาดาได้แต่พยักหน้า เพราะเธอก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว นอกจากทำตามคำแนะนำของหมอทั้งหมด “คุณหมอคะ ขอทราบค่าใช้จ่ายคร่าวๆ หน่อยได้ไหมคะ” ญาดาเอ่ยถามคุณหมอที่กำลังจะเดินจากไป “น้องติดเชื้อขั้นรุนแรง ค่ารักษาแบบผู้ป่วยใน เริ่มต้นที่สองหมื่นครับ อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ต้องดูอาการน้องครับ ถ้าเกิดมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อาจจะต้องจ่ายเพิ่ม แต่มากสุดไม่เกิน แสนห้าแน่นอนครับ” หมอเดินจากไปทันทีที่พูดจบ เพราะมีคนไข้รอตรวจอีกหลายราย “จะเอายังไงดีคะคุณหนู” กรุณาเดินมาถามคนที่ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ทันทีที่หมอเดินจากไป อย่าว่าแต่สองหมื่นเลย ตอนนี้แค่สองพันเธอยังมีไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ “ญาไปคุยโทรศัพท์แป๊บนึงนะคะ ฝากดูแลณีน่าด้วยนะคะพี่กรอง” ญาดาเดินจากไปเงียบๆ ลูกสาวเธอยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉินเลย จึงปล่อยหน้าที่รอให้เป็นของพี่กรอง เดินไปต่อสายโทรศัพท์ หาคนที่พอจะช่วยเธอได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม