“ขออภัยนะคะที่ล่วงเกิน”
สิ้นคำพูด ญาดาก็โน้มตัวเองลงอย่างรวดเร็ว เพราะเธอเตี้ยกว่าเขามาก ปากจึงโดนเนื้อแขนเขาเร็วอย่างใจนึก และเธอไม่คิดจะออมแรงเลยสักนิด แต่ไม่ยักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนจากคนที่เธอกัดอยู่เลย
“มีแรงแค่นั้น”
เขาพยายามกลั้นขำอยู่นะ ยัยนั่นทำเหมือนตัวเองเป็นหมาเลย อยู่ดีๆ ก็ก้มลงมากัดเขา แต่เพราะอะไรไม่รู้ ที่เขาคิดว่ามันไม่ได้เจ็บเลยสักนิด
นัยน์ตาคู่สวยซ้อนขึ้นมองทั้งที่ยังกัดแขนเขาอยู่ เขาไม่น่าพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นเลย เหมือนมอบโอกาศให้เธอกัดเขาเลยแฮะ
นัยน์ตาสีน้ำตาลสวย จ้องมองผู้หญิงที่ทำตัวเหมือนหมา และเป็นอีกครั้ง ที่เขารู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้าเธอแปลกๆ แรงที่ฟันเพิ่มขึ้นอีกนิด และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกแปลกยิ่งขึ้นกว่าเดิม และบางอย่างของเขามันกำลังแข็ง!!
สายตาที่มองมาของเธอมันทั้งโกรธ และดูยั่วยวนอยู่ในที หรืออย่างหลังเขาคิดไปเองทั้งหมด
“อะ โอ้ย!”
เข่าเล็กๆ กระทุ้งขึ้นอย่างแรง ญาดารีบผละออกไปด้วยความกลัว เมื่อคนตรงหน้าปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แล้วยกมือกุมเป้ากางเกงตัวเองไว้ ใบหน้าหล่อเหลาบูดเบี้ยวน่ากลัว ทั้งยังแดงก่ำ
“คุณคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็คุณไม่ปล่อย”
ญาดายืนตัวสั่นงันงกอยู่ตรงหน้า มือยกขึ้นไหว้ขอโทษเพราะไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ก็เขาไม่ปล่อย ทั้งที่เธอกัดไปแรงขนาดนั้น และสิ่งที่ทำเมื่อครู่ก็แค่ความคิดชั่ววูบ ไม่คิดว่าร่างกายจะตอบสนองความคิดเร็วขนาดนั้นนี่นา
“มานี่เลย!”
เมื่อทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ ร่างที่สูงกว่าก้าวทีเดียวก็ถึงร่างเล็กๆ ที่กำลังยกมือไหว้ขอโทษอยู่ ดึงเธอมาใกล้ แล้วบดเบียดริมฝีปากลงไปอย่างลงโทษ กล้ามาทำสิ่งที่เขารักที่สุดได้ยังไง เขาจะจัดการให้สาสมกับที่ทำลูกรักเขา
“อื้อ!”
มือเล็กๆยกขึ้นหวังทุบร่างกายแข็งแกร่งตรงหน้า แต่เขารู้ทันรวบมือเธอไว้ทั้งสองข้าง แล้วกำแน่นด้วยมือเพียงข้างเดียว มืออีกข้างยกขึ้นจับท้ายทอย ออกแรงบีบให้คนที่เขาจูบอยู่รับทุกการลงโทษจากเขา
“อ๊ะ!”
เพราะญาดาไม่ยอมง่ายๆ เธอจึงถูกฟันซี่คมกดลงที่ริมฝีปากล่างอย่างแรง ปากเล็กเผยอขึ้นเพราะความเจ็บ เปิดโอกาศให้ลิ้นร้อนๆ เข้าไปกวาดชิมความหวานจากปากเธอ
แววตาคู่คมทอดมองคนที่เขากำลังลงโทษอย่างสำรวจ ใบหน้าเล็กๆช่างคุ้นตาเหลือเกิน เขาเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อนรึเปล่า แล้วทำไมถึงยังปล่อยให้เธอมีชีวิตรอดมาจนถึงป่านนี้ ถ้าเขาเคยเจอเธอ เขาต้องเคยได้เธอแล้วสิ ไม่น่าปล่อยคนสวยแบบนี้ให้หลุดมือไปง่ายๆแน่
“อือ”
ทันทีที่เป็นอิสระ ร่างของญาดาก็ทรุดลงที่พื้น โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากคนที่ล่วงเกินตัวเองเลยสักนิด เขาปล่อยให้เธอนั่งเป็นผักถูกทิ้งอยู่ที่พื้น ในขณะที่เอาแต่ใช้สายตาสำรวจทุกๆอย่างบนร่างกายเธอ
“คราวหลังอย่าปากดีใส่ฉัน”
ร่างสูงที่สำรวจเธอทุกตารางนิ้ว พูดจบก็เดินไปทิ้งตัวนั่งบนเตียงอย่างใช้ความคิด ไม่สนใจคนที่กองอยู่ที่พื้นสักนิด เขาอยากรู้ว่าตัวเองเคยเจอเธอที่ไหน มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจำอะไรไม่ได้เลยแบบนี้ เขาต้องรู้จักเธอแน่ๆ
ร่างเล็กพยุงตัวขึ้นช้าๆ เมื่อเรี่ยวแรงกลับมาเป็นปกติ เดินไปเก็บของตัวเองเงียบๆ เมื่อตระหนักได้ว่าตอนนี้เธอเสียเวลามามากแล้ว
เมื่อเก็บทุกอย่างหมด ญาดาก็ไม่คิดจะอยู่ในห้องนั้นอีก เข็นรถที่ใช้เก็บอุปกรณ์ทำงานออกไปอย่างไม่รีรอ โชคดีที่เธอทำงานวันสุดท้าย ไม่อย่างนั้นชีวิตการทำงานเธอไม่สงบสุขแน่ๆ เพราะได้ยินมาว่า แขกวีไอพีคนเมื่อครู่ ยังอยู่ต่ออีกทั้งสัปดาห์
เพราะเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน ญาดาที่ไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่แล้ว ไม่คิดจะอยู่ร่ำลาใครทั้งนั้น กว่าจะออกจากที่ทำงานได้ ก็เสียเวลาไปมากแล้ว จึงเลือกนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน แทนรถเมล์ที่กว่าจะมาถึงป้าย ต้องใช้เวลาอีกนานทีเดียว
ร่างเล็กๆ ลงจากรถได้ ก็รีบวิ่งเข้าบ้านทันที เธอบอกลูกว่าจะเลิกเร็ว แต่ก็ทำไม่ได้อีกแล้ว ยัยตัวเล็กที่รอเธออยู่ที่บ้าน ต้องน้อยใจเธออีกแล้วแน่ๆ
“ญีน่า แม่กลับมาแล้วค่ะ” ญาดาเดินเข้าไปในบ้านพร้อมถุงใส่เค้กที่แวะซื้อก่อนเข้ามา เรียกหาคนตัวเล็กที่เป็นหัวใจอีกครึ่งของตัวเองเสียงดัง แต่ทั้งบ้านกลับเงียบสนิท ไร้เงาลูกสาวตัวเล็กกับพี่เลี้ยง
ญาดาวางกล่องเค้กไว้ที่โต๊ะอย่างรีบร้อน เดินหาคนทั้งสองทั่วทั้งบ้านแต่ก็ไม่เจอ ในใจว้าวุ่นกังวลไปต่างๆ นาๆ เมื่อหาในบ้านไม่เจอ ก็รีบวิ่งออกมาหารอบบ้านหลังเล็ก รวมถึงถามคนบ้านใกล้เรือนเคียงที่อยู่ข้างๆ แต่ไม่มีใครเห็นคนทั้งสองเลย
“ญีน่า อยู่ไหนคะ แม่กลับมาแล้ว” ร่างเล็กๆ พูดด้วยเสียงแหบพร่า เพราะความเหนื่อย ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและหยาดน้ำตา ทรุดตัวลงนั่งอยู่หน้าบ้านอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ป้ากลอง แม่ขากลับมาแล้ว”
เสียงเล็กๆดังอยู่ห่างออกไป ทำให้คนที่นั่งหมดแรงร้องไห้อยู่ เงยหน้ามองไปในทิศทางของเสียง เมื่อเห็นคนทั้งคู่เดินมาใกล้ ก็รีบลุกขึ้นไปหาลูกสาวสุดที่รัก ดึงร่างเล็กๆมากอดไว้ด้วยความดีใจ
“แม่ขอโทษค่ะ แม่ขอโทษ” ความรู้สึกผิดมีมากกว่าความดีใจ เพราะเธอมาช้าเองทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ ทุกอย่างมันผิดที่เธอ
“พี่ผิดเองแหละค่ะ ที่ไม่ได้โทรบอกก่อน เพราะคิดว่าน่าจะงานยุ่ง วันนี้ที่ห้างใกล้ๆ จัดงาน พี่เลยพาน้องญีน่าไป อย่างน้อยๆวันเกิดของเธอ ก็น่าจะได้ไปเที่ยวบ้าง” กรุณา หรือพี่กรองอยากจะเอ่ยตำหนิไปตรงๆ แต่ยิ่งทำแบบนั้น คนตรงหน้าเธอจะยิ่งรู้สึกผิด แต่ครั้นจะไม่พูดเลย ก็นึกสงสารหลานตัวเอง
“ของคุณค่ะพี่กรอง” ญาดายกมือไหว้ขอบคุณ คนที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงของตัวเอง และพี่เลี้ยงของลูกสาว
“เข้าบ้านเถอะค่ะ ดึกแล้ว” กรุณาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ เดินนำเข้าบ้านไป โดยมีแม่ลูกเดินตามเข้าไปห่างๆ
ญาดารีบเดินไปหยิบเค้กกล่องเล็กที่ตัวซื้อมาด้วย จุดเทียนแล้วร้องเพลงวันเกิดให้ลูกสาวอย่างทุกที เพราะเงินเดือนยังไม่ออก เงินก็เหลือเพียงนิดเดียว อยากจะซื้อของให้ลูกดีกว่านี้ แต่เงินของเธอมีไม่มาก จึงต้องเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น
งานวันเกิดเรียบง่ายมีขึ้นและจบลงด้วยความสุขของคนสามคน แม้กรุณาจะรู้สึกขัดใจทุกครั้งที่หลานของตัวเองถูกละเลยในวันเกิด แต่ก็ทำได้แค่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ เพราะรู้ดีว่าคนตัวเล็กตรงหน้าพยายามที่สุดแล้ว