ญาดา

902 คำ
ญาดาก้าวเท้าออกมาจากบ้านหลังเล็ก เธอคือผู้หญิงที่สูงกว่า 160 เซนติเมตร หน้าตาไม่ได้สวยโดดเด่น หรือเป็นที่น่าจับตามองของคนรอบข้าง เพราะเธอไม่ได้แต่งหน้าเลยทั้งที่มีรูปหน้าดี ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติของมัน แม้เธอจะอายุย่างเข้า 26แล้วก็ตาม “แม่ขา หนูไปด้วย”  ร่างเล็กๆของเด็กหญิงวัยห้าขวบ วิ่งตามออกมาหน้าบ้าน ร้องเรียกคนเป็นแม่ให้หยุดรอ ในขณะที่เท้าเล็กๆ รีบสวมรองเท้า เพราะกลัวจะไม่ได้ไปกับคนเป็นแม่อย่างทุกที “แม่ต้องไปทำงานนะคะ”  ญาดามองเด็กผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนตัวเองเพียงเสี้ยวเดียวนิ่งๆ ทำไมกันนะ เธออุ้มท้องลูกมาคนเดียวถึงเก้าเดือน เลี้ยงเองคนเดียวอีกห้าปี ทำไมลูกถึงไม่เหมือนเธอเลยสักนิด ทั้งนิสัยทั้งหน้าตา ทำไมต้องไปละม้ายคล้ายคนที่ทิ้งเธอ ไปอย่างไม่ใยดีทั้งหมดด้วย “น้องญีน่า กลับเข้าบ้านเลยนะ”  กรุณา พี่เลี้ยงที่ช่วยดูแลลูกสาว รีบวิ่งออกมาอุ้มร่างเด็กหญิงไว้ เมื่อคนตัวน้อยไม่ยอมหยุด จะเดินตามคนเป็นแม่ออกไปจากบ้าน “ญีน่า ถ้าวันนี้เป็นเด็กดี แม่จะรีบกลับมาหา” ญาดานั่งยองๆตรงหน้าลูกสาว จับใบหน้าเล็กไว้แล้วหอมแก้มเด็กน้อยแรงๆทั้งสองข้าง รักเหลือเกิน แต่บางครั้งก็รู้สึกเกลียดชังใบหน้าจิ้มลิ้มนี้ เกลียดที่ไม่ยอมหน้าเหมือนเธอเลย ยิ่งหน้าเหมือนเขามากเท่าไหร่ ยิ่งกรีดแผลใจคนเป็นแม่ ให้เจ็บปวดใจอยู่ทุกวัน “จริงเหรอคะ อย่าหลอกหนูอีกนะคะ” เด็กน้อยมีแววตาดีใจ แต่ก็เศร้าสร้อยพอๆ กัน จนคนเป็นแม่ต้องดึงไปกอดไว้แรงๆ ด้วยความสงสาร “แม่จะรีบกลับนะคะ ฝากด้วยนะคะพี่กรอง”  ญาดาอุ้มลูกสาวส่งให้พี่เลี้ยง เห็นชัดว่าลูกสาวไม่อยากไป แต่เธอไม่มีทางเลือก เธอต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองกับลูก เพราะชีวิตตอนนี้ เหลือกันแค่สองคนแม่ลูกแล้ว ร่างเล็กเดินอย่างรีบร้อนไปขึ้นรถประจำทางหน้าปากซอย เธอทำงานในโรงแรม เงินเดือนแค่พอเลี้ยงปากท้องคนทั้งสามได้ แม้จะลำบาก แต่ไม่เคยท้อเลย เพราะยัยตัวเล็กที่ต้องทิ้งมาเพื่อหาเงินนั่นแหละ ญีน่ากำลังโต เธออยากเก็บเงินไว้ให้ลูกเยอะๆ ลูกจะได้ไม่ลำบากเหมือนตัวเอง ปี๊บ! ปี๊บ! เอี๊ยด!  เสียงแตรลากยาว ส่งผลให้ร่างคนที่กำลังจะก้าวข้ามถนน หลังลงจากรถโดยสาร เพื่อไปยังที่ทำงานของตัวเองที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จำต้องวิ่งขึ้นฟุตบาทไปอีกครั้ง เมื่อรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง เสียงแตรดังลั่น พร้อมกับรถที่หยุดลงด้วยแรงเบรค “อยากตายรึไง!” ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวด้วยชุดแบรนด์เนม ดวงตาถูกปกปิดด้วยแว่นสีดำ เปิดประตูเดินลงจากรถ มาตะโกนด่าคนที่จะวิ่งตัดหน้ารถของตัวเอง จนคนที่อยู่แถวนั้นมองมาที่ญาดาอย่างตำหนิ “คุณไม่เห็นเหรอคะ ว่าตรงนี้มันป้ายรถเมล์ ใครเขาขี่รถเลนนี้ด้วยความเร็วขนาดนั้นกัน แล้วไม่ต้องด่าค่ะ เพราะว่าตรงนี้ไม่มีสะพานลอย ทางม้าลายก็ไม่มี ถ้าคุณอยากจะด่า คุณไปด่าทางหลวงนู้น ที่ไม่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ใครมันจะอยากเอาชีวิตไปเสี่ยงตายอยู่ทุกวี่วัน” ญาดากอดอกด่ายืดยาว เรื่องอะไรจะโดนด่าอยู่ฝ่ายเดียว ใครมันจะมาอยากตาย ตอนอายุ 26 อีกอย่างลูกเธอรออยู่ที่บ้าน เธอไม่มีวันตายเป็นอันขาด ใบหน้าคมคายภายใต้แว่นดำ มองหน้าคนที่ด่าเขาฉอดๆ เพ่งมองให้ชัด ว่าเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่า ทำไมผู้หญิงคนนี้ช่างคุ้นหน้าเหลือเกิน “ญาณิสา??”  เจ้าของรถหรู ที่เป็นสาเหตุทำให้รถติดอยู่ตอนนี้ ไม่สนใจรอบตัวสักนิด เขาสนใจเพียงผู้หญิงที่เคยรู้จัก ผู้หญิงที่เคยมีความสัมพันธ์ด้วย เจ้าของชื่อมองมาอย่างสงสัย เธอไม่รู้จักคนรวยที่ไหน ที่รู้จักตอนนี้ก็มีแต่เพื่อนร่วมงาน ไม่ก็พี่เลี้ยงของลูกสาวเท่านั้น ผู้ชายที่ขับรถหรูแบบนี้เธอไม่รู้จักแน่นอน “จำพี่ไม่ได้เหรอ?” มือหนาหยิบแว่นตาออกจากใบหน้า จึงเห็นแววตกใจจากคนตรงหน้า ก่อนที่ทุกอย่างจะแปรเปลี่ยนไปเป็นโกรธเคือง และเย็นชา “ขอโทษนะ ฉันไม่เคยรู้จักคุณ”  ญาดามองซ้ายขวาอีกครั้ง ก้าวเดินมุ่งหน้าสู่อีกฟากของถนน เธอสายแล้ว แม้จะมาก่อนเวลา แต่ก็เสียเวลาไปพอสมควร “ยาหยี”  ปี๊บ! ปี๊บ!  "ยาหยี" ผู้ชายคนนั้น ป้องปากตะโกนเรียกคนที่รีบวิ่งข้ามถนนไป อยากจะตามเธอไป แต่รถที่อยู่ข้างหลังเริ่มบีบแตรไล่เขาแล้ว บางคนตะโกนออกมากจากข้างใน ก่นด่าบุพการีไปพร้อมกับบีบแตร เขาจึงต้องกลับขึ้นรถแล้วขับออกไปยังจุดมุ่งหมายของตัวเอง เขาตามหาเธอมาตลอด 6 ปี แต่ไม่เคยเจอเธอเลย แล้วอยู่ๆ วันนี้ กลับมาเจอเธอโดยบังเอิญอย่างนี้นะเหรอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม