“พี่ชาร์ลไหวไหมคะ?” มือนุ่มแตะเบาๆที่หลังแขนขวา คำถามของผิงทำให้ผมหันไปมอง ส่ายหน้าช้าๆ ถอดหมวกที่ใส่อยู่ออกยื่นมันไปให้พี่คชา เจ้าของสนามแข่งกระชากมันไปจากมือ เดินสำรวจรอบตัวรถ จากนั้นก็มองมาที่ผม “จ่ายค่าซ่อมให้กูเลยนะมึง! ทำอะไรสิ้นคิด!” พูดจบรุ่นพี่ที่พวกเราทั้งกลุ่มเคารพก็เดินหนีไปอยู่ข้างสนาม ไม่นานรถคันที่ซีขับ กับรถคันที่ผมขับ ก็มีพนักงานของสนามมาขับมันออกไป ทุกอย่างค่อยๆกลับไปสู่สภาวะปกติ มีเพียงผมที่ยังยืนอยู่ที่เดิม และผิงที่ขยับตัวอย่างกระวนกระวาย “พี่คะ! เหมือนเขาจะเริ่มแข่งแล้ว” “ขอโทษนะ แต่ฉัน ทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว” ผมหันไปมองเธอ บอกเธอเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้มเจ็บปวด เธอพยักหน้าช้าๆ “ผิงรู้ค่ะ รู้มานานแล้ว เพียงแต่มันยังอยากพยายามอีกนิด” “ทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวัง” “ใช่ค่ะ ความพยายามไม่เคยทำร้ายใครนี่นา” ผมเคยเกลียดเธอ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกต่างออกไป ใบหน้าสวยหว