พี่ชาย

1388 คำ
“อึก! อื้อ ฮึก ฮือ” เสียงร้องกลายเป็นเสียงสะอื้น ผมผละออกห่างหมุนร่างคนในอ้อมกอดกลับมา ใช้มือไล้ใต้ดวงตาเบาๆ ในจังหวะที่กำลังจะโน้มใบหน้าลงไปกดริมฝีปาก ประตูรถก็ถูกกระชากออกกว้าง พร้อมกับมือที่เอื้อมมาคว้าร่างของไซซีออกไปจากตัก “พะ พี่ซาร์!” “เออ! กูเอง!” พี่ซีซาร์ พี่ชายของไซซีหน้าตึงสนิท ดวงตาสีเดียวกันกับของไซซี จ้องมองผมด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเห็นว่าคนตัวเล็กที่เขาดึงออกไปมีน้ำตา คนตัวสูงกว่ายิ่งมองผมเหมือนจะฆ่าให้ตาย “ถ้ามึงทำตัวระยำ กูบอกว่าไม่ต้องมายุ่งกับน้องกูใช่ไหม? มึงจะไม่ฟังกู?” พี่ซีซาร์ถามพลางลูบแผ่นหลังเล็กๆขึ้นลง ผมขยับตัวลงจากรถ ปิดประตูเบาๆ มองคนในอ้อมกอดเขานิ่งๆ ไม่ให้ผมยุ่งงั้นเหรอ ทำแบบนั้นได้ที่ไหน แล้วที่บอกว่าผมทำตัวระยำ ผมทำแบบนั้นกับซีหรือยังเหอะ ถึงผมจะปากร้ายใส่ แต่ผมไม่เคยทำแบบนั้นกับซีเลย มีแค่ช่วงนี้แหละที่ผมเป็นบ้า และที่ผมเป็นแบบนี้ มันก็เพราะยัยซีทั้งนั้น “มึงจะไม่ฟังสินะ?/ พะ พี่ซาร์ ซี อยากกลับบ้าน” เมื่อคนที่มีความสูงมากกว่าผมเล็กน้อย ขยับตัวเหมือนจะพุ่งเข้ามาพร้อมหมัด ไซซีก็รีบชวนเขากลับ พร้อมดึงเสื้อไว้ไม่ให้พุ่งเข้ามา พี่ซีซาร์ก้มมองใบหน้าคนตัวเล็ก ถอนหายใจแรงๆ เพื่อระบายความโกรธ “ตอนนั้นมึงไม่รักษาไว้เอง จะมาโทษพวกกูไม่ได้ กลับกันเถอะซี ต่อไปนี้อย่าไปยุ่งกับมันอีกนะ” รอยร้าวที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลแค่ผมกับไซซี แต่เหตุการณ์นั้นทำให้ครอบครัวของพวกเราไม่เหมือนเดิม พ่อแม่ผม โทษว่าเธอทำเกินกว่าเหตุ ส่วนครอบครัวเธอ โทษว่าผมปกป้องคนอื่น ไม่ยอมปกป้องเธอ เมื่อถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ผมก็ไม่มีความคิดจะเดินเข้าไปในคลับของพ่อไอ้ฟาโรห์ หมุนตัวเดินไปเรียกรถโดยสารบริเวณหน้าอาคารขนาดใหญ่ เมื่อขึ้นมานั่งอยู่บนรถ ก็คิดทบทวนสิ่งที่จะทำ ต่อให้ใครขัดขวาง ผมก็ไม่มีทางปล่อยเธอ วันต่อมา 09 : 45 น. @มหาวิทยาลัย X “กรี๊ด! ใครอะ คนนั้นใคร? หล่อโคตร ดาราใหม่หรือเปล่า? มาถ่ายละครในมอเราเหรอ?” เสียงเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่บริเวณม้าหินอ่อน ถัดไปจากจุดที่ผมกับเพื่อนๆนั่ง ทำให้พวกผมทั้งสามคนหันไปมองอย่างสนใจ เมื่อเห็นว่าคนที่สาวๆกำลังพูดถึง เป็นพี่ซีซาร์ และด้านหลังเขาคือไซซี ที่เดินเหมือนกำลังแอบอะไรอยู่ ใบหน้าผมก็ตึงสนิท ไม่คิดเลยว่าเขาจะเล่นกับผมแบบนี้ นี่ถึงขนาดถ่อมาคอยกันท่าผมถึงที่นี่เลยเหรอ คิดว่ากันคนแบบผมได้หรือไง โคตรตลกอะ! “พี่ซาร์ไม่ต้องมาส่งถึงนี่ก็ได้” “ทำไม? พี่มาไม่ได้เหรอ?” “หึ!” ผมหัวเราะเบาๆ ให้คนอายุเกือบจะสามสิบปีได้ยิน พี่ซีซาร์หันมามองทันที ใบหน้าดูดีที่ทำให้สาวๆในตอนนี้คลั่งไคล้ ฉายความน่ากลัวออกมา แต่ผมไม่กลัวหรอก เขาก็เหมือนผมนั่นแหละ พวกปากไม่ค่อยดี แต่ในใจไม่มีอะไร “ส้นตีนติดคอมึงเหรอชาร์ล กูเอาตีนเขี่ยออกให้ไหม?” พี่ซีซาร์พูดอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง ไม่สนใจแม้กระทั่งหน้าที่การงานของบุพการี ยังคงความปากหมาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ผมล่ะนับถือจริงๆ “พี่ซาร์! อย่ามีเรื่องที่นี่นะ” คนตัวเล็กห้ามเสียงแผ่ว ความไม่สบายใจฉายชัดออกทางสีหน้า ผมจึงไม่ตอบโต้อะไรเขากลับ ส่วนพี่ซีซาร์เองก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ ไซซีเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาเชื่อฟัง “ถ้ามีอะไรโทรไปบอกพี่นะ” “ค่ะ” “อือ เลิกเรียนเจอกัน” “ค่ะ” พี่ซีซาร์หันมาทำหน้ายักษ์ใส่ จากนั้นค่อยเดินออกไปจากบริเวณสวนพักผ่อนของคณะบริหาร บรรยากาศกลับมาเป็นปกติ แต่ก็ยังมีสาวๆหลายคนทำหน้าเพ้อฝันต่อไปอีก “พี่ซาร์กลับมาอยู่ที่นี่ถาวรเหรอซี?” คิงถามไซซี ในสิ่งที่ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน “เปล่า มาทำธุระเรื่องงาน” “จะอยู่กี่วันอ่า?” “หนึ่งเดือน” “โห! โคตรนาน!” นั่นสิ จะอยู่ทำหอกอะไรวะ แค่นี้ก็มีคนคอยขัดขวางมากพอแล้วนะ ถ้าพี่ซีซาร์อยู่อีกคน บอกเลยว่าการทำให้ไซซีกลับมาเป็นของตัวเอง มันจะไม่ง่ายเลย “มีอะไรสงสัยอีกไหม?” ไซซีพูดกับไอ้คิงแต่มองมาที่ผม เหมือนกับว่าผมเป็นคนอยากรู้ซะเอง คือ…มันก็ใช่แหละ แต่ไม่ได้แสดงออกขนาดนั้นไหม หรือใช่วะ? “มี!” “กวนตีนแล้วคิง ฉันขึ้นห้องแล้ว” “มีจริงๆ!” “เรื่องอะไรล่ะ ถามมาสิ!” ไซซีทำหน้าตึง เพิ่มระดับเสียงจนคนอื่นๆหันมามอง “เจอกับน้องผิงหรือยัง?” “อ่า … ” “ผิงกลับมาเรียนแล้วนะซี” “อืม ฉันจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอีก” คนตัวเล็กเดินจากไปช้าๆ ท่าทางของเธอดูน่าสงสารเมื่อได้ยินชื่อของคู่กรณี แต่กลับไม่มีใครมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นเลย เพื่อนๆที่อยู่บริเวณนี้ หันหน้าเข้าหากันพูดนินทาเรื่องไซซีเสียงดัง เป็นเรื่องที่ฟังแล้วหงุดหงิดจนทนฟังไม่ได้ ปึ่ง! “พวกมึงก็เก่ง แค่ตอนอยู่ลับหลังซีนั่นแหละ!” คนพวกนั้นสะดุ้งกันทั้งแถบ ผมส่งสายตาดุดันไปปรามอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน ก้าวเดินเข้าไปด้านในอาคารขนาดใหญ่ เดินเร็วๆเพื่อตามคนตัวเล็กให้ทัน เมื่อเห็นว่าไซซีอยู่ในลิฟต์ที่กำลังจะปิด ก็รีบเปลี่ยนเป็นวิ่งไปให้ทัน ใช้มือกั้นประตูไว้ แทรกตัวเข้าไปยืนด้านใน ใบหน้าสวยไม่พอใจหนัก เมื่อภายในลิฟต์ไม่มีใครอื่นเลย มีแค่ผมกับเธอ แม่ง! โคตรเข้าทางผมเลยว่ะ! ปึก! “อ๊ะ! จะทำอะไร!?” ผมเดินเข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นทาบผนังกักขังคนตัวเล็กไว้ ไซซีถามเสียงสั่น เงยใบหน้าสวยหวานขึ้นมอง เมื่อเห็นผมทำท่าทางเหมือนจะกดใบหน้าลงไปหา ดวงตาสีฟ้าสวยก็หลับลงพลางเบือนหน้าหนีไปด้านข้าง ผมหัวเราะในลำคอเบาๆที่แกล้งซีได้สำเร็จ ก็อยากทำจริงๆอยู่หรอก แต่อีกเดี๋ยวลิฟต์ก็ขึ้นไปถึงชั้นสุดท้ายแล้ว ผมไม่อยากไปนั่งอารมณ์ค้างอยู่ในห้อง แข็งแต่ไม่เสร็จ มันจะเหนื่อยมือตัวเองเปล่าๆ ติ๊ง! เมื่อสัญญาณเตือนดังขึ้น ผมก็ผละออกห่างจากร่างของไซซีอย่างเสียดาย คนตัวเล็กก้าวเดินผ่านร่างผมไปอย่างรวดเร็ว ส่วนผมก้าวตามไปช้าๆ แอบยกยิ้มให้แผ่นหลังคนที่กำลังพยายามดิ้นรนหนี ปึ่ก! พลั่ก! “อึก!” “เห้อ! ไม่รู้จะรีบไปไหน ขาก็มีแค่นั้น” “นี่! ฉันเป็นแบบนี้เพราะใครล่ะ!” ใบหน้าสวยหันกลับมามอง ดวงตาสีฟ้าใสเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง คำพูดของเธอทำผมหลุดหัวเราะออกไป ยัยเตี้ยโทษผมอีกแล้ว ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย เธอเป็นคนหนีและเข้าใจผิดไปเอง เหมือนกับทุกๆเรื่องที่ผ่านมา พรึ่บ! “จับมือสิ หรือจะให้อุ้ม?” “ไม่เอาทั้งสองอย่างนั่นแหละ!” “เธอต้องเลือกมาแค่สองทางนี้ หรือจะให้ฉันเลือกให้?” “ไอ้! เผด็จการ!” กล่าวหาผมเสร็จ มือเล็กๆก็เอื้อมมาหา ผมคว้าไว้ทันที ออกแรงดึงจนร่างของไซซีเซขึ้นมาซบกับอก ขยับตัวอีกครั้งเร็วกว่าเดิม เพื่อช้อนร่างกายเล็กๆของเธอขึ้นอุ้ม เดินดุ่มไปยังห้องเรียนที่อยู่ห่างไปไม่ไกล เดินเข้ามาวางเธอไว้บนเก้าอี้ประจำของตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม